ไม่เชื่อต้องลอง!! มะเขือพวง กับสรรพคุณที่ช่วยรักษาโรคร้ายได้
“มะเขือพวง” ใช้เป็นยาแก้ไอ ขับปัสสาวะ และช่วยย่อยอาหารได้ดี
สำหรับ “มะเขือพวง” เป็นพืชตระกูลมะเขือ อยู่คู่กับคนไทยเรามานาน จัดเป็นพืชผักสมุนไพร โดยอดีตจะเป็นพืชป่า แต่ปัจจุบันในหลายๆ ประเทศนิยมปลูกเป็นพืชผักสวนครัว ที่นิยมนำผลมาประกอบอาหารในประเทศไทย รู้จักมะเขือพวงมานานแล้ว โดยนิยมนำผลมาใช้ประกอบอาหารได้หลากหลายเมนู แต่นอกจากความอร่อยแล้ว ในมะเขือพวงยังมีสรรพคุณต่างๆ ที่มีประโยชน์ต่อสุขภาพอีกด้วยคะ
มะเขือพวง (อังกฤษ: Turkey berry; ชื่อวิทยาศาสตร์: Solanum torvum) เป็นพืชตระกูลมะเขือ เป็นไม้ข้ามปี มีถิ่นกำเนิดในแถบรัฐฟลอริดา, หมู่เกาะเวสต์ อินดีส์, เม็กซิโก จนถึงอเมริกากลาง และทวีปอเมริกาใต้แถบประเทศบราซิล เป็นวัชพืชขึ้นกระจัดกระจายเกือบทั่วเขตร้อน
มะเขือพวงใช้ตำผสมลงในน้ำพริกหลายชนิดเช่น น้ำพริกกะปิ น้ำพริกขี้กา ใช้ใส่ในแกงเช่น แกงเผ็ด แกงเขียวหวาน แกงป่า แกงอ่อม ซุบ กินดิบเป็นผักจิ้ม หรือกินสุกโดยการเผา ปิ้ง ย่าง ในภาษาใต้จะเรียกว่า “มะเขือเทศ” หรือ “เขือเทศ”
1. มะเขือพวงกับโรคเบาหวาน
งานวิจัยที่ศึกษาปฏิกิริยาต้านอนุมูลอิสระของเครื่องดื่มจากมะเขือพวงแห้ง พบว่าน้ำสมุนไพรมะเขือพวงสามารถลดระดับอนุมูลอิสระซูเปอร์ออกไซด์ หรืออนุมูลอิสระไนทริกออกไซด์ในเลือดหนูที่เป็นเบาหวานได้ ซึ่งเป็นอนุมูลอิสระที่ก่อให้เกิดสภาวะเครียดในหนูทดลองที่มีอาการของโรคเบาหวาน ส่งผลต่อสภาวะเครียดออกซิเดชันในเม็ดเลือดแดง น้ำสมุนไพรมะเขือพวงลดไขมันที่ถูกออกซิไดซ์เป็นไขมันไม่ดีในหนูที่มีอาการเบาหวาน นอกจากนี้พบว่าระดับน้ำตาลในเลือดของหนูเบาหวานลดลงด้วย
2. มะเขือพวงกับโรคความดันโลหิตสูงและปัญหาเกล็ดเลือด
งานวิจัยที่ประเทศแคเมอรูนพบว่า เมื่อให้สารสกัดน้ำและแอลกอฮอล์ของผลมะเขือพวงกับหนูทดลองพบว่าความดันโลหิตของหนูต่ำลง และลดอัตราการเต้นของหัวใจด้วย โยฮิมบีนและอะโทรพีนไม่มีผลต่อฤทธิ์การลดความดันโลหิตของสารสกัดมะเขือพวง แต่โยฮิมบีนยับยั้งผลการลดอัตราการเต้นหัวใจของสารสกัดน้ำมะเขือพวง
เมื่อทดสอบการเกาะตัวของเกล็ดเลือดที่กระตุ้นโดยทรอมบินหรืออะดีโนซีนไตรฟอสเฟต พบว่าสารสกัดน้ำมะเขือพวงยับยั้งการรวมตัวของเกล็ดเลือดจากผลของสารทั้งสองดังกล่าว ฤทธิ์ลดความดันโลหิตของสารสกัดผลมะเขือพวงทั้ง 2 ชนิดน่าจะเกิดจากการทำให้หัวใจเต้นช้าลง ผนวกกับผลยับยั้งการรวมตัวของเกล็ดเลือดทำให้มะเขือพวงมีประโยชน์สำหรับผู้มีความดันโลหิตสูงและมีปัญหาเรื่องการรวมตัวของเกล็ดเลือด ตามที่มีการใช้งานมาแต่ดั้งเดิมนั่นเอง
3. มะเขือพวงบำรุงไต
งานวิจัยในอินเดียในปี พ.ศ.2545 พบว่าสารสกัดมะเขือพวงเมื่อให้ก่อนรับยามีความสามารถป้องกันและรักษาอาการพิษต่อไตที่เกิดจากยาคีโมรักษามะเร็งได้ การทดลองในหนูเมื่อให้ยาโดรูไบซิน พบว่าหนูทดลองเกิดการอุดตันในท่อไตและมีแผลในท่อไต เมื่อได้รับสารสกัดมะเขือพวงก่อนรับยาหนูไม่มีอาการดังกล่าว การศึกษานี้จึงสนับสนุนการใช้มะเขือพวงในการบำรุงไตของหลายประเทศ
4. มะเขือพวงรักษาแผลในกระเพาะอาหาร
กลุ่มวิจัยในแคเมอรูนในปี พ.ศ.2551 พบว่า สารสกัดน้ำและแอลกอฮอล์ของมะเขือพวงมีฤทธิ์ต้านการเกิดแผลในกระเพาะอาหารที่เกิดจากแอลกอฮอล์ ยา และความเครียด ส่วนที่ให้ผลดังกล่าวเพราะมีองค์ประกอบเป็นสารกลุ่มฟลาโวนอยด์และไทรเทอร์พีน ผลวิจัยนี้สนับสนุนการใช้งานใบมะเขือพวงของแพทย์พื้นบ้านในประเทศแคเมอรูน
มะเขือพวงมีประโยชน์ต่อสุขภาพ ต้น ใบ และผล เป็นยาเย็นรสจืด ทำให้โลหิตหมุนเวียนดี แก้ปวด ฟกช้ำ ตรากตรำทำงานหนัก กล้ามเนื้อบริเวณเอวฟกช้ำ ไอเป็นเลือด ปวดกระเพาะ ฝีบวมมีหนอง อาการบวมอักเสบ ขับเสมหะ
- ต้น อินเดียใช้น้ำสกัดจากต้นมะเขือพวงแก้พิษแมลงกัดต่อย
- ใบสด น้ำคั้นใบสดใช้ลดไข้ ในแคเมอรูนใช้ใบห้ามเลือด ใช้เป็นยาระงับประสาท พอกให้ฝีหนองแตกเร็วขึ้น แก้ปวด ทำให้ฝียุบ แก้ชัก ไอหืด ปวดข้อ โรคผิวหนัง ขับปัสสาวะ ขับเหงื่อ และแก้ซิฟิลิส
- ผล ผลของมะเขือพวงมีรสขื่น เฝื่อน อมเปรี้ยวเล็กน้อย หลายประเทศนำผลมาต้มน้ำกรองน้ำดื่ม มีสรรพคุณในการขับเสมหะ ช่วยระบบย่อยอาหาร รักษาอาการเบาหวาน
สุดยอดประโยชน์มากๆ เลยใช่ไหมค่ะ สำหรับมะเขือพวงผลน้อยนิด เป็นพืชที่มีคุณค่าเกินขนาดจริงๆ ตามที่ DooDiDo ได้กล่าวมาข้างต้นนี้ และในมะเขือพวงมีสารโซลานิน เป็นอัลคาลอยด์ ซึ่งสารนี้อาจจะทำให้เกิดความไม่สมดุลของแคลเซียมในร่างกายได้ ดังนั้นผู้ที่เป็นโรคไขข้อและโรคกระดูกควรหลีกเลี่ยงการรับประทานค่ะ
ขอบคุณแหล่งที่มา : www.doctor.or.th/article/detail/10763