5 วิธีสร้างแรงบันดาลใจให้ตัวเองในวันที่ท้อ

WM

การคิดถึงแต่สิ่งดีๆ มองโลกในแง่บวก เราก็จะรู้สึกมีความหวังมีกำลังใจมากขึ้น

ทุกคนต่างก็ต้องเจอกับปัญหาและอุปสรรคในชีวิต ความจริงข้อนี้ไม่มีใครหลีกหนีไปได้อย่างแน่นอนค่ะ ปัญหาต่าง ๆ ที่เข้ามารุมเร้ากับชีวิตนั้นบางทีก็ทำให้เรารู้สึกท้อแท้ หมดกำลังใจ จนไม่อยากจะเดินต่อไปข้างหน้า ไม่ว่าจะทำอะไรก็มืดมน หาทางออกไม่เจอ รู้สึกเฟลไปหมด แก้ไขปัญหาให้กับชีวิตของตัวเองไม่ได้ เราจึงจำเป็นต้องมีตัวช่วยให้กลับมามีกำลังใจขึ้นอีกครั้งนั่นเอง

เวลาที่เรามีเป้าหมาย ช่วงเวลาที่เราได้เริ่มต้นอาจเป็นช่วงเวลาที่สนุกที่สุด รู้สึกมีแรงบันดาลใจ อยากทำสิ่งต่าง ๆ มากมายที่จะช่วยให้เราไปถึงเป้าหมายนั้น แต่เมื่อเราอยู่บนเส้นทางนี้นานวันเข้าหลายครั้งก็อาจนึกท้อใจขึ้นมาเพราะยังไม่เห็นผลลัพธ์สักทีหรือเจอกับอุปสรรคต่างๆ ที่เข้ามา จนทำให้เรารู้สึกว่าความพยายามที่ผ่านมาของเราแทบไม่มีค่า วันนี้มีเคล็ดลับดี ๆ ที่จะช่วยฮีลใจให้คุณพร้อมสู้ต่อในวันที่ท้อกันค่ะ

WM
ขอบคุณภาพจาก: https://www.freepik.com/author/cookie-studio

1.นึกถึงวันแรกว่าทำไมถึงเริ่มต้นทำสิ่งนี้
การที่เรารู้สึกท้อคือการที่เรารู้สึกสิ้นหวัง ดังนั้นเราอาจต้องกลับไปทบทวนถึงตอนแรกที่เราได้เริ่มต้นเป้าหมายของเราว่าเราทำสิ่งนี้ไปเพื่ออะไร ความหวังของเราคืออะไร เพื่อดึงความรู้สึกนั้นกลับมาอีกครั้งและนำมาเป็นแรงฮึดในการเดินหน้าต่อเพื่อไปให้ถึงเป้าหมาย

2.อย่าคาดหวังถึงผลลัพธ์เร็วเกินไป
การที่เราเริ่มต้นอะไรสักอย่างก็เหมือนการปลูกต้นไม้ เมื่อเราได้เพาะเมล็ด รดน้ำ พรวนดินไป แน่นอนว่าต้นไม้คงไม่ออกดอกทันที แต่เชื่อเถอะว่ามันมีการเปลี่ยนแปลงอยู่ใต้ดินที่เรามองไม่เห็นแน่ๆ ไม่มีความพยายามไหนที่สูญเปล่า เพียงแค่ยังไม่ถึงเวลาที่เราจะได้ชื่นชมความสำเร็จก็เท่านั้น การที่เราคาดหวังถึงผลลัพธ์เร็วเกินไปอาจทำให้คุณรู้สึกท้อใจและยิ่งตอกย้ำคุณทุกวันว่าสิ่งที่คุณทำนั้นไม่ได้ผลสักที ทั้งที่จริงแล้วมันมีการมันเริ่มมีพัฒนาการอย่างช้าๆ เพียงแค่คุณยังมองไม่เห็นเท่านั้นเอง เหมือนกับเมล็ดพันธุ์ที่อยู่ใต้ดินและรอการผลิบานที่เราจำเป็นต้องอดทนรอให้ถึงวันนั้น

3.จัดตารางชีวิตใหม่ให้สมดุล
บางทีคุณอาจไม่ได้ท้อแต่แค่เหนื่อย การทุ่มเทเพื่อให้ถึงเป้าหมายอาจทำให้คุณรู้สึกเหนื่อยและกดดันเกินไป ลองหยุดพักผ่อนสักครู่ แล้วจัดตารางชีวิตใหม่ให้สมดุลมากขึ้น เช่น คุณอาจแบ่งเวลาใหม่โดยซอยเป้าหมายให้เล็กลงและทำให้บ่อยขึ้นแทน แบ่งเวลาพักผ่อนให้เหมาะสม จัดสรรตารางชีวิตให้สมดุลขึ้น เมื่อคุณได้ความสมดุลกลับมาคุณก็จะสามารถลงมือทำได้อย่างยั่งยืนในระยะยาวโดยไม่ส่งผลกระทบด้านลบต่อสุขภาพจิตและสุขภาพกาย

WM
ขอบคุณภาพจาก: https://www.freepik.com/author/tirachardz

4.ชื่นชมตัวเองว่าเก่งและอดทนแค่ไหน
เมื่อเราเดินทางในเป้าหมายมาสักพักและเริ่มรู้สึกท้อ เราอาจต้องพักทบทวนบ้างว่าที่ผ่านมาเราได้ทำอะไรลงไปแล้วบ้าง แต่แทนที่จะโฟกัสว่าทำไมเรายังไม่ถึงเป้าหมายเพียงอย่างเดียว ในทางกลับกันเราควรมองที่พัฒนาการของเรา ชื่นชมและให้กำลังใจตัวเองกับความพยายามและความทุ่มเทที่ผ่านมาของเราด้วยว่าเราเก่งและอดทนแค่ไหนที่มาไกลถึงจุดนี้ได้เพราะกำลังใจจากตัวเองคือสิ่งที่สำคัญที่สุดในการก้าวต่อไป

5.ให้รางวัลกับตัวเองบ้าง
ความพยายามของเรามีคุณค่าเสมอ การให้รางวัลตัวเองเป็นจิตวิทยาอย่างหนึ่งที่จะช่วยให้เราเห็นค่าความพยายามของตัวเอง รู้สึกภูมิใจในตัวเอง และช่วยสร้างแรงบันดาลใจให้เราอยากทำสิ่งนั้นให้สำเร็จมากขึ้น คำว่ารางวัลไม่จำเป็นต้องเป็นรอให้ใครมอบให้ แต่เราสามารถมอบให้ตัวเองได้เลยและไม่จำเป็นต้องรอให้ประสบความสำเร็จในขั้นตอนสุดท้าย เราสามารถที่จะฉลองให้กับความพยายามและสำเร็จในทุกๆ ก้าวที่เกิดขึ้นระหว่างทางได้เสมอ อย่าลืมให้รางวัลกับตัวเองบ้างนะคะ

ในวันที่เรารู้สึกเหนื่อยจนเริ่ท้อกับสิ่งที่เป็นอยู่ เราจะมองอะไรไม่ออก มักจะจมอยู่กับความรู้สึกของตัวเอง จนทำให้มองข้ามสิ่งดี ๆ ไป เมื่อคุณรู้สึกท้ออย่างหนัก อย่าลืมนำเอาวิธีที่ DooDiDo นำมาฝากไปลองใช้กันดูนะคะ เพราะวิธีเหล่านี้จะช่วยดึงสติของคุณให้กลับมามองตัวเอง ให้เวลากับตัวเองสักนิด พักสักแป๊บแล้วค่อยสู้กันต่อนะคะ

ขอบคุณแหล่งที่มา : https://adecco.co.th