อาการ”ฝันร้าย” เป็นสัญญาณที่จะบ่งบอกปัญหาสุขภาพของคุณได้

WM

“ความฝัน” หากฝันดีก็จะทำให้ยามตื่นนอนกลายเป็นเช้าที่แสนสดใส แต่ถ้าหากฝันร้ายอาจจะทำให้หลับต่อได้ยากขึ้น

“ฝันร้าย ปัญหาที่รบกวนการนอนหลับพักผ่อนของคุณ” ถูกต้องมั้ยล่ะคะ หลายๆ ครั้งเราก็กลับบ้านมาเหนื่อยๆ อาบน้ำนอนสบายใจแทนที่จะได้ตื่นเช้ามาทำงานอย่างสดใส แต่ก็ต้องขวัญผวาทุกครั้งไปกับฝันร้ายที่ผุดขึ้นมาตอนนอน แน่นอนว่าฝันนั้นไม่ว่าใครก็น่าจะต้องเคยฝันกันล่ะค่ะ อาจจะมีทั้งฝันดีและฝันร้ายปะปนกันไป แต่ทุกคนเคยสังเกตุมั้ยล่นะคะว่าหลายๆ ครั้งที่เราฝันนั้นต่อให้เป็นฝันดีแต่ตื่นมาก็ยังรู้สึกไม่สดชื่น เหมือนไม่ได้นอนเลย และยิ่งถ้าเป็นฝันร้ายก็ยิ่งแล้วใหญ่เลยค่ะ

การนอนหลับ ถือว่าเป็นช่วงเวลาที่ดีที่สุดที่ร่างกายจะได้พักผ่อน และปล่อยวางจากเรื่องต่าง ๆ ที่ต้องเผชิญมาทั้งวัน และสิ่งที่เคียงคู่กับการนอนหลับนั่นก็คือ “ความฝัน” หากฝันดีก็จะทำให้ยามตื่นนอนกลายเป็นเช้าที่แสนสดใส แต่ถ้าหากฝันร้ายอาจจะทำให้หลับต่อได้ยากขึ้น และยังสามารถส่งผลต่อการใช้ชีวิตประจำวัน นอกจากนี้ฝันร้ายยังสามารถบอกถึงปัญหาสุขภาพจิตของเราอีกได้ด้วย

WM
ขอบคุณภาพจาก: https://pixabay.com/th/users/magwood_photography-6599853/

เรื่องของฝันร้าย

ฝันร้าย (nightmare) เป็นภาวะที่หลายคนไม่อยากให้เกิดขึ้น เพราะทำให้เกิดการตอบสนองทางอารมณ์ในเชิงลบ ซึ่งเกิดในภาวะการนอนหลับในระยะ REM (rapid eye movement) เป็นช่วงที่กล้ามเนื้อสมองส่วนทาลามัส และซีรีบรัมที่ควบคุมการเคลื่อนไหวของใบหน้า การหลั่งน้ำลาย การหายใจหยุดการทำงานลง โดยฝันร้ายมักจะมีภาพลักษณ์ที่ซับซ้อน และเป็นเรื่องยาว ผลจากการฝันร้ายจะทำให้เกิดภาวะความกลัวอย่างรุนแรง หรือมีความวิตกกังวล สมาคมจิตแพทย์อเมริกาได้ให้คำจำกัดความและกำหนดการวินิจฉัยว่า ฝันร้ายมีแนวโน้มที่จะเกิดขึ้นได้ตั้งแต่ในวัยเด็ก 10 ขวบขึ้นไป แต่จะไม่ส่งผลกระทบต่อจิตใจ หรือทางสังคมมากนัก แต่หากฝันร้ายเกิดขึ้นบ่อย ๆ กับวัยผู้ใหญ่จะเป็นสัญญาณของปัญหาสุขภาพจิตที่อาจเกิดขึ้นในอนาคตได้

สาเหตุของฝันร้าย

  • ร้อยละ 60 พบว่าสาเหตุของฝันร้ายมาจากความวิตกกังวล และความเครียด
  • การสูญเสียบุคคลที่รัก หรือเกิดความเจ็บปวด
  • ผลข้างเคียงของยา เช่น ยานอนหลับ เป็นต้น
  • การดื่มแอลกอฮอล์มากเกินไป หรือสูบบุหรี่มากเกินไป
  • ความผิดปกติของการหายใจขณะหลับ หรือภาวะหยุดหายใจขณะหลับ
  • การรับประทานอาหารที่ย่อยยากก่อนเข้านอน เช่น อาหารประเภทเนื้อสัตว์ เป็นต้น
  • มีปัญหาด้านสุขภาพจิต เช่น ป่วยเป็นโรคซึมเศร้า วิตกกังวล
WM
ขอบคุณภาพจาก: https://www.pexels.com/th-th/@olly

เมื่อฝันร้าย (ไม่) ได้กลายเป็นดี

ฝันร้าย อาจเป็นสัญญาณของปัญหาสุขภาพ ดังนี้

โรควิตกกังวล ผู้ที่ป่วยเป็นโรควิตกกังวลมักจะเกิดอาการฝันซ้ำ ๆ ความฝันมีลักษณะยาว และละเอียด เนื้อเรื่องอาจจะเป็นเหตุการณ์เดิม ๆ หรืออาจเปลี่ยนแปลงไปตามเหตุการณ์ในปัจจุบันก็ได้

โรคซึมเศร้า ผู้ที่ป่วยเป็นโรคซึมเศร้ามักจะฝันถึงสถานที่มืด ๆ น่ากลัว หรือฝันถึงคนตาย อาจปะติดปะต่อเรื่องราวไม่ได้ และอาจฝันเห็นหลาย ๆ เรื่องในคืนเดียวกัน

ภาวะผิดปกติทางจิตใจที่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ร้ายแรง (PTSD) มักจะฝันถึงเหตุการณ์ร้าย ๆ ที่เคยประสบพบเจอมา มักจะเป็นภาพฉายซ้ำ ๆ และมีจุดจบแบบเดิม บางครั้งอาจเห็นภาพแค่บางส่วน

โรคไบโพล่าร์ มักจะเป็นความฝันที่สดใส ละเอียด น่าจดจำ สามารถปะติดปะต่อกันเป็นเรื่องยาว อาจเกี่ยวข้องกับภาพยนตร์ หรือละครที่ดู

WM
ขอบคุณภาพจาก: https://www.pexels.com/th-th/@olly

วิธีป้องกันการฝันร้าย

  • หลีกเลี่ยงคาเฟอีน นิโคติน และแอลกอฮอล์ เช่น กาแฟ ชา ช็อกโกแลต น้ำอัดลม เป็นต้น เพราะอาหารกลุ่มนี้จะมีส่วนผสมเหล่านี้จะส่งผลให้ร่างกายตื่นตัว และนอนหลับได้ยากขึ้น
  • ทำกิจกรรมผ่อนคลายก่อนนอน เช่น การพักผ่อนก่อนนอน อาบน้ำอุ่น หรือการอ่านหนังสือจะทำให้สามารถหลับได้ง่ายขึ้น
  • ควบคุมอุณหภูมิห้อง รักษาอุณหภูมิให้ไม่ร้อน หรือเย็นเกินไป เพราะอากาศที่ไม่สบายอาจรบกวนการนอนหลับได้
  • หลีกเลี่ยงการนอนบนเตียงหากยังไม่หลับ ควรหากิจกรรมอื่นทำก่อน เพราะหากนอนไม่หลับจะทำให้เกิดความวิตกกังวลจนยิ่งทำให้นอนไม่หลับ
  • พบแพทย์ เพื่อเข้ารับคำปรึกษาเกี่ยวกับปัญหาการนอนไม่หลับอย่างตรงจุด เพราะปัญหาการนอนไม่หลับนั้นสามารถรักษาให้หายได้

หรือก็คือถ้าจะให้ดี ให้การนอนของเรามีประสิทธิภาพ ให้เราได้พักผ่อนจริงๆ แล้วล่ะก็ การนอนแบบไม่ฝันนั้นดูเหมือนจะเป็นวิธีการนอนที่มีประสิทธิภาพที่ดีที่สุดเลยล่ะค่ะ เพราะฉะนั้นแล้วก่อนนอนก็ลองนำวิธีที่ DooDiDo แนะนำมาในวันนี้ อย่างการงดทานของประเภทที่มีกาเฟอีน ลองผ่อนคลายลงด้วยการหาหนังสือเล่มโปรดมาอ่าน ปรับอุณหภูมิห้องให้พอดี ไม่หนาวไม่ร้อนมากเกินไป หรือถ้าหากยังนอนไม่หลับก็ลองเปลี่ยนไปหากิจกรรมเบาๆ มาทำก่อนอย่าฝืนนักก็จะดีต่อตัวคุณเองค่ะ

ขอบคุณแหล่งที่มา: www.petcharavejhospital.com