ข้อควรระวัง!! หากคุณมีอาการเหล่านี้ไม่ควรที่จะการออกกำลังกาย

WM

มาดูว่าช่วงเวลาไหนบ้างที่คุณไม่ควรออกกำลังกาย เพราะอาจจะทำให้เกิดอาการบาดเจ็บหรือเสียสุขภาพได้

การออกกำลังกายก็อย่างที่ทุกคนรู้กันอยู่แล้วว่าเป็นสิ่งที่ดี ที่ควรทำและสำคัญพอๆกับการนอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอล่ะค่ะ ถ้าอยากให้สุขภาพร่างกายของเราดีอยู่เสมอ ไม่เจ็บไข้ได้ป่วยแต่มีแรงทำกิจกรรมต่างๆ ต่อไป แต่นั่นก็ไม่ใช่สิ่งที่ทุกคนจะสามารถทำหนักๆแล้วจะดีต่อร่างกายหรอกนะคะ แน่นอนว่าไม่ได้เป็นแบบนั้นเสมอไป ยิ่งถ้าหากทุกคนออกกำลังกายหนักมากเกินไปเกินกำลังกายของตัวเองแล้วล่ะก็ อย่างไรก็ไม่เป็นผลดีแน่นอนเลยล่ะค่ะ และนั่นก็เป็นอีกหนึ่งข้อควรระวังของกายออกกำลังกาย

การออกกำลังกาย นับเป็นเรื่องที่ดีและทำให้สุขภาพแข็งแรง จึงควรทำแต่พอดี ไม่ควรมากหรือน้อยจนเกินไป เพราะถ้าน้อยก็จะไม่เห็นผลอะไรกับร่างกาย แต่ถ้ามากไปก็อาจจะทำให้ร่างกายของคุณบาดเจ็บได้ นอกจากนี้ การออกกำลังกายที่ดีนั้น ก็ควรเลือกออกในช่วงเวลาที่เหมาะสมด้วย ซึ่งแน่นอนว่า มีบางช่วงเวลาที่คุณไม่ควรออกกำลังกายเลย เพราะอาจจะทำให้เกิดอาการบาดเจ็บหรือเสียสุขภาพได้ ส่วนจะมีช่วงเวลาใดบ้างนั้นที่คุณไม่ควรออกกำลังกาย เราได้รวบรวมมาให้คุณแล้ว ดังต่อไปนี้

WM
ขอบคุณภาพจาก: https://www.pexels.com/th-th/@george-milton

1. สภาวะอดนอน และหอบหืด ในขณะที่การพักผ่อนไม่เพียงพอ คุณควรหลีกเลี่ยงการออกกำลังกาย หรือเว้นการออกกำลังกายอย่างหนักออกไปก่อน เพราะในสภาวะที่พักผ่อนไม่เพียงพอ จะมีระบบการทำงานของร่ายกายบางส่วนที่ไม่สมดุล เช่น กระตุ้นการสร้างฮอร์โมนเครียด “คอร์ติซอล” ให้ออกมาดักเก็บไขมันและเพิ่มน้ำตาลในเลือดได้ และมีภูมิต้านทานที่ลดต่ำลง สำหรับคนที่เป็นหอบหืด ต้องพึงระวังอาการหืดกำเริบ เพราะการออกกำลังกายจะไปกระตุ้นสารบางอย่างในร่างกาย ทำให้อาการของโรคกำเริบได้

2. ท้องเสีย เป็นอาการเจ็บป่วยชนิดหนึ่งที่ทำให้ร่างกายเกิดการสูญเสียน้ำเป็นจำนวนมาก จะต้องหยุดการออกกำลังกายหรืองดกิจกรรมที่ทำให้เหงื่อออกทุกประเภท เพราะขณะที่คุณออกกำลังกายจะทำให้มีการเสียน้ำเพิ่มขึ้นอีก ไม่ใช่แค่น้ำอย่างเดียว มันจะเป็นผลพ่วงไปถึงแร่ธาตุต่างๆ ในร่างกายอีกด้วย ซึ่งถ้าคุณขาดแร่ธาตุที่จำเป็นเหล่านั้นแล้ว จะทำให้ร่างกายขาดสมดุล และเพลียหนักถึงขั้นไม่สบายได้อีกด้วย นอกจากนี้แล้วหากบางรายเป็นถึงขึ้นหนักมากอาจจะมีอาการไปถึงหัวใจ เช่น หัวใจเต้นผิดจังหวะ จากสภาวะขาดโซเดียมและโพแทสเซียม เป็นต้น ดังนั้น หากมีอาการท้องเสีย ควรหยุดการออกกำลังกายเพื่อพักฟื้นร่างกายให้แข็งแรงและจะต้องพักผ่อนให้เพียงพอร่วมด้วยเพื่อสุขภาพที่ดียิ่งขึ้น

3. ปวดไมเกรนรุนแรง อาการปวดศีรษะอย่างรุนแรง หรืออาการไมเกรนนั้น จะมีอาการปวดร้าว ตาพร่ามัว ควรหยุดการออกกำลังก่อนชั่วคราว ถ้าหากมีอาการปวดมากๆ อย่าออกกำลังกายเด็ดขาด เพราะอาการปวดศีรษะ เกิดจากสภาวะความดันสูง ผลจากการออกกำลังกายในช่วงไมเกรน อาจเกิดผลที่ไม่คาดคิดกับตัวคุณเองได้ เช่น เส้นเลือดในสมองแตกได้ง่ายขึ้น

WM
ขอบคุณภาพจาก: https://www.pexels.com/th-th/@cottonbro

4. มีไข้ติด หรือเชื้อหนัก สำหรับหนุ่มๆ ที่มีอาการไม่สบายเนื้อตัว หรือสงสัยว่าติดเชื้ออะไรสักอย่างที่มีอาการค่อนข้างรุนแรง ควรหลีกเลี่ยงการออกกำลังกายไปก่อน จนกว่าอาการจะดีขึ้น หรือไปปรึกษาคุณหมอว่าอาการที่ตนเองเป็นอยู่นั้นสามารถออกกำลังกายได้มากน้อยเพียงใด เพราะอาการเป็นไข้ตัวร้อน จะทำให้ภูมิคุ้มกันต่ำลง และทำให้ร่างกายต้องทำงานหนักขึ้นอีกหลายเท่าถ้าคุณไปออกกำลังกาย อาจจะมีผลเรื่องของการอักเสบต่างๆ ตามมาอีกด้วย

5. หลังการผ่าตัด อาการบาดเจ็บหลังการผ่าตัด แน่นอนอยู่แล้วว่าคุณหมอต้องห้ามออกกำลังกายอย่างแน่นอน หลังจากการผ่าตัดแล้วควรรับคำแนะนำจากคุณหมอเรื่องของการออกกำลังกาย เพราะการผ่าตัดทุกประเภท จะออกกำลังกายตามความหนัก – เบา แตกต่างกันออกไป ซึ่งผลเสียของการออกกำลังกายอย่างหนักขณะที่มีแผลผ่าตัด คืออาจจะทำให้แผลฉีกขาดหรืออักเสบได้ ขอให้เว้นการออกกำลังกายที่เสี่ยงไว้ก่อนจนกว่าแผลจะหายดี

6. อาการริดสีดวงอักเสบ อาการนี้คุณผู้ชายคงไม่อยากให้เกิดกับตัวเองอย่างแน่นอน ในกรณีนี้การออกกำลังกายแบบเวทเทรนนิ่ง (การออกกำลังกายแบบยกของหนัก) ที่จะทำให้กล้ามเนื้อส่วนหน้าท้องมีความเกร็ง จะส่งผลให้ริดสีดวงกำเริบ และมีอาการโป่งออกมาได้ ข้อแนะนำเบื้องต้นขอแนะนำหนุ่มๆ ว่า ควรหลีกเลี่ยงการนั่งส้วมนานๆ ในขณะที่มีอาการริดสีดวง สำหรับผู้ที่เคยมีอาการมาแล้ว ควรหลีกเลี่ยงการออกกำลังกายหนักๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการออกกำลังกายช่วงหน้าท้องและบั้นท้าย หรือควรออกแต่พอดี

7. ความดันสูง สภาวะความดันสูงมีผลต่อหัวใจและหลอดเลือดต่างๆ สำหรับหนุ่มๆ ชอบออกกำลังกายหนักๆ ต้องพึงระวังตัวไว้ให้มาก เพราะจะทำให้หัวใจทำงานหนักกว่าเดิม และอาจจะทำให้เกิดอาการวูบ เพราะหลอดเลือดแตกหรือเส้นเลือดในสมองตีบแบบเฉียบพลันได้

WM
ขอบคุณภาพจาก: https://pixabay.com/th/users/pexels-2286921/

8. เพิ่งมีอาการหัวใจขาดเลือด สำหรับผู้ที่มีอาการเจ็บแน่นหน้าอกเวลาออกแรงหนักๆ เพราะสภาวะกล้ามเนื้อหัวใจอาจขาดเลือดได้ นั่นคือการไหลเวียนของระบบเลือดในร่างกายไม่สมดุลนั่นเอง ดังนั้นหนุ่มๆ ควรจะไปพบแพทย์ก่อนจะดีกว่า หากเกิดขึ้นแบบฉุกเฉิน เช่น อาการวูบจากการออกกำลังกาย ก็ไม่ควรออกกำลังกายแบบหนักจนเกินไป

มีถึง 8 ช่วงเวลาเลยล่ะค่ะที่ทุกคนควรหลีกเลี่ยงการออกกำลังกาย การออกกำลังกายนั้นถึงแม้จะเป็นกิจกรรมที่ดีมากเพียงใดแต่สำหรับบางคนแล้วก็ไม่ใช่ว่าจะสามารถออกกำลังกายแบบไหน ตอนไหนก็ได้ ตามที่สะดวกหรอกนะคะ เพราะฉะนั้นแล้วถ้าหากใครที่มีโรคประจำตัวหรือมักจะมีอาการทั้ง 8 อาการข้างต้นที่เราบอกมาเหล่านี้แล้วล่ะก็ DooDiDo แนะนำว่าควรที่จะหลีกเลี่ยงการออกกำลังกายไปก่อน และแน่นอนว่าอย่าลืมไปพบแพทย์ ปรึกษาสุขภาพเป็นประจำอย่างสม่ำเสมอด้วยนะคะ

ขอบคุณแหล่งที่มา: www.sanook.com