หวัด เป็นอาการที่สามารถเกิดขึ้นได้ตลอดทั้งปีจากการติดเชื้อไวรัส โดยเฉพาะในฤดูหนาวหรือฤดูฝน สังเกตได้จากอาการเบื้องต้นที่ทำให้คัดจมูก, มีน้ำมูก, ไอ จาม หรืออาจจะมีไข้ร่วมด้วย ไม่เป็นโรคร้ายแรงแต่อาจส่งผลกระทบเล็กน้อยในการทำกิจกรรมประจำวัน สามารถกินยาแก้หวัดและยาลดไข้เพื่อบรรเทาอาการ หรือถ้าหากมีอาการหวัดลงคอก็ให้รักษาอาการวิธีเดียวกัน ที่สำคัญให้พักผ่อนและเลือกทานอาหารที่มีประโยชน์โดยเฉพาะวิตามินซี และการดื่มน้ำมากๆ จะช่วยให้อาการหวัดหายได้เร็วยิ่งขึ้น
หวัด เป็นโรคที่เกิดจากอะไร
หวัด เป็นโรคทางเดินหายใจบนส่วนบนของร่างกายที่เกิดจากการติดเชื้อไวรัส ซึ่งเป็นภาวะที่พบบ่อยทั่วไป โรคหวัดมักจะเกิดในช่วงฤดูหนาวหรือฤดูฝน แต่สามารถเกิดได้ทุกขณะของปี อาการของโรคหวัดมักเริ่มต้นอย่างไม่มี 1-3 วันหลังจากที่ได้รับเชื้อ มีความหลากหลายและอาจแตกต่างไปตามบุคคล อาการทั่วไปที่พบบ่อยคือมีน้ำมูกไหลหรือคัดจมูก อาการปวดศีรษะ หรืออาการอ่อนเพลีย ส่วนใหญ่โรคหวัดจะมีอาการเบาๆ และสามารถทำกิจกรรมประจำวันได้ตามปกติ แต่หากมีอาการรุนแรง, ไข้สูง, ไม่มีการดีขึ้นตามปกติ ควรปรึกษาแพทย์เพื่อคำแนะนำและการรักษาเพิ่มเติม
สาเหตุและอาการของโรคหวัด
ไวรัสเป็นสาเหตุของโรคหวัดที่มักมีความต้านทานต่ำต่อการทำลายโดยภูมิคุ้มกัน ทำให้มีโอกาสที่จะติดเชื้อเมื่อมีการสัมผัส นอกจากนี้โรคหวัดมักเกิดได้ในฤดูหนาวหรือฤดูฝนที่มีอากาศแห้งและเย็น ซึ่งสภาพอากาศเหล่านี้อาจส่งเสริมการแพร่ระบาดของไวรัส เป็นที่ทราบกันดีว่าโรคหวัดมักมีอาการเบาๆ และมักหายเองไปเมื่อระบบภูมิคุ้มกันของร่างกายทำงานได้ดี
ลักษณะอาการของโรคหวัด
- ไอ: ไอเป็นอาการที่พบบ่อยในโรคหวัด แบ่งเป็นไอแห้งและไอมีเสมหะ
- น้ำมูก: การไหลของน้ำมูกส่วนใหญ่จะมีสีใสหรือสีขาว
- น้ำตาไหล: บางครั้งอาจมีอาการตาแดงหรือน้ำตาไหล
- ปวดคอ: บางครั้งอาจมีอาการปวดคอหรือคอเสียง
เนื่องจากโรคหวัดเป็นโรคที่เกิดจากไวรัส และไม่มีวัคซีนที่สามารถป้องกันโรคหวัดได้ การรักษาโรคหวัดมักจะเน้นการบรรเทาอาการและการเสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกันของร่างกาย โดยที่การพักผ่อน, การดื่มน้ำมากๆ, การใช้ยาลดไข้และแก้ปวดเพื่อบรรเทาอาการ นี่คือบางวิธีที่สามารถใช้ในการรักษาโรคหวัด
- พักผ่อน: ให้ร่างกายได้พักผ่อนมากมาย เพื่อให้ระบบภูมิคุ้มกันทำงานได้ดี
- ดื่มน้ำมากๆ: ดื่มน้ำมากเพื่อรักษาความชื้นในลำคอและช่วยละลายเสมหะ
- การใช้ยาลดไข้และแก้ปวด: การใช้ยาลดไข้เช่น พาราเซตามอล หรือไอบรูโปรเฟน (Ibuprofen) สามารถช่วยลดไข้และแก้อาการปวดได้
- การใช้ยาละลายเสมหะ:การใช้ยาละลายเสมหะที่มีส่วนผสมของกีฬามีประสิทธิภาพในการช่วยละลายเสมหะ
- การใช้หน้ากาก: การสวมหน้ากากอาจช่วยลดการแพร่กระจายของเชื้อไวรัสจากบุคคลที่ติดเชื้อ
- การหลีกเลี่ยงการสัมผัส: หลีกเลี่ยงการสัมผัสบุคคลที่อาจมีโรคหวัด ไม่ให้แบ่งปันของส่วนตัว เช่น แก้ม, แก้มมือ, ของใช้ส่วนตัว
การมีอาการหวัดลงคอมักเป็นอาการที่พบบ่อยในหลายโรคทางเดินหายใจ ไม่เฉพาะเฉพาะในโรคหวัดหรือไข้หวัด อาการหวัดลงคอสามารถมีลักษณะต่างๆ ได้แก่
- ปวดคอ: มีความรู้สึกเจ็บแสบหรืออาการปวดที่คอ
- อาการคัดจมูก: อาจมีน้ำมูกไหล มีน้ำมูกหรือเสมหะที่มีสีเข้ม
- การกลืนที่แสบร้อน: รู้สึกแสบร้อนหรือเจ็บเมื่อกลืน
- ไอ: ไอแห้งหรือไอมีเสมหะ
- ลำคอแดง: จะรู้สึกร้อนและบวม
- อาการเมื่อกลืนน้ำลาย: มีอาการรู้สึกแสบหรือไม่สบายเมื่อกลืนน้ำลาย
- อาการเลือดเฉียบพลัน: อาจมีอาการปวดหรือเจ็บเมื่อลุกขึ้น
หากคุณมีอาการหวัดลงคอและไม่มีอาการรุนแรง สามารถทำการรักษาอาการด้วยวิธีต่อไปนี้
- การพักผ่อน: ให้ร่างกายได้พักผ่อนมากๆ
- ดื่มน้ำมาก: ดื่มน้ำมากเพื่อช่วยละลายเสมหะและรักษาความชื้นในคอ
- การใช้ยาละลายเสมหะ: การใช้ยาละลายเสมหะ
- การใช้ยาลดไข้และแก้ปวด: การใช้ยาลดไข้ เช่น พาราเซตามอล หรือ Ibuprofen สามารถช่วยลดไข้และแก้อาการปวดได้
เป็นหวัดกินอะไรให้หายเร็ว
การรักษาโรคหวัดมักจะเน้นการบรรเทาอาการและการเสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกันของร่างกาย นอกจากการให้ร่างกายพักผ่อนและดื่มน้ำมาก การเลือกอาหารที่เพิ่มประโยชน์และช่วยบรรเทาอาการได้ ดังนี้
- น้ำอุ่น: การดื่มน้ำอุ่นช่วยระบบทางเดินหายใจหรือคอของคุณคงความชื้น ช่วยบรรเทาอาการปวดคอ
- น้ำผลไม้: ดื่มน้ำผลไม้สดหรือน้ำผลไม้สกัดเพื่อรับประโยชน์จากวิตามิน C และสารต้านอนุมูลอิสระ
- ชาผงซีนามอน (Cinnamon Tea): ชาผงซีนามอนมีสมบัติทางต้านเชื้อและสามารถช่วยบรรเทาอาการไอที่เกิดจากหวัด
- ส้มโอ: ส้มโอมีประโยชน์ในการรักษาอาการไอและการติดเชื้อหวัด
- น้ำมะนาว: น้ำมะนาวช่วยบรรเทาอาการไอ, หวัด มีสารวิตามิน C
- ผักและผลไม้สด: การบรรเทาอาการไอและปวดคอจากหวัดด้วยการกินผักและผลไม้สด
- กินอาหารอ่อน: การเลือกอาหารอ่อนเมื่อเป็นหวัด เช่น โจ๊ก ช่วยให้ระบบทางเดินหายใจได้พักผ่อน
- น้ำกะหล่ำปลี: น้ำกะหล่ำปลีมีสารสกัดที่ช่วยลดอาการปวดคอ
- ชามะนาว (Honey Lemon Tea): ชามะนาวมีสมบัติในการบรรเทาอาการไอและปวดคอจากหวัด
- น้ำมะพร้าว: น้ำมะพร้าวมีสารต้านอนุมูลอิสและช่วยในการบำรุงร่างกาย
บทสรุป
เมื่อสังเกตว่าตัวเองมีอาการคัดจมูกหรือจามบ่อย แสดงว่าอาจจะได้รับเชื้อไวรัสที่ทำให้เป็นหวัดได้ ระยะ 1-3 วันจะเริ่มมีน้ำมูก, เจ็บคอ, ไอ หรืออาการอื่นๆ ให้รีบกินยาเพื่อบรรเทาอาการให้ดีขึ้น พักผ่อนให้เพียงพอ ดื่มน้ำเยอะๆ และเลือกทานอาหารที่มีประโยชน์ หากอาการหวัดไม่ดีขึ้นหรือมีอาการรุนแรง ควรปรึกษาแพทย์เพื่อการรักษาที่เหมาะสม
ขอบคุณแหล่งอ้างอิง : nhs.uk/healthline.com/hopkinsmedicine.org
ติดตามเรื่องราวอื่นๆ และเกมส์ที่น่าสนใจได้ที่ : doodido.com