เช็คสัญญาณเตือนเพื่อป้องกันความเสี่ยง ไทรอยด์เป็นพิษ

ไทรอยด์

ไทรอยด์ เป็นโรคที่เกิดจากความผิดปกติของต่อมไทรอยด์ เป็นต่อมไร้ท่อที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในร่างกาย ทำหน้าที่สร้างฮอร์โมนเพื่อควบคุมระบบการเผาผลาญหากต่อมไร้ท่อทำงานผิดปกติจะส่งผลกระทบต่อระบบการเผาผลาญของร่างกายได้ รวมถึงการทำงานของอวัยวะต่างๆ โดยเฉพาะหัวใจและสมอง สาเหตุและอาการที่ทำให้เกิดไทรอยด์เป็นพิษอาจเกิดจากปัจจัยหลายประการแตกต่างกัน มาดูกันว่าวิธีการสังเกตอาการและการป้องกันไทรอยด์เป็นพิษสามารถทำได้อย่างไรบ้างในบทความนี้

ไทรอยด์
รูปประกอบจาก pexels.com

ไทรอยด์ คืออะไร

คำว่า “ไทรอยด์” (Thyroid) เป็นคำที่ใช้บ่อยเพื่ออ้างถึงต่อมไทรอยด์ (Thyroid gland) ซึ่งเป็นต่อมส่วนหนึ่งในระบบต่อมไทรอยด์ของร่างกายมนุษย์ ต่อมไทรอยด์นี้ตั้งอยู่ที่ด้านหน้าของลำคอ และมีหน้าที่สร้างฮอร์โมนทีโรไยด์ (Thyroid hormones) ที่สำคัญต่อการควบคุมการเผาผลาญพลังงานและการเจริญเติบโตของร่างกาย ฮอร์โมนทีโรไยด์ที่ผลิตขึ้นจากต่อมไทรอยด์ประกอบด้วย

  • ไทรอกซิน (Thyroxine, T4): เป็นฮอร์โมนทีโรไยด์หลักที่ถูกผลิตมากที่สุด และจะถูกแปลงเป็นฮอร์โมนทีโรไยด์ที่มีประสิทธิภาพมากขึ้น
  • ไทริอิดอน (Triiodothyronine, T3): เป็นฮอร์โมนทีโรไยด์ที่มีความสัมพันธ์กับการควบคุมการเผาผลาญพลังงานมากขึ้น

การทำงานของต่อมไทรอยด์และฮอร์โมนทีโรไยด์มีผลต่อหลายระบบในร่างกาย เช่น การควบคุมการเผาผลาญพลังงาน, การเจริญเติบโต, การควบคุมอารมณ์ และการควบคุมการทำงานของระบบประสาท การตรวจสอบภาวะทำงานของต่อมไทรอยด์และฮอร์โมนทีโรไยด์ทำได้ผ่านการตรวจระดับ T3, T4, และ TSH ซึ่งเป็นฮอร์โมนที่ควบคุมการทำงานของต่อมไทรอยด์ การรักษาทำงานของต่อมไทรอยด์ที่ผิดปกติอาจให้เด็กว่างานได้โดยการใช้ยารักษาหรือการรักษาด้วยการผ่าตัดในกรณีบางครั้ง

อาการของไทรอยด์เป็นพิษ

อาการของไทรอยด์เป็นพิษ (Hyperthyroidism) เกิดเมื่อต่อมไทรอยด์ผลิตฮอร์โมนทีโรไยด์มากเกินไป ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อระบบต่างๆ ในร่างกาย นอกจากนี้สาเหตุที่ทำให้เกิดไทรอยด์เป็นพิษมักเกิดจากโรคกระดูกและการผลิตฮอร์โมนทีโรไยด์เกินปกติ นี้คือบางอาการที่อาจเกิดขึ้น

  • น้ำหนักลดอย่างรวดเร็ว: ผู้ที่มีไทรอยด์เป็นพิษอาจพบว่าน้ำหนักลดลงอย่างรวดเร็วโดยไม่มีเหตุผลที่ชัดเจน
  • ไขมันใต้ผิวหนังลด: ผู้ที่มีไทรอยด์เป็นพิษอาจมีการลดลงของไขมันใต้ผิวหนัง
  • ความดันเลือดออกซิเจนสูง: ความดันเลือดที่ระหว่างกลางของออกซิเจนมักสูงขึ้น
  • ใจเต้นเร็ว: มีอาการใจเต้นเร็วจากปกติ
  • ความเจ็บและบวมบริเวณคอ: อาจมีความรู้สึกเจ็บและบวมบริเวณคอ
  • สัมผัสความร้อนมาก: ผู้ที่มีไทรอยด์เป็นพิษมักมีความรู้สึกร้อนมาก แม้ว่าในสภาพอากาศที่เย็น
  • การอุณหภูมิร่างกายสูง: อุณหภูมิร่างกายสูงกว่าปกติ
  • การรับประทานมากเกินไป: มีความหิวมากและการกินมากกว่าปกติ
  • กล้ามเนื้อเกร็ง: มีความเกร็งของกล้ามเนื้อ

การรักษาไทรอยด์เป็นพิษ

การรักษาไทรอยด์เป็นพิษ (Hyperthyroidism) มีหลายวิธีและตัวเลือกที่แพทย์จะพิจารณาตามความรุนแรงของสถานะการดำเนินงานของต่อมไทรอยด์และสุขภาพทั่วไปของผู้ป่วย และความพร้อมในการรับมือกับผลข้างเคียงของการรักษา ผู้ที่มีไทรอยด์เป็นพิษควรรับการตรวจสอบและการรักษาจากแพทย์เพื่อการดูแลที่ถูกต้องและป้องกันภาวะแทรกซักสำหรับอาการที่มีผลกระทบต่อร่างกาย นี่คือบางวิธีที่สามารถใช้ในการรักษา

  • ยาทีโรไยด์ (Antithyroid Medications): มักใช้ยาที่ชื่อ Methimazole)หรือ Propylthiouracil เพื่อลดการผลิตฮอร์โมนทีโรไยด์ ยาเหล่านี้มีความเสี่ยงต่อการเกิดผลข้างเคียงและจำเป็นต้องให้ความระมัดระวัง
  • ไอโอดีน (Radioactive Iodine): การให้ไอโอดีนเป็นวิธีรักษาที่พบมากที่สุดในปัจจุบัน ไอโอดีนไปทำลายเซลล์ต่อมไทรอยด์และลดการผลิตฮอร์โมนทีโรไยด์ การให้ไอโอดีนมักทำให้ต่อมไทรอยด์มีขนาดเล็กลง
  • ผ่าตัดต่อมไทรอยด์ (Thyroidectomy): การผ่าตัดต่อมไทรอยด์อาจถูกใช้ในกรณีที่ยาหรือไอโอดีนไม่ได้ผล หรือในกรณีที่มีก้อนบนต่อมไทรอยด์ที่ต้องเอาออก
  • การควบคุมอาหาร: การลดการบริโภคไอโอดีนในอาหาร เช่น ลดการบริโภคอาหารที่มีไอโอดีนสูง เป็นวิธีหนึ่งในการควบคุมการผลิตฮอร์โมนทีโรไยด์
  • การจัดการอาการอื่นๆ : การให้ยาเพื่อควบคุมอาการอื่นๆ เช่น การให้ Beta-blockers เพื่อช่วยควบคุมอาการใจเต้นเร็ว

วิธีการสังเกตไทรอยด์เป็นพิษ

การสังเกตไทรอยด์เป็นพิษ (Hyperthyroidism) สามารถทำได้โดยการสังเกตอาการทางกายและการเปลี่ยนแปลงในระบบทั่วไปของร่างกาย นี่คือบางสัญญาณและอาการที่สามารถช่วยในการตรวจสอบไทรอยด์เป็นพิษ

  • ใจเต้นเร็ว : การใจเต้นเร็วเป็นอาการที่พบบ่อยในผู้ที่มีไทรอยด์เป็นพิษ
  • น้ำหนักลดโดยไม่ชัดเจน: ผู้ที่มีไทรอยด์เป็นพิษอาจสูญเสียน้ำหนักโดยไม่มีเหตุผลที่ชัดเจนหรือการลดน้ำหนักอย่างรวดเร็ว
  • ไขมันใต้ผิวหนังลด: ไทรอยด์เป็นพิษมักทำให้มีการลดลงของไขมันใต้ผิวหนัง
  • เหงื่อมาก: การเหงื่อมากเป็นอาการที่สามารถเกิดขึ้น
  • อาการร้อนบริเวณมือและเท้า: ผู้ที่มีไทรอยด์เป็นพิษอาจรู้สึกร้อนและมีความร้อนบริเวณมือและเท้า
  • ตาแห้ง: การมีอาการตาแห้ง
  • การเจ็บหรือบวมที่ต่ำกว่าคอ: การมีอาการเจ็บหรือบวมที่ต่ำกว่าคอสามารถเป็นอาการที่เกิดขึ้น
  • ปัญหาในการนอนหลับ: การมีปัญหาในการนอนหลับอาจเกิดขึ้น
  • เกร็งกล้ามเนื้อ : การมีการเกร็งของกล้ามเนื้อแสดงถึงสภาพไทรอยด์เป็นพิษ

การป้องกันไทรอยด์เป็นพิษ

ไม่มีวิธีที่แน่นอนในการป้องกันไทรอยด์เป็นพิษ (Hyperthyroidism) ในทางทฤษฎี แต่มีบางสิ่งที่สามารถทำเพื่อลดความเสี่ยงหรือช่วยควบคุมสถานะไทรอยด์ได้

  • การตรวจสุขภาพประจำปี: การตรวจสุขภาพประจำปีที่สม่ำเสมอสามารถช่วยตรวจพบปัญหาทางสุขภาพที่เกี่ยวข้องกับไทรอยด์ตั้งแต่เริ่มต้น
  • การควบคุมอาหาร: การรับประทานอาหารที่สมดุลและทำให้ได้เพียงพอของไอโอดีน และฮอร์โมนอื่นๆ สามารถช่วยลดความเสี่ยงของการเป็นไทรอยด์เป็นพิษ
  • การเฝ้าระวังอาการ: หากมีอาการที่เกี่ยวกับการทำงานของไทรอยด์ ควรรีบพบแพทย์เพื่อการวินิจฉัยและการรักษาทันที
  • ความรับผิดชอบต่อสุขภาพ: การรักษาโรคหรือสภาพทางสุขภาพที่เกี่ยวกับไทรอยด์ในระยะเริ่มต้นจะช่วยลดความเสี่ยง
  • การหมั่นเช็คสุขภาพไทรอยด์: สำหรับบุคคลที่มีประวัติความเสี่ยงสูง การตรวจสุขภาพจากแพทย์จะช่วยตรวจสอบสถานะการทำงานของไทรอยด์
  • การลดการบริโภคไอโอดีน: หลีกเลี่ยงการบริโภคไอโอดีนในปริมาณมากๆ หรือการใช้ไอโอดีนเสริมๆ ได้

บทสรุป

โรคไทรอยด์เป็นโรคที่สามารถเกิดขึ้นได้ตลอดเวลา สิ่งสำคัญที่ไม่ควรมองข้ามคือการหมั่นตรวจเช็กความผิดปกติของร่างกาย หากคุณมีอาการที่เป็นความเสี่ยงควรพบแพทย์เพื่อตรวจความผิดปกติและการรักษาที่เหมาะสม การตรวจสอบระดับฮอร์โมนทีโรไยด์และการทดสอบอื่นๆ สามารถช่วยในการวินิจฉัยไทรอยด์เป็นพิษได้ ควรจะทราบว่าบางครั้งไทรอยด์เป็นพิษอาจเกิดขึ้นโดยไม่มีสาเหตุที่สามารถป้องกันได้ การสังเกตอาการและกสรรักษาเร็วที่สุดเป็นสิ่งสำคัญในการป้องกันไทรอยด์เป็นพิษ

 

ขอบคุณแหล่งอ้างอิง : singhealth.com.sg/healthlinkbc.ca/niddk.nih.gov

ติดตามเรื่องราวอื่นๆ และเกมส์ที่น่าสนใจได้ที่ : doodido.com