สโลว์ไลฟ์ เพื่อความสุขที่ยืนยาว

สโลว์ไลฟ์ 1

การใช้ชีวิตแบบ สโลว์ไลฟ์ นั้นแตกต่างกันสำหรับทุกคน บางคนต้องการมีชีวิตที่สะดวกสบายขึ้นอยู่กับความชอบ ไม่ต้องรีบเข้าออกงาน ไปทำงานไม่ต้องผ่านคนเยอะต้องเดินเบียดกันทุกวันแถมรถติดอีกด้วย ไม่ต้องรีบกิน ไม่ต้องรีบเดินทาง แค่นั่งทำงานร้านกาแฟ จิบกาแฟ หาร้านกาแฟชมธรรมชาติก็พอ บางคนอาจชอบอยู่นอกเมือง ปลูกผัก เลี้ยงสัตว์ และชมธรรมชาติแบบชิลล์ๆ นั่นคือความสุขและไลฟ์สไตล์ของแต่ละคน แล้วความหมายของชีวิตแบบ สโลว์ไลฟ์คืออะไรกันแน่ อยากใช้ชีวิตแบบสโลว์ไลฟ์ไหม คุณควรทำอะไรบ้าง

สโลว์ไลฟ์ 2

สโลว์ไลฟ์ คืออะไร?

เพราะความหมายที่แท้จริง ไม่ใช่ชีวิตที่น่าเบื่อ ทำอะไรช้าๆหรือล้าหลัง? แต่เป็นการสร้างสมดุลในการวางแผนชีวิต อาจมีบางครั้งที่คุณต้องใช้ชีวิตที่วุ่นวาย แต่อย่ารีบเร่งทุกวันหรือตลอดเวลา แต่ควรวางแผนว่าสิ่งใดควรทำให้เสร็จโดยเร็ว จะทำอะไรได้ในภายหลัง? ที่สำคัญเราไม่จำเป็นต้องไล่ตามวัตถุนิยม ไม่ต้องตามเทรนด์ แค่สามารถอยู่อาศัยได้อย่างสบายในเมืองที่วุ่นวาย นี่แหละที่เรียกว่าชีวิตสโลว์ไลฟ์ที่แท้จริง

แนวทางการใช้ชีวิตแบบ สโลว์ไลฟ์

การใช้ชีวิตในต่างจังหวัด

หลายๆคนที่มาทำงาน มาเรียนในเมืองหรือแม้แต่คนในเมืองเองก็ต้องเจอรถติด ฝุ่นควันทุกวัน เป็นปัญหาน่าเบื่อที่ไม่มีวันแก้ไขและต้องทน หาทางแก้ไขด้วยการลองไปอยู่ต่างจังหวัด ตื่นเช้า ชมธรรมชาติแบบชิลๆ การทำสวนหรือเลี้ยงสัตว์ แต่การใช้ชีวิตแบบนั้นต้องใช้การวางแผนระยะยาว มีเงินเก็บพอใช้.

ใช้ชีวิตในเมือง ช้อปปิ้ง หรือท่องเที่ยวโดยไม่ต้องกังวล

ถือเป็นความฝันของหลายๆ คน รวมถึงเด็กจบใหม่ที่ยังมีเพื่อนอยู่ ฉันติดการเดินทาง ฉันอยากใช้ชีวิตเหมือนได้ท่องเที่ยวกับเพื่อนฝูง ไปกินข้าวกับเพื่อนซื้อของที่อยากได้มากมายโดยไม่ต้องกังวลเรื่องเงิน นี่คือชีวิตที่บางคนยอมจ่ายเงินมากมายเพื่อซื้อความสุขให้กับตัวเองในช่วงเวลาสั้นๆ แต่เพื่อที่จะทำเช่นนั้นได้ คุณต้องมีเงินออมเพียงพอ และรายได้ส่วนใหญ่ของกลุ่มนี้มาจากธุรกิจส่วนตัว

หยุดโลกโซเชียลชั่วคราว

ในยุคปัจจุบันแน่นอนใครหลายคนต้องใช้โซเชียลที่ช่วยให้การติดต่อสื่อสารง่ายและสะดวกมากขึ้น อยากให้ลองใช้ชีวิตแบบไม่มีโซเชียลสักวัน อาจจะเลือกเป็นวันหยุดก็ได้เพราะไม่จำเป็นต้องติดต่อสื่อสารกับใคร แล้วหันมาทำงานอดิเรกหรือสิ่งที่คิดอยากจะทำแต่ไม่มีเวลาสักที เช่น อ่านหนังสือเล่าเก่าที่เคยซื้อไว้ยังไม่ได้อ่านหรือเคยอ่านแล้ว ทำอาหารหรือทำในสิ่งทีเราอยากลองมานานแต่ไม่มีเวลาทำสักทีเพราะมัวแต่เล่นโซเชียล เห็นมั้ยว่าแค่เราหยุดเล่นโซเชียลทำให้เราได้มีเวลาทำสิ่งต่างๆมากมายอีกเยอะ

ปรุงอาหารของคุณเอง

ถ้าคิดจะใช้ชีวิตแบบสโลว์ไลฟ์ต้องไม่พลาดการปลูกผัก เลี้ยงสัตว์ของคุณเองอย่างแน่นอน ตั้งแต่การปลูกผักไปจนถึงสวนครัว รับรองว่า ปลอดภัย ไร้สารพิษ เพราะเราปลูกเอง ทำอาหารในกล่องอาหารกลางวันเพื่อทานที่ทำงานในมื้อเที่ยง ไม่ต้องรีบร้อน ไม่จำเป็นต้องรอคิวที่ร้านอาหาร ส่วนเวลาที่เหลือช่วงพักเที่ยงก็พักผ่อนร่างกายหรือทำอย่างอื่นได้

ท่องเที่ยวสูดอากาศธรรมชาติ

เราไม่ควรทำงานทั้งชีวิตเพียงเพื่อประหยัดเงิน หาเวลาท่องเที่ยวหรือพักผ่อนร่างกายและเพิ่มความสุขให้กับชีวิต ถ้าเพียงแต่ทำงานและใช้ชีวิตจำเจ ทั้งร่างกายและจิตใจก็จะเสื่อมโทรมลง ไม่มีแรงบันดาลใจในการทำงาน หาที่เที่ยวพักผ่อน วิวธรรมชาติที่สวยงาม อากาศดีๆ ไม่ว่าจะเป็นสวนสาธารณะ ภูเขา หรือทะเล ที่คุณสามารถสูดอากาศให้เต็มปอด พร้อมชาร์จพลังแล้วกลับมาลุยงานต่อ ฉันยังพยายามสังเกตสภาพแวดล้อมของตัวเองมากขึ้น

วางแผนและเตรียมพร้อมก่อนการเดินทาง

หากเราเตรียมตัวและวางแผนก่อนเดินทาง ไม่ว่าจะไปเรียน ทำงาน หรือไปเที่ยว เราก็จะมีเวลามากขึ้นกว่าเดิม ลองวางแผนล่วงหน้าดู ตอนกลางคืนก็จัดกระเป๋า วางแผนว่านายกฯ จะใส่ชุดอะไร ในตอนเช้าคุณไม่ต้องเสียเวลาคิดหรือเตรียมสิ่งต่างๆ นอกจากนี้คุณยังมีเวลานอนอีก 5 นาที แต่ในทางกลับกันถ้าเราไม่เตรียมตัวก็อย่าวางแผน พอตื่นเช้า ก็ต้องรีบไปอาบน้ำ แต่งตัว และกินข้าวมื้อสุดท้าย เราอาจจะลืมไปว่า ทำให้ชีวิตวุ่นวายและเร่งรีบในตอนเช้า

สรุปการใช้ชีวิตแบบ สโลว์ไลฟ์

ข้างต้นเป็นตัวอย่างหลักการใช้ชีวิตแบบสโลว์ไลฟ์ ใครที่อยากลองใช้ชีวิตแบบนี้ ก็ลองดูได้ ซึ่งไม่ยาก ไม่ง่าย และไม่เหมาะกับทุกคนเช่นกัน แต่คุณต้องดูความพร้อมสำหรับบทบาทของตัวเองด้วย ไลฟ์สไตล์นี้ไม่ใช่แค่เทรนด์ใหม่ ซึ่งมีมากกว่านั้น แค่เปลี่ยนวิธีใช้ชีวิตที่วุ่นวายของเรา มาใช้ชีวิตแบบไม่เร่งรีบกันเถอะ ภายนอกจะทำให้คุณทันสมัยและตามเทรนด์ ก็มาพร้อมกับความสุขเช่นกัน


ขอบคุณบทความอ้างอิงจาก

Slow Life เปลี่ยนชีวิตตามกระแส เพื่อความสุขที่ยืนยาว

ขอบคุณรูปภาพจาก

https://www.freepik.com/author/jcomp

ติดตามบทความอื่นๆได้ที่ https://doodido.com/

ขอบคุณผู้สนับสนุน www.ufabet369.net