5 ลักษณะของคนทำงานที่บริษัทอยากคว้าตัวไว้

WM

การได้ training กับวิทยากรเก่งๆ เป็นเหมือนกำไรของคนทำงาน

ในยุคของการแข่งขันบวกกับการหางานยากนั้น เราจำเป็นต้องมีความรู้ความสามารถเพื่อเป็นประตูสู่ความสำเร็จ เราจะต้องเป็นคนที่มีการพัฒนาต่อยอดความสามารถเดิมที่มีอยู่เสมอ ต้องสร้างทักษะใหม่ ๆ ที่ทันกับเหตุการณ์ปัจจุบันให้มาก การที่คุนเป็นคนที่เก่งมีคุณสมบัติที่โดดเด่นน่าสนใจ ก็จะช่วยเพิ่มโอกาสให้เราได้ ให้เราได้ทำงานกับบริษัทที่เราใฝ่ฝัน

ในสถานการณ์ที่หลายบริษัทกำลังฝ่าฟันปัญหาด้านงบประมาณและค่าใช้จ่าย บริษัทหลายแห่งจึงต้องการคนที่ลักษณะหรือทักษะบางอย่างเพิ่มเติมนอกจากแค่ทำงานเป็น มาดูกันว่าคนแบบไหนบ้างจะได้ขึ้นชื่อว่าเป็นที่รักของบริษัท คุณอาจจะพบว่าตัวเองมีลักษณะเหล่านี้อยู่แล้วโดยไม่รู้ตัวก็ได้

WM
ขอบคุณภาพจาก: https://www.freepik.com/author/freepik

1.The mentor ผู้ให้คำปรึกษา
การได้ training กับวิทยากรเก่ง ๆ เป็นเหมือนกำไรของคนทำงาน แต่หากเราไม่ได้ทำงานในบริษัทใหญ่ที่มีงบประมาณในการจัดการอบรมลักษณะนี้ โอกาสดี ๆ แบบนี้ก็คงไม่ได้มีบ่อย ๆ เพราะฉะนั้น คนที่มีลักษะเป็น ผู้ให้คำปรึกษา หรือคนที่สามารถถ่ายทอดความรู้เฉพาะทางของตัวเองให้เพื่อนร่วมงานเข้าใจได้ง่าย ไม่อิดออดหากต้องสอนงานคนอื่น จึงกลายเป็นอีกหนึ่งบุคคลสำคัญที่หลาย ๆ บริษัทต้องการ โดยเฉพาะบริษัท start-up ที่ไม่ได้ต้องการคนจำนวนมาก แต่ต้องการคนเก่ง ๆ ที่ยินดีจะแชร์ความรู้ซึ่งกันและกัน

2.The knowledge seeker ผู้หลงใหลในข้อมูล
คนที่มีลักษณะเป็น ผู้หลงใหลในข้อมูล คือคนที่สนุกกับการหาความรู้ไม่ว่าจะเป็นความรู้ที่เกี่ยวกับงานหรือไม่เกี่ยวกับงาน รวมถึงชอบอัปเดตความเป็นไปของโลก บริษัทที่ต้องทำธุรกิจแข่งขันกับโลกที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วจึงมักจะชอบคนประเภทนี้เป็นพิเศษ เพราะความอินเทรนด์ของคนประเภทนี้ส่งผลดีต่อธุรกิจโดยตรง รวมถึงยังเป็นตัวช่วยที่ดีของเพื่อนร่วมทีม ด้วยความที่มีความรู้เยอะ จึงพร้อมที่จะช่วยแก้ปัญหาต่าง ๆ ได้

3.The renaissance man/woman อัจฉริยะรอบด้าน
จงภูมิใจหากคุณเป็นเป็ดที่เก่งกาจ คุณคือคนที่บริษัทเล็กและทีมเล็กในบริษัทใหญ่ต้องการ! ลองนึกภาพว่าแม้แต่ leader ของบริษัทเล็กบางแห่งยังต้องทำหน้าที่เป็นทั้ง CEO CFO COO ไปจนถึง HR manager บริษัทก็คงต้องการพนักงานที่สามารถทำหน้าที่ได้หลากหลายและยินดีที่จะทำงานนอกเหนือจากหน้าที่ของตัวเองบ้างบางครั้งเช่นเดียวกัน ฉะนั้นหากพิจารณาแล้วว่าตัวเองเป็นคนเก่งรอบด้าน อาจลองสมัครงานในตำแหน่งที่ได้ทำงานหลากหลายเพื่อแสดงฝีมือและมีโอกาสเติบโตในหน้าที่การงานก่อนใคร

WM
ขอบคุณภาพจาก: https://www.freepik.com/author/tirachardz

4.The morale booster ผู้มีพลังบวก
เชื่อไหมว่าบางครั้งสถานการณ์ยากลำบากในการทำงานอาจผ่านพ้นไปได้แบบไม่ยากอย่างที่คิดหากรู้จักวิธีการมองโลก ผู้ที่มีพลังบวก หรือคนที่สามารถช่วยกระตุ้นทีมให้กลับมามีกำลังใจอีกครั้ง รวมถึงให้กำลังใจตัวเองได้ จึงกลายเป็นคนสำคัญที่ทุกทีมต้องการ นี่อาจเป็นเหตุผลว่าทำไมบางครั้งหัวหน้างานหรือ HR จึงไม่ได้เลือกคนที่เก่งที่สุดในตอนสัมภาษณ์งาน แต่เลือกคนที่พวกเขารู้สึกว่าอยากทำงานด้วยและน่าจะช่วยสร้างทีมเวิร์คได้มากที่สุด

5.The challenger ผู้กล้าที่จะคิดต่าง
ทีมทื่ทุกคนมีความเห็นไปในทิศทางเดียวกันทั้งหมด อาจไม่ใช่ทีมที่ดีที่สุดเพราะทำให้ขาดมุมมองอื่นที่น่าสนใจ บริษัทหลาย ๆ แห่งเข้าใจเรื่องนี้ จึงต้องการคนประเภทที่กล้าเสนอความคิดเห็นและมีไอเดียแปลกใหม่ หรือเรียกว่า ผู้กล้าที่จะคิดต่าง พื้นฐานสำคัญของการคิดต่างให้ประสบความสำเร็จคือต้องใช้เหตุผลมากกว่าอารมณ์เพื่อโน้มน้าวให้คนอื่นเชื่อว่าเราไม่ได้เถียงด้วยอารมณ์ชั่ววูบ รวมถึงต้องเป็นคนที่สามารถสร้างบรรยากาศของการถกเถียงแบบที่เป็นมิตรได้ด้วย แต่แน่นอนว่าการทำแบบนี้ได้ไม่ใช่เรื่องง่าย แต่หากใครทำได้ คุณจะเป็นที่ต้องการของบริษัทอย่างแน่นอน

ไม่ใช่แค่เก่งอยางเดียวนะคะที่จะทำให้บริษัทต้องการเราไว้ทำงาน แต่เราต้องมีการพัฒนาตนเองอยู่เสมอ DooDiDo ไม่ยึดติดกับสิ่งที่เคยทำ สิ่งสำคัญเราต้องเป็นคนที่มีทักษะในการทำงานร่วมกับคนอื่นด้วย พยายามอย่าเป็นคนคิดลบ เพราะอาจทำให้เกิดผลกระทบกับงานและเพื่อนร่วมงานได้ เราต้องเป็นคนที่คิดบวกเพื่อให้บริษัทว่าอยากทำงานด้วยและน่าจะช่วยสร้างทีมเวิร์คได้มากที่สุดนั่นเอง

ขอบคุณแหล่งที่มา : https://adecco.co.th