แสงสีฟ้า คืออะไร และส่งผลเสียต่อสุขภาพอย่างไร

แสงสีฟ้า

แสงสีฟ้า (Blue Light) มีคลื่นความยาวประมาณ 415–455 นาโนเมตร เป็นคลื่นที่สั้นที่สุดและมีพลังงานมาก สามารถทะลุผ่านกระจกตาไปจนถึงจอประสาทตา และทำให้เกิดความเสียหายได้ เป็นแสงพลังงานสูงที่เรามองเห็นได้ เช่น แสงไฟ LED จากหน้าจอสมาร์ทโฟน, คอมพิวเตอร์, แท็บเล็ต และทีวี หากได้รับแสงสีฟ้าเป็นเวลานานจะส่งผลเสียต่อสุขภาพโดยเฉพาะสุขภาพตา ในบทความนี้ได้พูดถึงความหมายของแสงสีฟ้า, ผลกระทบ, วิธีลดผลกระทบ, ผลเสีย และอาหารที่ช่วยบำรุงสายตาจากผลกระทบของแสงสีฟ้า

แสงสีฟ้า
ขอบคุณรูปประกอบจาก istockphoto.com

แสงสีฟ้า คืออะไร

แสงสีฟ้าจากหน้าจอหรืออุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ คือ แสงที่มีความสามารถในช่วงคลื่นและสีที่สูง โดยเฉพาะคลื่นแสงสีฟ้าที่มีความสั้นจาก หน้าจอของคอมพิวเตอร์, โทรศัพท์มือถือ, แท็บเล็ต และอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์อื่นๆ มักจะสร้างแสงสีฟ้าเมื่อทำงาน มีผลกระทบต่อระบบทางชีวภาพของคนเราโดยเฉพาะในเรื่องของการนอน การได้รับแสงสีฟ้ามากเกินไปในช่วงเย็นหรือก่อนนอนอาจสร้างผลกระทบต่อการนอนหลับ การได้รับแสงสีฟ้ามากๆ ในช่วงเย็นจะได้รับผลกระทบต่อการปลดปล่อยมลภาวะเชิงลบมากขึ้น ทำให้ยากที่จะนอนหลับ หากคุณใช้อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ตลอดวัน การใช้โหมดต่อต้านแสงน้ำเงินหรือลดความสว่างของหน้าจอในช่วงเย็นอาจช่วยลดผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นต่อระบบการนอนของคุณได้

ผลกระทบจากแสงสีฟ้า

ผลกระทบต่อระบบทางชีวภาพของมนุษย์ และมีบทบาทในการควบคุมรอจับและรู้สึกตื่นของร่างกาย นี่คือผลกระทบของแสงสีฟ้าจากจอมือถือ

  • ระบบทางชีวภาพ: แสงสีฟ้าสามารถมีผลต่อระบบทางชีวภาพของมนุษย์ได้ เช่น การรู้สึกตื่น, การใช้จอมือถือในที่มืดหรือก่อนนอนอาจส่งผลให้นอนไม่หลับ
  • การนอน: การใช้จอมือถือก่อนนอนอาจทำให้มีการผลัดรายวันของร่างกายเกิดผลลัพธ์ที่ไม่ดีต่อรอบการนอน การลดแสงสีฟ้าก่อนนอนอาจช่วยให้ร่างกายเตรียมตัวในการพักผ่อน
  • ตา: การใช้จอมือถือเป็นเวลานานอาจทำให้เกิดความล่าช้าในการตามองและอาจเสี่ยงต่อปัญหาสายตา เช่น สายตาเหลือง, สายตาแห้ง หรือปัญหาสายตาที่เกิดจากการใช้จอ
  • ผลกระทบทางจิตวิทยา: การใช้จอมือถือในเวลาที่ยาวนานอาจมีผลกระทบต่อสุขภาพจิตวิทยา เช่น ทำให้มีความเครียด

วิธีลดผลกระทบจากแสงสีฟ้า

การลดผลกระทบของแสงสีฟ้าที่อาจเกิดขึ้นสามารถทำตามนี้

  • ใช้โหมดต่อต้านแสงน้ำเงิน (Blue Light Filter): สามารถเปิดโหมดต่อต้านแสงน้ำเงินบนอุปกรณ์หลายแบรนด์ได้ ซึ่งจะลดจำนวนแสงสีฟ้าที่อุปกรณ์แสดงผล
  • ลดการใช้จอก่อนนอน: ลดเวลาในการใช้จอมือถือก่อนนอนและให้ร่างกายมีเวลาในการเตรียมตัวสำหรับการนอน
  • ใช้แว่นตากันแสงสีฟ้า: แว่นตาที่มีการตกแต่งด้วยฟิลเตอร์ต้านแสงสีฟ้าสามารถช่วยลดผลกระทบ
  • สร้างสภาพแวดล้อมที่เหมาะสมสำหรับการนอน: ลดแสงสีฟ้าในสภาพแวดล้อมในเวลาที่ใกล้ถึงการนอน

ผลเสียต่อสุขภาพจากแสงสีฟ้า

การได้รับแสงสีฟ้ามากเกินไปหรือในช่วงเวลาที่ไม่เหมาะสมอาจมีผลกระทบต่อสุขภาพได้ในหลายด้าน ต่อไปนี้คือบางผลเสียที่อาจเกิดขึ้น

  • สุขภาพตา: การใช้จอคอมพิวเตอร์, โทรศัพท์มือถือ, แท็บเล็ต เป็นเวลานานอาจทำให้เกิดอาการสายตาเหลือง, ต่อมน้ำตาแห้ง และความไม่สบายในตา การได้รับแสงสีฟ้าในช่วงเย็นอาจทำให้นอนไม่หลับ
  • สุขภาพจิตวิทยา: การใช้อุปกรณ์ที่มีแสงสีฟ้าก่อนนอนอาจทำให้มีภาวะตื่น สายตา หรือเครียด
  • สุขภาพผิว: การถูกแสงสีฟ้าในระยะยาวอาจทำให้เสียเรียวของผิวหนัง, เสียงลดลง, หรือเกิดปัญหาผิวเสีย
  • สุขภาพสมอง: แสงสีฟ้ามีผลกระทบต่อการนอน ทำให้ความจำและการเรียนรู้ของบุคคลลดลง
  • สุขภาพหัวใจ: การได้รับแสงสีฟ้าในเวลาที่ไม่เหมาะสมอาจส่งผลต่อระบบประสาทสัมผัส
  • ระบบทางการศึกษา: การได้รับแสงสีฟ้าในช่วงเย็นสามารถสร้างความสับสนในระบบประสาทสัมผัส

อาหารที่ช่วยบำรุงสายตา

มีสารอาหารบางชนิดที่น่าสนใจสำหรับการบำรุงสายตา แม้ว่าการบำรุงสายตาจะได้รับประโยชน์จากการบริโภคอาหารที่มีสารอาหารหลายประการ ต่อไปนี้คือบางอาหารที่มีสารอาหารที่สามารถช่วยส่งเสริมสุขภาพสายตา

  • วิตามิน A: มีในอาหาร เช่น แครอท, ผลไม้สีเขียวเข้ม ซึ่งมีเบต้า-คาโรทีนที่มีไวตามิน A
  • วิตามิน C: พบในผลไม้สีเขียว, ส้ม, กล้วย
  • วิตามิน E: พบในเนื้อสัตว์, ถั่ว, ลูกเดือย, ธัญพืช
  • ลูทีน (Lutein) และ แซนตีนา (Zeaxanthin): พบในผักสีเขียวเข้ม, พริกแดง, ไข่
  • โอเมก้า-3 กรดไขมัน: พบในปลาทะเล, น้ำมันปลา, ไข่
  • สารอนิแตกซัน: พบในอาหารที่เสริมแสงแดดและอาหารที่ได้จากแหล่งพืช เช่น เห็ด
  • ซิงก์: พบในเนื้อสัตว์, ถั่ว, เมล็ดพืช, ซีเรียล
  • สารอินทีน (Anthocyanins): พบในผลไม้ที่มีสีเข้ม เช่น บลูเบอร์รี, สตรอเบอร์รี
  • ซีนนามัน (Cyanidin): พบในผลไม้ที่มีสีแดงเข้ม เช่น สตรอเบอร์รี

บทสรุป

ปฎิเสธไม่ได้เลยว่ามือถือเป็นสิ่งจำเป็นในชีวิตประจำวัน การใช้งานมือถือหรือคอมพิวเตอร์เป็นเวลานานทำให้เราได้รับแสงสีฟ้าที่ส่งผลกระทบต่อสุขภาพและสายตา ที่ทำให้ตาแห้ง, ปวดตา ,เสี่ยงต่อการเป็นโรคจอประสาทตาเสื่อม และยังทำให้นอนหลับยาก เพราะฉะนั้นการรักษาสุขภาพสายตาไม่ได้เพียงแค่การบริโภคอาหารที่เหมาะสม แต่ยังต้องคำนึงถึงพฤติกรรมการใช้งานมือถือหรืออุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ หากคุณมีปัญหาสุขภาพที่มาจากแสงสีฟ้าหรือข้อกังวลเกี่ยวกับสุขภาพสายตา ควรปรึกษาแพทย์เพื่อการประเมินและคำแนะนำที่เหมาะสม

 

ขอบคุณแหล่งอ้างอิง : health.ucdavis.edu/paulaschoice-eu.com/oeberlin.com

ติดตามเรื่องราวอื่นๆ และเกมส์ที่น่าสนใจได้ที่ : doodido.com