มาดู!! เคล็ดลับเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงาน

การทำงานที่มีประสิทธิภาพ คุณต้องใช้ทั้งแรงกายและแรงใจในการขับเคลื่อน

การทำงานเพื่อให้ได้งานที่มีประสิทธิภาพนั้น คุณต้องใช้ทั้งแรงกายและแรงใจในการขับเคลื่อน  และด้วยเวลาที่จำกัดต่อวันทำให้ไม่สามารถทำงานได้ทันเวลาที่เรากำหนด เมื่อทำงานได้ไม่ตรงตามที่หวังก็จะทำให้เกิดความเครียดตามมาค่ะ บางคนก็รู้สึกว่าตัวเองมีเวลาไม่พอในการทำงาน ทั้ง ๆ ที่ก็ยุ่งวุ่นวายอยู่กับงานทั้งวัน คุณคงอยากมีเวลามากกว่า 24 ชั่วโมงในหนึ่งวันใช่ไหมคะ

พองานไม่เสร็จ ความเครียดก็เริ่มตามมาจนส่งผลกระทบกับงานต่อไปในวันข้างหน้าซึ่งทำร้ายสภาพจิตใจและประสิทธิภาพในระยะยาวในท้ายที่สุด ประเด็นและเป้าหมายที่คนหันมาสนใจอยากพัฒนาจึงเป็น การเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงาน เพื่อให้ใช้เวลาได้คุ้มค่าและได้งานที่มีคุณภาพออกมา แต่การทำงานหลายชั่วโมงไม่ได้แปลว่าทำงานมีประสิทธิภาพ และการทำงานเยอะก็ไม่ได้แปลว่าทำงานที่สำคัญ สิ่งที่เราต้องเข้าใจก่อนคือ ความมีประสิทธิภาพที่ว่านั้นมันวัดจากอะไร และจะรู้ได้อย่างไรว่าตัวเราทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงขึ้นแล้ว

WM
ขอบคุณภาพจาก: https://www.freepik.com/author/tirachardz

1. เริ่มวางแผนตารางเวลา
เมื่อได้รับงานมาทั้งงานแบบระยะสั้นและระยะยาว สิ่งแรกที่ควรทำคือ การจัดตารางงานโดยการแบ่งงานและจัดลำดับความสำคัญ เพื่อให้การทำงานเป็นไปได้อย่างราบรื่น มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น และส่งผลต่อเป้าหมายของคุณและบริษัท

2. เรียนรู้ “ตัวเอง”
การวางแผนที่ดีต้องมาพร้อมกับการประเมินความสามารถของตัวเอง เพราะถ้าคุณวางตารางว่างานไหนจะใช้เวลาเท่าไหร่ แต่ไม่สามารถทำงานให้เสร็จภายในเวลาได้ สิ่งที่ตามมาคือความเครียดที่อาจจะสะสมขึ้นเรื่อยๆ ยิ่งคิดถึงงานที่ทำไม่เป็นไปตามตารางเวลา ก็ยิ่งเป็นการกดดันและไม่พอใจในตัวเองมากขึ้น

3. สภาพแวดล้อมการทำงาน
สิ่งรบกวนมากมายต่างอยู่ในที่ทำงานโดยที่คุณเลือกไม่ได้ ทั้งเพื่อนร่วมงานที่พูดคุยกัน เสียงคุยโทรศัพท์ เสียงแจ้งเตือนจากโซเชียลมีเดีย หรือเสียงประกาศใดๆ ก็ตาม ซึ่งทำให้เสียสมาธิได้ง่ายมาก ยิ่งเฉพาะตอนที่คุณกำลังโฟกัสกับงานเต็มที่ การกลับมาโฟกัสเต็มที่อีกรอบยิ่งยากขึ้นไปใหญ่ การปรับสภาพแวดล้อมโดยตัดสิ่งรบกวนจะช่วยทำให้คุณมีสมาธิมากขึ้น ยกตัวอย่างเช่น การลงทุนซื้อหูฟังตัดเสียงเพื่อป้องกันเสียงรบกวน การปิดแจ้งเตือนโทรศัพท์ของคุณชั่วคราว และออกจากอีเมล เป็นต้น

WM
ขอบคุณภาพจาก: https://www.freepik.com/author/tirachardz

4. สมาธิและโฟกัส
วิธีการเพิ่มความสามารถในการโฟกัสนอกจากการตัดสิ่งรอบตัวแล้ว ยังมีวิธีการช่วยพัฒนาสมองและสติได้ดังนี้
– นั่งสมาธิ: การนั่งสมาธิในช่วงเวลาสั้นๆ ทำให้คุณมีสติ เพิ่มความสามารถในการโฟกัส ทำให้ไม่วอกแวกง่าย และสามารถนั่งทำงานได้นานขึ้น

– นอนให้เพียงพอ: การนอนหลับเป็นปัจจัยสำคัญที่ส่งผลต่อสมองและความสดชื่น ลองสังเกตว่าวันไหนที่นอนไม่พอ สมองก็อาจจะตื้อ ไม่สดใส ทำให้คิดงานไม่ออกด้วย

– ออกกำลังกาย: การออกกำลังกายช่วยทำให้ร่างกายตื่นตัวและสดชื่น ทำให้สามารถทำงานได้แบบแอคทีฟมากขึ้น

– กินอาหารที่ดี: อาหารมีส่วนสำคัญในการเติมพลังสมองและส่งผลต่อความแอคทีฟในแต่ละวัน เพราะอาหารบางประเภทเช่น Junk Food ก็ต้องใช้พลังงานในการย่อยเยอะ ทำให้อ่อนเพลียได้เร็วกว่าการกินผักและผลไม้ และยังมีเทรนด์การทานอาหารที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานอย่าง IF (Intermittent Fasting) หรือการกินแบบจำกัดช่วงเวลาอีกด้วย

WM
ขอบคุณภาพจาก: https://www.freepik.com/author/tirachardz

5. ติดต่อสื่อสาร
หลายครั้งที่เราคุยงานกับเพื่อนหรือเจ้านายแล้วไม่เข้าใจชัดเจนพอ หรือติดต่อแล้วมีความเข้าใจผิดพลาดทำให้งานออกมาไม่ตรงตามที่ต้องการ เราก็ต้องเสียเวลามากมายไปกับการแก้งานใหม่อีกรอบ ด้วยเหตุนี้การติดต่อสื่อสารให้มีประสิทธิภาพจึงเข้ามาช่วยให้การทำงานราบรื่นมากยิ่งขึ้น โดยในปัจจุบันเครื่องมือหลายอย่างก็ถูกพัฒนามาเพื่อช่วยเรื่องการสื่อสาร เช่น Project Management Tool ที่ทำให้ทุกคนในทีมมองเห็นภาพงานที่ทำไปพร้อมกัน เมื่อมีข้อสงสัยก็สามารถสอบถามผ่านออนไลน์ได้ง่ายขึ้น

หากคุณไม่สามารถจัดการกับการทำงานได้ สิ่งแรกที่ต้องทำก็คือ คุณต้องทำความเข้าใจโครงสร้างงานขององค์กร DooDiDo หลังจากที่เข้าใจแล้วก็ลงมือปรับปรุงให้ตรงจุด ตรงตามเป้าหมาย และพยายามบริหารเวลาในการทำงานของตัวคุณเอง พียงแค่นี้คุณก็จะสามารถพัฒนาศักยภาพและประสิทธิภาพในการทำงานของคุณได้แล้วค่ะ

ขอบคุณแหล่งที่มา : www.hubbathailand.com