อาการปวดหลัง สัญญาณเตือนภัยว่าร่างกายเกิดความผิดปกติ!!

WM

สาเหตุของการเกิดโรคปวดหลังมาจากพฤติกรรมการนั่งที่ผิดท่าด้วยความเคยชิน

คนไทยสมัยนี้ไม่ว่าจะเป็นพลังงานรับจ้าง พนังงานออฟฟิต หรือพนังงานที่ต้องใช้แรงในการทำงานตลอดทั้งวัน ไม่ว่าเราจะอาชีพไหน อาการปวดหลังสามารถเกิดได้กับทุกคน ไม่ว่าคุณจะอายุน้อยหรืออายุมาก อาการปวดหลังเกิดไปได้กับทุกคน อาการปวดหลัง ส่วนมากพบในกลุ่มคนที่มีลักษณะงานต้องนั่งหน้าคอมพิวเตอร์หรือนั่งโต๊ะที่ต้องนั่งท่าเดิมเป็นระยะเวลานาน โดยสาเหตุของการเกิดโรคปวดหลังมาจากพฤติกรรมการนั่งที่ผิดท่าด้วยความเคยชินที่ติดจนเป็นนิสัย ไม่ว่าจะเป็น การนั่งหลังค่อมนั่งงอหลัง นั่งห่อไหล่หรือยกไหล่ หรือแม้กระทั่งการนั่งทำงานด้วยอิริยบถซ้ำ ๆ จนมัดกล้ามเนื้อถูกใช้งานในรูปแบบเดิมติดต่อกันเป็นเวลานาน ไม่ยอมเปลี่ยนอิริยาบถของร่างกาย รวมไปถึงการนั่งผิดท่าจนเกิดอาการปวดตึงกล้ามเนื้อบริเวณคอ ไหล่และหลัง แต่อาการปวดหลังอาจมีอะไรที่แอบแฝงมากกว่านั้น วันนี้เรา ดูอาการปวดหลัง สัญญาณเตือนภัยว่าร่างกายเกิดความผิดปกติ กันเลยคะ

เดินลำบาก ปวดหลังร้าวลงขา สัญญาณโรคกระดูกสันหลังเคลื่อน เกิดขึ้นได้ทุกวัยแต่รักษาให้หายขาดได้ด้วยเทคนิค OLIF ลุกเดินใน 12 – 24 ชั่วโมงหลังผ่าตัด กระดูกสันหลังเคลื่อนทับเส้นประสาทเป็นโรคที่ก่อให้เกิดอาการปวดทรมานไม่แพ้โรคทางกระดูกสันหลังชนิดอื่น ๆ โดยสามารถเกิดขึ้นได้ทั้งในผู้สูงอายุและวัยรุ่น

WM
ขอบคุณภาพจาก: https://unsplash.com/photos/IG96K_HiDk0

ผู้ป่วยโรคกระดูกสันหลังเคลื่อนกดทับเส้นประสาทมักจะมีอาการหลักคือปวดหลังเวลาก้มหรือแอ่นหลัง และปวดร้าวลงขารวมถึงมีอาการชาร่วมด้วย อาจจะเป็นเพียงหนึ่งข้างหรือทั้งสองข้างร่วมกันก็ได้ นอกจากนี้ยังสามารถทำให้เกิดอาการปวดตึงกล้ามเนื้อหลังส่วนล่าง โดยเฉพาะสะโพกและต้นขา รวมทั้งมีอาการกล้ามเนื้อขาอ่อนแรงจนเดินลำบากหรือเดินไกลไม่ได้ โดยจะมีอาการเหล่านี้เรื้อรังนานเกิน 2 สัปดาห์ กลายเป็นความทรมานที่รบกวนการใช้ชีวิตประจำวันเป็นอย่างมาก

นายแพทย์ไชยยศ ชัยชาญกุล ศัลยแพทย์กระดูกและข้อ เฉพาะทางด้านโรคกระดูกสันหลัง โรงพยาบาลเวชธานี เปิดเผยว่า โรคกระดูกสันหลังเคลื่อนกดทับเส้นประสาทเกิดจากหมอนรองกระดูกสันหลังเสียหายหรือฉีกขาด จนทำให้ของเหลวที่อยู่ในหมอนรองกระดูกเคลื่อนออกมากดทับเส้นประสาท ซึ่งหมอนรองกระดูกสันหลังจะอยู่ตรงกลางระหว่างกระดูกสันหลังแต่ละข้อ มีความยืดหยุ่นคล้ายเจลลี่ ทำหน้าที่รับน้ำหนักที่ส่งผ่านมาทางกระดูกสันหลังและช่วยให้กระดูกสันหลังเคลื่อนไหวได้อย่างมีประสิทธิภาพ แต่เมื่อมีการใช้งานกระดูกสันหลังหนัก ใช้งานผิดท่า หรือเกิดอุบัติเหตุจนส่งผลกระทบต่อกระดูกสันหลังโดยตรง อาจทำให้หมอนรองกระดูกสันหลังเสียหายหรือฉีกขาดได้ง่าย

WM
ขอบคุณภาพจาก: https://unsplash.com/photos/r3C6ghRxDxc

“สาเหตุหลักที่ทำให้กระดูกสันหลังเคลื่อนกดทับเส้นประสาทแบ่งออกเป็น 2 กลุ่ม คือ
1. กลุ่มผู้ป่วยสูงอายุ มักเกิดจากความเสื่อมของแนวกระดูกสันหลัง ทั้งบริเวณข้อต่อและหมอนรองกระดูกสันหลัง ทำให้แนวกระดูกสันหลังไม่มั่นคงและเคลื่อนจนไปกดทับเส้นประสาท

2. กลุ่มผู้ป่วยอายุน้อย เกิดจากความไม่สมบูรณ์ของชิ้นกระดูกสันหลังตั้งแต่วัยเด็ก หรือเกิดจากอุบัติเหตุที่ส่งผลกระทบโดยตรงต่อกระดูกสันหลัง นอกจากนี้ยังเกิดจากพฤติกรรมการใช้ชีวิตด้วย ไม่ว่าจะเป็นน้ำหนักตัวที่มากเกินไป การยกของหนักและนั่งในท่าที่ไม่ถูกต้องเป็นประจำ การเคลื่อนไหวผิดท่าแบบฉับพลัน ตลอดจนการเล่นกีฬาที่มีแรงกระแทกไปที่กระดูกสันหลัง ปัจจัยเหล่านี้เป็นตัวกระตุ้นที่ทำให้เกิดโรคหมอนรองกระดูกสันหลังเคลื่อนทับเส้นประสาทได้ง่าย” นายแพทย์ไชยยศกล่าว

WM
ขอบคุณภาพจาก: https://unsplash.com/photos/xWlsYJU4ynE

สำหรับการตรวจวินิจฉัยและการรักษานั้น แพทย์จะต้องซักประวัติเพื่อหาสาเหตุ ตรวจร่างกาย เอกซเรย์และทำ MRI เพื่อดูความรุนแรงของโรค หากอาการไม่รุนแรงแพทย์จะรักษาด้วยยาร่วมกับการทำกายภาพบำบัดต่อเนื่อง 6 – 8 สัปดาห์ แต่ถ้าอาการไม่ดีขึ้นหรือรุนแรงจนไม่สามารถใช้ชีวิตประจำวันได้ แพทย์จะแนะนำการผ่าตัดเปลี่ยนหมอนรองกระดูก แต่ในกรณีที่ผู้ป่วยมีความผิดปกติของโครงสร้างกระดูกสันหลังหรือมีปัญหากระดูกสันหลังคดร่วมด้วย แพทย์อาจพิจารณาให้ผ่าตัดด้วยเทคนิค OLIF หรือการผ่าตัดเสริมหมอนรองกระดูกทางด้านข้างลำตัว (Oblique lumbar interbody fusion) เป็นการผ่าตัดผ่านท่อขนาดเล็กบริเวณข้างลำตัวของผู้ป่วย เพื่อใส่หมอนรองกระดูกเทียมพร้อมกับแก้ไขแนวกระดูกสันหลังที่ผิดปกติและกดทับเส้นประสาทด้วยอุปกรณ์ค้ำกระดูกสันหลัง วิธีนี้จะทำให้แผลมีขนาดเล็ก ลดการทำลายกล้ามเนื้อหลัง เสียเลือดน้อย ลดโอกาสเกิดภาวะแทรกซ้อน ลดการบาดเจ็บของเส้นประสาทและลดการเกิดพังผืดเกาะเส้นประสาทหลังการผ่าตัดได้ โดยผู้ป่วยสามารถลุกเดินได้ใน 12- 24 ชั่วโมงหลังผ่าตัด และใช้เวลาพักฟื้นในโรงพยาบาลเพียง 1 วัน

หากไม่อยากเป็นโรคหมอนรองกระดูกเคลื่อนทับเส้นประสาทจะไม่ร้ายแรงในประเทศไทย แต่ถึงอย่างไรสิ่งที่ดีกว่าคือ การป้องกันแต่เนิ่นๆ เพียงแค่ใช้หลังอย่างถูกวิธี โดยหลีกเลี่ยงการยกของหนัก หากต้องนั่งนานๆ DooDiDo แนะนำว่าควรหาโอกาสเปลี่ยนอิริยาบถบ่อยๆ และควรหมั่นบริหารกล้ามเนื้อหลังและหน้าท้องให้แข็งแรง หากเรารู้ว่ากระดูกเราไม่ค่อยจะแข็งแรงก็ควรหลีกเลี่ยงกีฬาที่ต้องกระโดดบ่อยๆ หรือมีการกระแทก ควรหันมาว่ายน้ำ อาจจะออกกำลังกายเบาๆ ที่เน้นการเพิ่มความยืดหยุ่นแทน เช่นการเล่นกีฬาพีลาทีสหรือโยคะที่เป็นการยืดเส้นของกร้ามเนื้อของเราให้แข็งแรงนั้นเองค่ะ

ขอบคุณแหล่งที่มา: www.vejthani.com