สัญญาณเตือนของโรคข้อเข่าเสื่อม ที่สามารถป้องกันได้

โรคข้อเข่าเสื่อม เกิดจากกระดูกอ่อนของข้อเข่าหรือผิวข้อเข่าสึกกร่อน เมื่อไม่มีผิวกระดูกอ่อนมาห่อหุ้มทำให้เนื้อกระดูกที่มาชนกันขณะรับน้ำหนักจึงทำให้เกิดอาการเจ็บปวด ถ้าเกิดอาการเรื้อรังกระดูกจะมีการซ่อมแซมตัวเองจนเกิดเป็นกระดูกงอกขรุขระขึ้นภายในข้อ ก็จะทำให้การเคลื่อนไหวติดขัดและมีเสียงดัง ในบทความนี้ได้รวบรวมข้อมูลอาการของโรคข้อเข่าเสื่อม, สาเหตุ, การรักษา, สัญยาณเตือน และวิธีการป้องกันโรคข้อเข่าเสื่อม

โรคข้อเข่าเสื่อม
รูปประกอบจาก istockphoto.com

โรคข้อเข่าเสื่อม มีอาการอย่างไร

โรคข้อเข่าเสื่อม หรือ Knee Osteoarthritis เป็นภาวะที่เกิดจากการสึกหรอ หรือสึกสม่ำเสมอของก้อนกระดูกข้อ เป็นหนึ่งในโรคข้อที่พบมากที่สุด ส่วนใหญ่พบในผู้สูงอายุ แต่ก็สามารถเกิดได้ในกลุ่มอายุอื่นๆ ด้วย หากคุณมีอาการที่สงสัยหรือมีปัญหาเกี่ยวกับข้อเข่าเสื่อม ควรพบแพทย์เพื่อการวินิจฉัยที่แน่นอนและการวางแผนการรักษาที่เหมาะสม แพทย์สามารถให้คำปรึกษาและกำหนดการรักษาเช่นการให้ยารักษาอาการปวด, การก่อปฏิเสธน้ำหนัก, การทำกิจกรรมกายภาพ หรือในกรณีรุนแรงอาจจำเป็นต้องพิจารณาการผ่าตัดข้อเข่าได้ อาการของโรคข้อเข่าเสื่อมอาจแสดงออกมาในลักษณะต่อไปนี้

  • ปวด: ปวดข้อเข่าเป็นอาการของโรคข้อเข่าเสื่อมที่พบมากที่สุด โดอาจเกิดขึ้นเมื่อใช้งานข้อ, เดิน, ทำกิจกรรมทางกาย
  • ข้อเข่าช้ำและบวม: โรคข้อเข่าเสื่อมอาจมีการบวมและปวดตรงข้อเข่า
  • กล้ามเนื้อของขาอ่อนแรง: เนื่องจากปวดและข้อจำกัดในการใช้งาน
  • ได้ยินเสียงกรุบของกระดูก: บางครั้งอาจมีเสียงดังได้ (crepitus) เมื่อข้อเข่าถูกใช้งาน
  • ข้อจำกัดในการเคลื่อนไหว: การเคลื่อนไหวของข้อเข่าอาจลดลง
  • อักเสบของข้อเข่า: โรคข้อเข่าเสื่อมสามารถเกิดการอักเสบบริเวณข้อเข่า

สาเหตุของโรคข้อเข่าเสื่อม

โรคข้อเข่าเสื่อมเกิดขึ้นเมื่อกระดูกข้อเข่าเสื่อมลง การทำลายและสภาพของเนื้อเยื่อข้อเข่าที่เสื่อมลงนี้ทำให้เกิดอาการอักเสบ, ปวด และข้อจำกัดในการเคลื่อนไหว หากมีอาการที่สงสัยหรือปัญหาเกี่ยวกับข้อเข่าเสื่อม ควรพบแพทย์เพื่อการวินิจฉัยและการรักษาโรคข้อเข่าเสื่อมที่เหมาะสม ซึ่งสามารถเกิดจากปัจจัยหลายประการ แต่สาเหตุหลักที่สำคัญมีดังนี้

  • การสึกหรอของกระดูกและกระดูกต่อเนื่อง: การสึกหรอของกระดูกข้อทำให้เนื้อเยื่อนิ่มตรงข้อเข่าลดลง ทำให้กระดูกกระเทือนต่อกันได้น้อยลง
  • การทำลายเนื้อเยื่อกระดูก: การทำลายของเนื้อเยื่อกระดูกเริ่มต้นจากเสื่อมลง, บวม และสร้างหนองในพื้นที่รอบๆ ข้อเข่า ทำให้เป็นโรคข้อเข่าเสื่อม
  • การสูญเสียน้ำหล่อเลี้ยงของเนื้อเยื่อกระดูก: น้ำหล่อเลี้ยงของเนื้อเยื่อกระดูกมีสารหล่อเลี้ยงลดลง ทำให้เนื้อเยื่อกระดูกไม่ได้รับอาหารและธาตุอาหารที่เพียงพอ
  • ปัจจัยทางพันธุกรรม: บางครั้งมีความสัมพันธ์กับความสามารถในการสร้างเนื้อเยื่อกระดูกหรือน้ำหล่อเลี้ยงของเนื้อเยื่อกระดูกที่สูงหรือต่ำกว่าปกติ
  • การบาดเจ็บ: บางครั้งอาจมีการบาดเจ็บหรือการบาดเจ็บเกี่ยวกับกระดูกหรือเนื้อเยื่อรอบข้อเข่าที่เป็นสาเหตุ
  • อายุ: การเกิดโรคข้อเข่าเสื่อมมักเพิ่มขึ้นกับอายุ
  • น้ำหนักมาก: การฝึกท่านอนหรือยืนท่าตำแหน่งที่ผิดพลาด มีน้ำหนักมากหรืออ้วน มักเป็นปัจจัยที่เสี่ยงต่อการเกิดโรคข้อเข่าเสื่อม

วิธีการรักษาโรคข้อเข่าเสื่อม

การรักษาโรคข้อเข่าเสื่อมมุ่งเน้นที่การลดอาการปวด การปรับปรุงคุณภาพชีวิต และควบคุมการเสื่อมของข้อเข่าเพื่อลดความเจ็บปวดและป้องกันการทำลายที่มากขึ้นของข้อเข่า มีหลายวิธีการรักษาที่สามารถนำมาใช้ ดังนี้

  • การให้ยารักษาอาการปวด: การให้ยารักษาอาการปวดอาจเป็นทางเลือกเพื่อลดอาการปวดและปรับปรุงคุณภาพชีวิต แพทย์อาจรับรู้ให้ยาต่างๆ เช่น ยาระบบต่อต้านการติดต่อ, ยารักษาอาการปวด, ยาต้านการอักเสบ
  • กิจกรรมกายภาพ: การทำกิจกรรมกายภาพมีประโยชน์ในการเสริมสร้างกล้ามเนื้อรอบข้อเข่า, ปรับปรุงการเคลื่อนไหว, ลดการเสื่อมของข้อเข่า
  • การควบคุมน้ำหนัก: การลดน้ำหนักหากเป็นปัจจัยที่สามารถเกี่ยวข้องกับโรคข้อเข่าเสื่อม นอกจากนี้การรักษาแบบกิจกรรมทางกายอื่นๆ สามารถช่วยลดการบรรเทาน้ำหนัก
  • การให้แบบสนับสนุน: การใส่ข้อเข่าหรืออุปกรณ์สนับสนุนอื่นๆ อาจช่วยลดการกดทับและลดอาการปวด
  • การให้ยาแก้แพทย์: บางครั้งอาจมีการให้ยาสเตอรอยด์ ที่จะให้ผลลัพธ์ทันทีในการลดอาการอักเสบและปวด
  • การผ่าตัด: ในกรณีที่อาการรุนแรงและไม่ได้รับประโยชน์จากการรักษาทางการผ่าตัดเป็นทางเลือกที่อาจถูกพิจารณา เช่น การติดตั้งข้อเข่าเทียมหรือการทำการเจาะข้อเข่า
  • การรักษาด้วยเทคนิคพิเศษ: บางครั้งการใช้เทคนิคทางการแพทย์ที่พิเศษ เช่น การใช้เครื่องหูกระดูก, การบำบัดน้ำร้อนหรือน้ำเย็น, การศัลยกรรม อาจถูกนำเข้ามาในบางกรณี

สัญญาณเตือนโรคข้อเข่าเสื่อม

สัญญาณเตือนโรคข้อเข่าเสื่อมมักปรากฏเป็นอาการหรือเครื่องหมายที่ช่วยให้คนรู้ว่าอาจมีปัญหาในข้อเข่า ต่อไปนี้คือบางสัญญาณเตือนที่สำคัญ

  • ปวด: ปวดในข้อเข่าเป็นอาการที่พบมากที่สุด อาจมีปวดเมื่อใช้งานข้อ, ขณะที่นั่งหรือนอน, เวลาที่ขยับข้อเข่า
  • บวมและบริเวณร้อยเส้น: การบวมและบริเวณร้อยเส้นบนหรือรอบข้อเข่า เป็นสัญญาณที่บ่งบอกถึงการอักเสบหรือการคลอดและอาจมีการสร้างน้ำเหลือง
  • กล้ามเนื้อที่อ่อนแรง: เนื่องจากปวดและข้อจำกัดในการใช้งานข้อ กล้ามเนื้อรอบข้อเข่าอาจกลายเป็นอ่อนแรง
  • เสียง crepitus: บางครั้งอาจมีเสียง crepitus เมื่อข้อเข่าถูกใช้งาน นี่อาจเกิดจากการสัญลักษณ์ของพื้นผิวข้อที่เสื่อมลง
  • ข้อเข่าไม่เสถียร: บางครั้งข้อเข่าอาจมีความไม่เสถียร หรือเข้ากระแทกได้ง่าย
  • ข้อจำกัดในการเคลื่อนไหว: การเคลื่อนไหวของข้อเข่าอาจจำกัดลง ทำให้มีความยากลำบากในการทำกิจกรรมที่ต้องใช้ข้อเข่า

วิธีการป้องกันโรคข้อเข่าเสื่อม

การป้องกันโรคข้อเข่าเสื่อมมีบางวิธีที่สามารถนำมาใช้เพื่อลดความเสี่ยงและช่วยรักษาสุขภาพข้อเข่าได้ดีขึ้น นอกจากนี้การดูแลรักษาสุขภาพร่างกายโดยรวมมีผลในการป้องกันโรคด้วย การป้องกันโรคข้อเข่าเสื่อมมีความสำคัญเพราะทำให้สามารถรักษาสุขภาพข้อเข่าและลดความเสี่ยงในการเกิดโรคนี้ได้

  • การดูแลน้ำหนัก: การรักษาน้ำหนักที่เหมาะสมหรือลดน้ำหนักหากจำเป็นจะช่วยลดการภาระที่ต้องอยู่กับข้อเข่า ซึ่งทำให้ลดโอกาสในการเสื่อมของข้อเข่าและป้องกันการเกิดโรคข้อเข่าเสื่อม
  • การออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ: การทำกิจกรรมทางกาย เช่น เดิน, วิ่ง, โยคะ สามารถช่วยเสริมสร้างกล้ามเนื้อ, ลดน้ำหนัก, ป้องกันการเสื่อมของข้อเข่า เป็นการป้องกันโรคข้อเข่าเสื่อม
  • การดูแลการท่านอนและการนั่ง: การเลือกท่านอนที่ทำให้ไม่มีการกดทับหรือมีน้ำหนักที่มีประโยชน์ต่อข้อเข่า และการนั่งที่มีรองเท้าสูงเพื่อลดการกดทับบนข้อเข่า
  • การออกกำลังกายที่เหมาะสม: การฝึกฝนหรือการดำเนินกิจกรรมทางกายที่มีนวัตกรรมและเหมาะสมสามารถช่วยเสริมสร้างกล้ามเนื้อรอบข้อเข่าและลดการเสื่อมของข้อเข่า
  • การรับประทานอาหารที่สมดุล: ป้องกันโรคข้อเข่าเสื่อมด้วยการรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ต่อกระดูกและข้อต่อ เช่น แคลเซียมและวิตามิน D ที่มีประโยชน์สำหรับกระดูก
  • การใส่รองเท้าที่เหมาะสม: การใส่รองเท้าที่รองรับและเหมาะสมสามารถช่วยลดแรงกระแทกต่อข้อเข่า
  • การหยุดพักและการพักผ่อน: การให้เวลาให้ข้อเข่าพักผ่อนหลังจากกิจกรรมทางกายหรือกิจวัตรประจำวันที่ใช้ข้อเข่ามากเพียงพอ
  • การปรับท่านั่งและการทำงาน: ป้องกันโรคข้อเข่าเสื่อมด้วยการรักษาท่านั่งที่ถูกต้องและการใช้เฟอร์นิเจอร์ที่รองรับร่างกายสามารถช่วยลดแรงกระทำต่อข้อเข่า

บทสรุป

เมื่อมีอาการปวดเข่าเป็นเวลานานหรือเข่าบวมอาจจะทำให้โรคข้อเข่าเสื่อมได้ เป็นอาการที่เกิดขึ้นเมื่อกระดูกข้อเข่าสึกหรอ หรือการบาดเจ็บ สามารถกินยาบรรเทาอาการหรือรักษาได้โดยการผ่าตัด โรคข้อเข่าเสื่อมในปัจจุบันไม่เพียงแต่เกิดขึ้นกับผู้สูงอายุเท่านั้น เราสามารถสังเกตุอาการเบื้องต้นด้วยตัวเองและป้องกันไม่ให้เกิดอาการได้โดยวิธีที่แนะนำข้างต้น หากมีอาการที่ใกล้เคียงกับโรคข้อเข่าเสื่อม แนะนำให้ไปพบแพทย์เพื่อวินิจฉัยและรักษาอย่างถูกวิธี

 

ขอบคุณแหล่งอ้างอิง : southerncross.co.nz/nhs.uk/pennmedicine.org

ติดตามเรื่องราวอื่นๆ และเกมส์ที่น่าสนใจได้ที่ : doodido.com