สุดยอด!! 10 ผลไม้ช่วยลดความเสี่ยงภาวะคอเลสเตอรอลในเลือดสูงได้
เพิ่มไขมันดี ลดไขมันเลว ให้กับร่างกายด้วย 10 ผลไม้ ที่ต้องทานเป็นประจำ
ปัจจุบันคนส่วนใหญ่มักจะรับประทานอาหารที่มีคอเลสเตอรอลสูง เช่น อาหารทะเล ของทอด ของมัน ขนมหวาน ซึ่งผลไม้บางชนิดมีประโยชน์ที่สามารถช่วยลดไขมันชนิดไม่ดีและช่วยเพิ่มระดับไขมันชนิดที่ดีต่อร่างกายได้ เชื่อไหมว่ามีปัจจัยหลายต่อหลายอย่างที่ทำให้เราทุกคนเสี่ยงต่อโรคเหล่านี้ ไม่ว่าจะพฤติกรรมการบริโภค หรือวิถีชีวิตประจำวันบางอย่าง ดังนั้นเพื่อความปลอดภัยต่อสุขภาพ สิ่งหนึ่งที่อยากให้ลองทำตามมากๆ คือดูแลสุขภาพร่างกายให้ดี โดยเริ่มต้นจากการรับประทาน 10 สุดยอด ผลไม้ที่ช่วยลดความเสี่ยงภาวะคอเลสเตอรอลในเลือดสูงได้นั่นเองค่ะ
คอเลสเตอรอลสูง เป็นภาวะที่ร่างกายมีระดับไขมันในเลือดสูงกว่าปกติ ซึ่งเป็นปัจจัยเสี่ยงสำคัญที่ทำให้เกิดโรคหัวใจและหลอดเลือด รักษาโดยทั่วไปคือการทานยาเพื่อควบคุมระดับไขมัน แต่นั่นเป็นการแก้ปัญหาที่ปลายเหตุ เพราะต้นเหตุจริงๆ มาจากการรับประทานอาหาร หากเรารู้จักควบคุมอาหารจะช่วยทำให้ระดับไขมันที่สูงลดลงได้ แต่อย่าเพิ่งมองคอเลสเตอรอลในแง่ร้ายขนาดนั้นค่ะ เพราะจริงๆ แล้ว คอเลสเตอรอล เป็นไขมันชนิดหนึ่งที่มีความสำคัญต่อร่างกาย พบได้ในส่วนของผนังเซลล์ทุกเซลล์ รวมทั้งเป็นองค์ประกอบของน้ำดี แต่หากร่างกายเรามีคอเลสเตอรอลมากเกินไปจากประโยชน์ก็อาจกลายเป็นโทษได้เช่นกันค่ะ
คอเลสเตอรอลแบ่งออกเป็น 2 ประเภท คือ
- LDL (Low-Density Lipoprotein) หรือไขมันไม่ดี ซึ่งจะนำไขมันจากตับมาสะสมตามเนื้อเยื่อต่างๆ และเกาะตัวตามผนังหลอดเลือด ทำให้เสียความยืดหยุ่นและเกิดหลอดเลือดตีบตันตามมา
- HDL (High-Density Lipoprotein) หรือไขมันดี เป็นตัวพาไขมันส่วนเกินในกระแสเลือดกลับไปยังตับ ช่วยป้องกันการเกาะตัวของ LDL ที่ผนังของหลอดเลือดแดง ช่วยในการป้องกันการเกิดหลอดเลือดตีบตันได้
10 ผลไม้ที่ช่วยเพิ่มไขมันดี ลดไขมันเลว ให้กับร่างกาย
1.สตรอว์เบอร์รี สตรอว์เบอร์รีช่วยลดระดับคอเลสเตอรอลร้าย แอลดีแอล ( LDL Cholesterol) และไตรกลีเซอไรด์ในเลือด จึงช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดโรคหัวใจ
2.ฝรั่ง ไฟเบอร์ในฝรั่งสีชมพูมีสรรพคุณช่วยลดปริมาณไตรกลีเซอไรด์และคอเลสเตอรอลที่ไม่ดี (LDL) จึงช่วยเพิ่มระดับคอเลสเตอรอลที่ดี (HDL) ในร่างกาย ช่วยลดความเสี่ยงต่อการเกิดโรคหลอดเลือดหัวใจ
3.ทับทิม การรับประทานทับทิมเป็นประจำช่วยลดไขมันในเลือด ป้องกันการอุดตันในหลอดเลือด ลดการแข็งตัวของหลอดเลือดแดง จึงช่วยลดความเสี่ยงในการเป็นโรคหัวใจ มีการวิจัยพบว่าการดื่มน้ำทับทิมคอเลสเตอรอลชนิดเลวลดลง
4.แอปเปิ้ล เส้นใยในแอปเปิ้ลเป็นชนิดละลายน้ำได้ มีสรรพคุณช่วยลดปริมาณคอเลสเตอรอลในเส้นเลือด กำจัดคอเลสเตอรอลชนิดเลว (LDL) จึงช่วยลดระดับคอเลสเตอรอลในร่างกายและใยอาหารจะช่วยลดการดูดซึมไขมันและคอเลสเตอรอลให้ออกไปจากร่างกายอีกด้วย
5.มะพร้าว การดื่มน้ำมะพร้าวจะช่วยลดคอเลสเตอรอลชนิดเลวและช่วยเพิ่มคอเลสเตอรอลที่ดีจึงทำให้ดีต่อหัวใจและหลอดเลือดอีกทั้งยังช่วยป้องกันการก่อตัวของลิ่มเลือด จึงช่วยลดความเสี่ยงต่อการเป็นโรคหัวใจวายและโรคหลอดเลือดสมองได้
6.แก้วมังกร เมล็ดเล็กๆในแก้วมังกรช่วยเพิ่มปริมาณคอเลสเตอรอลชนิดดี และยังช่วยกำจัดคอเลสเตอรอลชนิดเลวได้ (LDL) จึงช่วยลดระดับคอเลสเตอรอลในร่างกายและช่วยขยายตัวของหลอดเลือด ลดความเสี่ยงในการเกิดโรคที่เกี่ยวกับหลอดเลือด โรคหลอดเลือดหัวใจอุดตัน โรคหัวใจ โรคความดันโลหิตสูง และโรคไขมันอุดตันในเส้นเลือด
7.มังคุด สารแซนโทนจากเปลือกมังคุดสามารถยับยั้งโคเลสเตอรอลชนิดเลว (LDL) ช่วยลดระดับคอเลสเตอรอลในร่างกายและช่วยขยายตัวของหลอดเลือด จึงช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดโรคหลอดเลือดหัวใจ ป้องกันหลอดเลือดอุดตันและโรคหัวใจ
8.กีวี กีวีช่วยลดระดับคอเลสเตอรอลชนิดเลว แอลดีแอล ( LDL)และไตรกลีเซอไรด์ในเลือด แล้วช่วยเพิ่มคอเลสเตอรอลชนิดดี เฮชดีแอล (HDL ) จึงช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดโรคหัวใจ
9.ลูกฟิก ลูกฟิกสามารถช่วยลดระดับคอเลสเตอรอลและควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด ซึ่งลูกฟิกมีสารที่จะช่วยให้ร่างกายนำอินซูลินไปใช้จึงช่วยให้ระดับน้ำตาลในเลือดลดต่ำลง จึงเป็นผลไม้ที่เหมาะสำหรับผู้ป่วยโรคเบาหวาน
10.อะโวคาโด มีสารอาหารที่จำเป็นสำหรับร่างกาย เช่น กรดไขมันชนิดดี โอเมก้า 3 และ โอเมก้า 6 อีกทั้งยังอุดมไปด้วยกรดไขมันชนิดไม่อิ่มตัวซึ่งกรดไขมันชนิดนี้มีประโยชน์ต่อร่างกาย โดยช่วยเพิ่มระดับไขมันชนิดดี (HDL) และ ลดไขมันชนิดเลว (LDL) ให้ต่ำลง จึงลดความเสี่ยงภาวะคอเลสเตอรอลในเลือดสูง และการรับประทานอะโวคาโดยังช่วยลดระดับไขมันรวม ไขมันชนิดไม่ดี และไตรกรีเซอร์ไลน์ได้อีกด้วย
ผลไม้ทั้ง 10 ชนิดที่ DooDiDo นำมาเสนอในวันนี้ ล้วนแต่มีประโยชน์ที่ช่วยในเรื่องของการลดไขมันเลว แถมยังช่วยเพิ่มไขมันดีให้กับร่างกายอีกด้วยนะคะ หากไม่อยากมีปัญหาเกี่ยวกับคอเรสเตอรอลในร่างกาย ก็อย่าลืมรับประทานผลไม้เหล่านี้กันด้วยนะคะ
ขอบคุณแหล่งที่มา : https://health.mthai.com, https://pordeeshops.com