แนะนำ 7 วิธีจัดการกับความเครียดได้อย่างเห็นผล

การได้ระบายความรู้สึกของตัวเอง แทนที่จะเก็บไว้คนเดียว จะทำให้ภาวะตึงเครียดผ่อนคลายลง

ความเครียดเป็นอีกหนึ่งปัญหาที่สร้างความทุกข์ให้กับเราค่ะ เพราะถ้าหากเราเครียดเราจะรู้สึกไม่สบายกาย ไม่สบายใจ ทำให้ร่างกายเกิดความผิดปกติ บางคนถึงขั้นนอนไม่หลับกันเลยทีเดียว ความเครียดเป็นสิ่งที่สามารถเกิดขึ้นได้ทุกวันค่ะ ไม่ว่าจะจากภาระงานที่หนักมากเกินไป หรือเครียดจากเพื่อนร่วมงาน หากึุณปล่อยให้ตัวเองเครียดสะสมไปนาน ๆ จะส่งผลกระทบต่อการใช้ชีวิตประจำวัน อาจทำให้เกิดการเจ็บป่วยที่รุนแรงได้นะคะ

ความเครียด เป็นการตอบสนองทางร่างกายและจิตใจที่มีต่อสิ่งที่ประเมินว่าแล้วเป็นภัยคุกคาม ซึ่งต่างคนต่างมีรูปแบบของสิ่งกระตุ้นความเครียด กลวิธีในการเผชิญหน้าและจัดการความเครียดแตกต่างกันไป รวมถึงต้นทุนที่มีอยู่ในตัวเองเพื่อรับมือกับความเครียดของแต่ละบุคคลก็อาจไม่เท่ากัน ดังนั้น ระดับความเครียดต่อปัญหาหนึ่งของแต่ละคนจึงไม่เท่ากันตามไปด้วย โดยบางคนอาจปรับตัวได้ ในขณะที่ใครอีกหลายคนอาจปรับตัวหรือรับมือกับมันไม่ไหวเลยก็ได้เช่นกัน

WM
ขอบคุณภาพจาก: https://unsplash.com/@magnetme

1.ริ่มต้นจากการสังเกตุร่างกายตัวเอง
ว่ามีการตอบสนองต่อความเครียดอย่างไรบ้าง ไม่ว่าจะเป็นอาการโมโหง่าย โกรธง่าย นอนไม่หลับ มีปัญหาในการนอน หงุดหงิด ซึมเศร้า รู้สึกอ่อนเพลีย พลังงานต่ำ ฯลฯ เหล่านี้เป็นอาการเบื้องต้นที่สามารถบ่งชี้ได้ว่าเรากำลังประสบกับภาวะเครียดอยู่

2.วางแผนจัดการกับความเครียด
โดยค้นหาว่าตนเองเกิดความเครียดจากสาเหตุใด หากไม่พบ ให้จดบันทึกเกี่ยวกับความเครียดเป็นระยะเวลา 2 – 4 สัปดาห์ โดยจดวันที่, เวลา, สถานที่ที่เกิดความเครียด, สิ่งที่กำลังทำ, คนที่อยู่ด้วยกัน ณ ตอนนั้น, ความรู้สึกที่เกิดขึ้น หลังจากเกิดขึ้นแล้วเราทำอะไรต่อ มีอาการทางร่างกายอย่างไร หลังจากนั้นจึงเข้าสู่ขั้นตอนในการทบทวนถึงสาเหตุของความเครียดที่เรากำลังเผชิญอยู่ เพื่อวางแผนรับมือต่อไป

3.จัดลำดับความสำคัญ
แยกสิ่งที่ต้องทำก่อนเป็นอันดับต้นๆ และสิ่งที่สามารถทำทีหลังได้ออกจากกัน หลังจากนั้นให้วางแผนการทำงานเป็นขั้นเป็นตอน และดำเนินการตามแผนที่วางไว้ รวมถึงฝึกที่จะปฏิเสธงานที่เข้ามาแบบปัจจุบันทันด่วนออกไป เพื่อไม่ให้ปริมาณงานมากเกินกว่าที่จะรับผิดชอบได้ไหว

4.ระบายมันออกมาบ้าง
ด้วยการขอกำลังใจและการสนับสนุนจากคนใกล้ชิด ไม่ว่าจะเป็นเพื่อน ครอบครัว หรือคนรัก การได้ระบายความรู้สึกของตัวเอง แทนที่จะเก็บไว้คนเดียว จะทำให้ภาวะตึงเครียดผ่อนคลายลง และรู้สึกดีขึ้น

WM
ขอบคุณภาพจาก: https://unsplash.com/@element5digital

5.หากิจกรรมผ่อนคลายความเครียด
ไม่ว่าจะเป็นการดูหนัง ฟังเพลง ออกไปเที่ยวพักผ่อนหย่อนใจบ้าง ออกกำลังกายอย่างน้อยเป็นเวลา 30 นาทีต่อวัน จะช่วยปรับอารมณ์และลดระดับความเครียดลงได้ หรืออาจนั่งสมาธิ กำหนดลมหายใจเข้า – ออก การหายใจเข้าออกลึกๆ จะช่วยลดอัตราการเต้นของหัวใจและความดันโลหิตลงได้อีกด้วย

6.รับประทานอาหารที่มีประโยชน์ ดีต่อสุขภาพ
การมีสุขภาพกายที่ดีย่อมส่งผลดีต่ออวัยวะต่าง ๆ ภายในร่างกาย ให้สามารถทำงานได้เป็นปกติ มีภูมิคุ้มกันที่แข็งแรง โดยเฉพาะในกลุ่มวิตามินรวม ช่วยฟื้นฟูร่างกายจากความเครียด ทำให้รู้สึกผ่อนคลายและคืนความกระชุ่มกระชวย ความมีชีวิตชีวา และความสดใสให้กับร่างกายได้

7.หาวิธีรักษา
หากไม่สามารถจัดการความเครียดได้ด้วยตนเอง หรือตกอยู่ในภาวะซึมเศร้า ควรปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ เพื่อพูดคุยบอกเล่าปัญหา ความทุกข์ใจต่างๆ ที่ทำให้เกิดความเครียด และรับคำแนะนำจากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเพื่อหาทางแก้ไขปัญหา การวางแผนรับมือในการจัดการกับความเครียดต่อไป

ความเครียดเป็นสิ่งที่เราไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้ เพราะในการใช้ชีวิตตามปกติในทุกวัน DooDiDo บางทีเราก็อาจจะเครียดไปกับสิ่งรอบข้าง คนใกล้ตัวที่ไม่ได้ดั่งใจเรา การปล่อยวางเป็นสิ่งที่คุณควรจะทำ เพื่อให้ตัวเองไม่ต้องเครียดหนักไปกว่าเดิม พยายามหากิจกรรมที่ชอบ และหันมาดูแลตัวเองให้มีสุขภาพกายและสุขภาพใจที่ดีกันนะคะ

ขอบคุณแหล่งที่มา : www.manarom.com, www.interpharma.co.th