อย่าละเลย 7สัญญาณอาการป่วยทางจิตที่ควรปรึกษาแพทย์!!

สาเหตุอะไรบ้างที่ส่งผลให้คนเราป่วยทางใจ และอาจมีผลกับทางกายด้วย

หลายๆ คนเคยสังเกตุมั้ยล่ะคะว่า ปัญหาสุขภาพกายหลายๆ ครั้งนั้นก็ส่งผลมาจากปัญหาสุขภาพจิตนี่แหล่ะค่ะ หากมีปัญหาจากสุขภาพกายแล้วอย่างไรก็สามารถตรวจสอบ ตรวจเช็คร่างกาย และสามารถเห็นได้ด้วยตาเปล่า แต่ถ้าหากใครที่มีปัญหาสุขภาพจิตนั้นเป็นเรื่องยากเหมือนกันที่จะให้สุขภาพนั้นดีขึ้นมาได้ เพราะปัจจัยที่ส่งผลให้ผู้คนมีปัญหาสุขภาพจิตนั้นมีมากมาย และก็เป็นเรื่องที่ละเอียดอ่อนมากอีกด้วย เพราะฉะนั้นแล้วหากใครมีอาการหรือพฤติกรรมที่แปลกไปจากเดิมแล้วล่ะก็อาจเป็นสัญญาณเตือนอะไรบ้างอย่างของคุณก็ได้นะ

สำหรับการจำแนกโรคทางจิตเวชมีหลายหมวดหมู่ในแต่ละบุคคล เช่น บางรายต้องพบกับความเสียใจหนักๆ เพิ่งผ่านการสูญเสียคนใกล้ชิด เครียดกับงานที่หาทางออกไม่ได้ ได้รับแรงกดดันสะสมจากความสัมพันธ์ที่ไม่เป็นอย่างที่คาดหวัง มีหลากหลายสาเหตุที่ส่งผลให้คนเราป่วยทางใจ และอาจมีผลกับทางกายด้วย แต่เราจะรู้ได้อย่างไรว่าอาการป่วยทางใจที่เป็นอยู่ ไม่ว่าจะเพิ่งเริ่มมีอาการ หรือเป็นมานานแล้วนั้น จะเข้าข่ายกลายเป็นโรคทางจิตเวช ที่ไม่ใช่แค่อารมณ์ผิดปกติชั่วครั้งชั่วคราว และควรต้องปรึกษาแพทย์ก่อนจะสายเกินแก้

เรามี 7 เช็คลิสต์ที่บอกว่านี่อาจไม่ใช่แค่ความผิดปกติทางอารมณ์ทั่วไป แต่อาจเป็นสัญญาณของโรคทางจิตเวช

1. นอนไม่หลับ หรือนอนมากเกินไป หรือมีอาการอย่างใดอย่างหนึ่งติดต่อกันนานเกินสองสัปดาห์ หรือเป็นเดือนจนกระทบกับการใช้ชีวิต

2. อยากแยกตัว เก็บตัวอยู่คนเดียว อยู่ๆ ก็ไม่อยากทำสิ่งที่เคยชอบทำ ไม่อยากออกไปใช้ชีวิตตามปกติ รวมถึงไม่ใส่ใจดูแลตัวเอง ไม่อยากทำแม้กระทั่งอาบน้ำ แปรงฟัน หรือแต่งตัว เกิดความรู้สึกไม่มีความสุขกับการใช้ชีวิตร่วมกับผู้อื่น ไม่ว่าจะเป็นในครอบครัว ในที่ทำงาน หรือแม้แต่ในโลก

3. มีพฤติกรรมหุนหันพลันแล่น มั่นใจในตัวเองมากเกินปกติ มีอารมณ์คึกครื้น ไม่อยากนอน มีพลังงานสูงมากเกินปกติ พูดเร็ว ทำเร็ว รวมถึงใช้จ่ายเงินฟุ่มเฟือย ใช้จ่ายเงินแบบไม่คิด

4. มีอาการเจ็บป่วยทางกายแบบหาสาเหตุไม่ได้ เช่น ปวดหลัง ปวดหัวแบบไม่มีสาเหตุ ปวดท้องท้องอืด หรือเป็นโรคกระเพาะอาหารแบบเฉียบพลัน ร่างกายซูบผอม อ่อนเพลีย ไม่มีแรง หัวใจเต้นเร็วขึ้น แน่นหน้าอก หายใจลำบาก หน้ามืด วิงเวียนศีรษะ ทั้งหมดนี้เรียกกันว่าเป็น ภาษาร่างกายแห่งความเครียด (body language of stress)

5. อยู่ๆ ก็ไม่มีสมาธิ ไม่สามารถจดจ่อกับสิ่งที่ต้องทำได้ตามปกติ ความสามารถในการคิดอ่านลดลง ตัดสินใจในเรื่องธรรมดาๆ ก็ยังทำไม่ได้

6. เบื่ออาหาร ไม่อยากกินอะไรเลย จนน้ำหนักลดลงอย่างรวดเร็ว ซูบผอม หรือกินมากเกินปกติแบบต่อเนื่องจนน้ำหนักขึ้นอย่างรวดเร็ว และควบคุมพฤติกรรมการกินของตนเองไม่ได้

7. มีอารมณ์ซึมเศร้า และคิดว่าตนเองไร้ค่า สะเทือนใจง่าย ร้องไห้บ่อย คิดว่าตนเองเป็นภาระ ท้อแท้ตำหนิตัวเอง หมดความสนใจในสิ่งที่ชอบ มองเห็นแต่ข้อผิดพลาดของตัวเอง รู้สึกสิ้นหวัง หรืออาจมีความคิดอยากตาย

หากมีอาการ 1 ใน 7 ข้อนี้ หรือมีหลายอาการร่วมกัน ให้สงสัยเลยว่าพฤติกรรมที่เป็นอาจไม่ใช่แค่อารมณ์แปรปรวน หรืออาการทางใจทั่วๆ ไป แต่อาจเกิดจากความผิดปกติของสารเคมีในสมองที่ไม่สมดุล และควรได้รับการรักษาที่ถูกวิธีด้วยการพบแพทย์ด้านจิตเวช หรือทานยาเพื่อรักษา นอกจากนี้ บุคคลใกล้ชิดควรหมั่นสังเกตอาการผิดปกติของผู้ป่วย และรีบพาผู้ป่วยมารับการตรวจรักษาหากสงสัยว่าอาจมีอาการทางจิต

เป็นอย่างไรบ้างล่ะคะสำหรับ 7 อาการเหล่านี้ หากใครที่มีอาการเหล่านี้แล้วนั้น ก็ควรที่จะหาเวลาไปปรึกษาคุณหมอกันก่อนเถอะค่ะ อย่าได้ปล่อยไปและคิดว่าเดี๋ยวก็คงหายเอง เพราะอย่างไรแล้วพฤติกรรมเหล่านี้จะไม่ได้ส่งผลแค่ในระยะสั้นเท่านั้น แต่หากปล่อยเรื้อรังไปแล้วสุดท้ายก็จะกลายเป็นปัญหาสุขภาพของทุกคนได้นั่นเองล่ะค่ะ ก่อนที่จะเป็นแบบนั้น DooDiDo ก็อยากให้ทุกคนสังเกตุอาการเหล่านี้กับตัวเอง หรือไม่ก็เป็คนรอบข้างก็ได้นะคะ ว่ามีอาการเหล่านี้มั้ย ถ้ามีก็อย่าลืมมแนะนำแนวทางดีๆให้กับพวกเค้ากันด้วยล่ะค่ะ

ขอบคุณแหล่งที่มา: www.paolohospital.com