4 ข้อที่ไม่ควรดื่มน้ำเยอะเกินไป เพราะอาจส่งผลเสียต่อร่างกายคุณได้

มาดู!! 4 สถานการณ์ไหนบ้างที่คุณควรหลีกเลี่ยงการดื่มน้ำในปริมาณที่มาก

“น้ำ” อย่างไรก็แล้วก็เป็นสิ่งที่คนเรานั้นตอนดื่ม ต้องใช้ ใช่มั้ยล่ะคะ และไม่ว่าใครก็รู้ดีกว่าน้ำนั้นมีความสำคัญมากขนาดไหน ประการแรกก็คือในเรื่องของความงาม ซึ่งผู้หญิงหลายๆคนที่ใฝ่ฝันที่จะมีผิวสุขภาพดี ฉ่ำน้ำ ไม่มัน ไม่แห้งเกินไปนั่นแหล่ะ ซึ่งแน่นอนว่าน้ำนั้นก็จะช่วยได้ในเรื่องของความงาม และไหนจะอีกส่วนในรื่องของร่างกายที่ช่วยในเรื่องของระบบขับถ่ายและอีกมากมายนาวเต็มกระดาษเลย แต่ว่าก็ยังมีอีกในบางช่วงกรณีที่เราไม่ควรจะดื่มน้ำเลย เพราะนั่นจะทำให้เป็นผลเสียต่อสุขภาพอยู่ดีค่ะ

อย่างที่เราทราบกันดีว่า การดื่มน้ำมากๆ นั้นมีประโยชน์และจำเป็นต่อร่างกายเพราะน้ำจะช่วยให้ระบบต่างๆ ทำงานได้ดี ช่วยย่อยอาหาร ช่วยลดน้ำหนัก แถมยังช่วยชะล้างสิ่งสกปรกออกไปจากร่างกายของเรา แต่บางครั้งการดื่มน้ำที่มากเกินไปก็อาจจะเป็นอันตรายต่อสุขภาพของเราได้ ในบทความนี้จะบอกถึง 4 สถานการณ์ที่ไม่ควรดื่มน้ำเพราะถ้าหากเราดื้อดึงดื่มเข้าไปอาจส่งผลเสียต่อร่างกาย เมื่อรู้แล้วทุกคนก็จะสามารถหลีกเลี่ยงการดื่มน้ำจากสถานการณ์เหล่านี้ได้

1. หลังจากออกกำลังกายอย่างหนัก

เวลาเราออกกำลังกายอย่างหนักจนเหงื่อออกมาก ทำให้หลายคนคิดว่าต้องเติมน้ำเข้าไปเพื่อทดแทนเหงื่อที่ออกมา ซึ่งจริงๆแล้ว สิ่งที่ร่างกายของเราสูญเสียไปนั้น นอกจากน้ำแล้ว ยังมีแร่ธาตุต่างๆเช่น โพแทสเซียมและโซเดียม การดื่มน้ำเปล่าแค่อย่างเดียวอาจทำให้ร่างกายไม่สดชื่นเท่าที่ควร ทางที่ดีควรเลือกดื่มน้ำที่เหมาะกับการออกกำลังกายแบบหนักๆที่ต้องเสียเหงื่อมากๆ เช่น น้ำมะพร้าว เกลือแร่ เป็นต้น

2. เมื่อสีของปัสสาวะเป็นสีเหลืองอ่อน

สีของปัสสาวะของคนปกติจะอยู่ที่สีเหลือง ถ้าปัสสาวะมีสีอื่นอาจมีความผิดปกติของร่างกายหรือเกิดโรคบางอย่างขึ้น การสังเกตสีของปัสสาวะจะช่วยให้คุณดูแลร่างกายได้อย่างทันท่วงที การดื่มน้ำมากๆ จนปัสสาวะมีสีเหลืองอ่อนหรือสีใสนั่นแปลว่า ร่างกายของคุณได้รับปริมาณน้ำที่เพียงพอแล้ว ไม่ควรเพิ่มต่อไปอีกเพราะอาจก่อให้เกิดอาการบวมน้ำและอาจถึงชีวิตได้ แต่ถ้าหากสีของปัสสาวะเป็นสีเหลืองเข้มหรือสีน้ำตาลแปลว่าร่างกายของคุณได้รับน้ำไม่เพียงพอ

3. ก่อนนอนหลับ

การดื่มน้ำก่อนนอนจะทำให้นอนหลับได้ไม่ดีพอ เพราะเราจะถูกปลุกให้ตื่นขึ้นมาเข้าห้องน้ำ บางคนกินน้ำก่อนนอนเยอะ ตอนกลางคืนก็ลุกเข้าห้องน้ำบ่อย ทำให้นอนหลับไม่พอ ส่งผลเสียต่อสภาพอารมณ์และการดำเนินชีวิตในวันต่อไป หากอยากดื่มน้ำควรเลือกดื่มน้ำก่อนเลาจะนอนอย่างต่ำ 1 ชั่วโมง หรือดื่มน้ำเยอะๆในช่วงเช้า กลางวันและลดลงในเวลาเย็นและก่อนนอนตามลำดับ

4. เมื่อร่างกายอิ่มน้ำจนรู้สึกจุก

เมื่อเรากินน้ำจนจุกแล้วไม่ควรกินอีก ไม่ใช่ว่าการกินน้ำเยอะๆดีต่อสุขภาพแล้วกินเอากินเอา จนลืมความพอดีที่ร่างกายของเรารับได้ การดื่มน้ำเกินความต้องการของร่างกาย จะส่งผลให้ระดับโซเดียมในร่างกายเราต่ำลง ทำให้เกิดภาวะบวมน้ำ วิงเวียนศีรษะ อาเจียนหรือร้ายแรงที่สุดอาจถึงแก่ชีวิตได้

5. ดื่มน้ำแก้เผ็ด

เวลากินอาหารที่เผ็ดมากๆ ไม่ควรดื่มน้ำตามลงไปเพราะจะทำให้เผ็ดมากกว่าเดิม ในทางกลับกันควรหานมมาดื่มแทนเพื่อแก้อาการเผ็ดจะดีกว่า

6. ดื่มน้ำก่อน ระหว่าง และหลังกินอาหารทันที

การดื่มน้ำก่อน ระหว่าง และหลังกินอาหารทันทีจะทำเกิดอาการแน่นท้อง และอาการอาหารไม่ย่อยได้ง่าย

7. ดื่มน้ำผสมสารให้ความหวาน

คนที่ลดน้ำหนักบางคนมักใช้สารให้ความหวาน หรือน้ำตาลเทียมแทนน้ำตาลที่ผลิตจากธรรมชาติ แต่สิ่งนี้เป็นหนึ่งในปัจจัยที่ทำให้น้ำหนักไม่ลดลงไป และรู้หรือไม่ว่าน้ำมะนาวก็มีส่วนช่วยให้คุณน้ำหนักขึ้นได้เช่นกัน

8. ดื่มน้ำจากท่อน้ำดื่ม

การดื่มน้ำจากท่อน้ำดื่มจะทำให้เสี่ยงต่อโรคได้ ดังนั้นถ้าเลี่ยงไม่ได้ก็ควรตรวจสอบวัสดุที่ใช้ทำท่อให้ดี เพื่อความปลอดภัยของสุขภาพ

เมื่อรู้แบบนี้แล้ว เมื่อใดที่ตกอยู่ในสถานการณ์นั้นๆ แล้วก็อย่าเผลอตัวทำพลาดไปเชียวนะคะ เพราะความผิดพลาดเล็กๆ น้อยๆ นั้น ก็อาจนำพาไปเกิดถึงเรื่องร้ายๆ ต่อๆ ไปอีก DooDiDo แนะนำว่ากันไว้ดีกว่าแก้นั้นย่อมดีกว่าเสมอ อย่างไรก็ตามเรื่องเข้าใจผิดที่เรื้อนรังมาโดยตลอดนั่นก็คือการต้องดื่มน้ำให้ได้วันละ 8 แก้วล่ะคะ ซึ่งแน่นอนว่าในเรื่องนี้นั้นก็ไม่ได้ถูกต้องและสมควรทำตามทุกๆ คน ทั้งนี้ทั้งนั้นก็ต้องคำนวนน้ำหนัก ส่วนสูงของแต่ล่ะคนออกมาถึงจะได้ตัวเลขที่แน่ชัดว่าต้องดื่มน้ำในปริมาณไหนถึงจะดีต่อสุขภาพ

ขอบคุณแหล่งที่มา: www.wegointer.com, www.gangbeauty.com