ลองมาดูอาการ”ปวดหลัง” ที่ไม่เกิดขึ้นแค่เฉพาะคนอายุเยอะเท่านั้น

WM

หากคุณสึกปวดหลังเป็นประจำไม่ควรปล่อยทิ้งไว้ ควรจะรีบพบแพทย์

สำหรับเด็กนักเรียน ผู้ใหญ่ทำงานหาเช้ากินค่ำ หรือจะเป็นเหล่าคนที่โหมงานตั้งแต่เช้าจนค่ำที่หน้าจอคอมแล้วล่ะก็ อย่างไรก็คงจะหลีกหนีไม่พ้นกับอาการ ปวดหลัง หรอกใช่มั้ยล่ะคะ สารภาพมาซะดีๆ แล้วยิ่งทุกวันนี้การเรียนออนไลน์หรือการนั่งที่โต๊ะเป็นเวลานานแล้วนั้น ก็ส่งผลทำให้เด็กๆที่อายุยังน้อยมีอาการปวดหลังเหมือนกับคนวัยกลางคนเลยก็ได้ล่ะค่ะ เพราะงั้นแล้ว หากเห็นเด็กๆ ที่บ่นปวดหลังก็อย่าคิดไปเองว่า ไม่เป็นอะไรหรอกๆ เพราะยังเป็นเด็กเชียวล่ะค่ะ

ใครว่าอาการปวดหลังมักเกิดขึ้นกับแก่ อายุ 30 ต้นๆ ก็เกิดอาการปวดหลังได้เช่นกัน ไม่ว่าจะเป็นนั่งแปปๆ ก็รู้สึกปวดหลัง ยืนนานๆ ก็รู้สึกปวดหลัง ยกของหนักก็รู้สึกปวดหลัง หากคุณมีอาการเหล่านี้บ่อยๆ เป็นประจำไม่ควรปล่อยทิ้งไว้ ควรจะรีบพบแพทย์ เพราะหากปล่อยไว้อาจกลายอาการปวดหลังเรื้อรังได้

WM
ขอบคุณภาพจาก: https://www.pexels.com/th-th/@kindelmedia

อาการปวดหลังเป็นอย่างไร

การปวดหลังเป็นอาการปวดเมื่อย ตึง ร้าวบริเวณหลัง อาจขึ้นได้จากหลายสาเหตุและสามารถพบได้ทุกเพศทุกวัยไม่จำกัดอายุ แต่จะพบมากในวัยทำงาน อาการปวดหลังที่มักพบได้บ่อย เช่น หมอนรองกระดูกทับเส้นประสาท โพรงกระดูกสันหลังตีบแคบ กระดูกสันหลังเคลื่อน กระดูกสันหลังส่วนคอเสื่อม กระดูกสันหลังหักจากภาวะกระดูกบาง หรือปวดหลังจากกล้ามเนื้ออักเสบ

ปัจจัยเสี่ยงของการปวดหลัง

อายุ – แม้อาการปวดหลังจะเกิดขึ้นได้กับทุกวัย แต่อาการปวดหลังมักพบได้บ่อยในช่วงวัยทำงานและวัยสูงอายุ น้ำหนักตัวมาก – ในคนที่มีน้ำหนักตัวมากส่งผลให้กระดูกสันหลังรับน้ำหนักมากกว่าปกติจึงเกิดการเสื่อมได้ง่าย พฤติกรรมการใช้ชีวิต – สำหรับคนทำงานที่ต้องยกของหนักหรือออกแรงมากๆ เป็นประจำจะทำให้กระดูกสันหลังบิด รวมถึงคนที่ทำงานออฟฟิศถ้านั่งอยู่ท่าเดิมเป็นเวลานานๆ และนั่งผิดวิธีก็อาจทำให้เกิดอาการปวดหลังได้ ไม่ออกกำลังกาย – สำหรับคนไม่ชอบออกกำลังหรือไม่ได้ออกกำลังกายเลยอาจทำให้กล้ามเนื้อรอบกระดูกสันหลังไม่แข็งแรง อาจเกิดการเสื่อมได้เร็ว

WM
ขอบคุณภาพจาก: https://pixabay.com/th/users/tumisu-148124/

สาเหตุของการปวดหลัง

  • การเคลื่อนไหวร่างกายที่ผิดวิธี ไม่ว่าจะเป็นกิริยา ท่าทาง อิริยาบถ การเคลื่อนไหวต่างๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในขณะที่นั่งทำงานถ้านั่งผิดท่าเป็นเวลานานๆ ก็เป็นสาเหตุหลักๆ ของคนวัยทำงานที่เข้ามารักษาด้วยอาการปวดหลัง
  • ภาวะกระดูกสันหลังและกล้ามเนื้อ ภาวะนี้เป็นความผิดปกติของกระดูกสันหลังเช่น หมอนรองกระดูกสันหลังเคลื่อนทับเส้นประสาท, โพรงกระดูกสันหลังตีบแคบ
  • ความผิดปกติอื่นๆ ในช่องท้อง เช่น โรคไต โรคเกี่ยวกับรังไข่และมดลูก หลอดเลือดโป่งพอง มะเร็ง เป็นต้น
WM
ขอบคุณภาพจาก: https://www.pexels.com/th-th/@kindelmedia

การรักษาอาการปวดหลัง

หากเกิดอาการปวดหลังแล้วจะต้องพบแพทย์เพื่อทำการรักษาอาการปวดหลังดังกล่าว แพทย์จะต้องวินิจฉัยอาการปวดหลังที่เกิดขึ้นก่อน หาสาเหตุของการปวดหลังและระยะเวลาที่ปวด เมื่อพิจารณาเรียบร้อยแล้วแพทย์จะวินิจฉัยให้การรักษาต่อไป โดยจะเน้นการรักษาที่ต้นเหตุ ซึ่งการรักษาอาการปวดหลังทั่วๆ ไปมี 2 วิธีคือ

  1. การรักษาแบบไม่ต้องผ่าตัด เช่น การให้ทานยา การทำกายกายภาพบำบัด การนอนพัก การฉีดสเตียรอยด์เข้าโรงกระดูกสันหลัง เป็นต้น
  2. การรักษาด้วยการผ่าตัด แพทย์จะใช้วิธีนี้ก็ต่อเมื่อวิธีที่หนึ่งไม่สามารถรักษาอาการปวดหลังให้หายขาดได้ หรือคนไข้มีอาการปวดหลังอย่างรุนแรงส่งผลให้เกิดอาการอื่นๆ ตามมา เช่น ควบคุมการขับถ่ายไม่ได้ ขาอ่อนแรง เดินไม่ได้ เป็นต้น ซึ่งวิธีการผ่าตัดก็จะแตกต่างกันไปแล้วแต่อาการอีกเช่นกัน

เห็นมั้ยล่ะคะว่า อาการปวดหลังนั้นไม่ได้จะเกิดขึ้นแค่เฉพาะกับวัยผู้ใหญ่ วัยกลางคนหรือวัยทำงานเพียงเท่านั้น แต่เด็กๆ ที่กำลังนั่งเรียนออนไลน์อยู่ทั้งหลายที่มีอาการเหล่านี้นั้น ก็น่าเป็นห่วงไม่แพ้กับคนทำงานทั่วไปเลยล่ะค่ะ ทั้งนี้ทั้งนั้นแล้ว บทความที่ DooDiDo นำมาฝากทุกคนในวันนี้นั้นเป็นอีกหนึ่งบทความดีๆที่จะทำให้ทุกคนได้เข้าใจเกี่ยวกับอาการปวดหลังนี้มากยิ่งขึ้น เพื่อที่ว่าทุกคนจะไม่ละเลยต่ออาการปวดหลังของตัวเองอีกต่อไป ถ้าหากว่ามีอาการที่รู้สึกมากเกินไปก็ควรจะไปพบแพทย์ก็เป็นทางเลือกที่ดีที่สุด

ขอบคุณแหล่งที่มา: www.paolohospital.com