รวบรวม 9 วิธีรักษาสุขภาพจิตให้แข็งแรง เพื่อชีวิตที่ดีและมีความสุข!!

WM

การดูแลสุขภาพจิตของเราให้แข็งแรง เพื่อให้เรามีจิตใจที่เบิกบานแจ่มใส

สุขภาพจิตนั้นก็เป็นอีกหนึ่งในสิ่งที่สำคัญกับทุกๆคนเลยล่ะค่ะ เพราะว่าต่อให้เรามีสุขภาพร่างกายที่แข็งแรงสมบูรณ์แล้ว แต่ถ้าหากเจอกับผู้คน หรือเหตุการที่เป็น toxic แล้วเชื่อได้เลยว่าในแต่ล่ะวันๆ นั้นก็คงเป็นช่วงเวลาที่ไม่มีความสุขเอาซะเลย จนทำให้พาลไม่อย่างทำอะไร และในที่สุดก็จะทำให้ปัญหาเหล่านี้นั้นบานปลายไปจนถึงปัญหาสุขภาพได้ แต่ถ้าหากเรามีสุขภาพจิตที่ดีแล่วล่ะก็ เราก็จะสามารถจัดการกับปัญหาต่างๆ ที่กำลังเผลิญได้เป็นอย่างดีล่ะค่ะ

ในวันนี้เรามีบทความจิตวิทยา การดูแลสุขภาพจิตของเราให้แข็งแรง ด้วยกันทั้งหมด 9 วิธี เพื่อให้เรามีจิตใจที่เบิกบานแจ่มใส สามารถใช้ชีวิตอย่างมีความสุข มาฝากกันค่ะ เชื่อว่าด้วยวิธีเหล่านี้ทุกคนก็จะสามารถมีความสุขในชีวิตได้แน่นอนค่ะ เป็นสิ่งปกติในชีวิตของมนุษย์ แต่หากเรามีภาวะอารมณ์ในด้านลบ เช่น เครียด หรือเศร้าใจต่อเนื่องกันเป็นเวลายาวนาน และมีความรุนแรง อาจส่งผลต่อสุขภาพจิต ทำให้เราเป็นโรคซึมเศร้า หรือโรค อื่นๆ ที่เกี่ยวกับภาวะทางจิตใจได้ดังนั้นการดูแลสุขภาพจิตของเราให้แข็งแรงและเบิกบานเป็นเรื่องที่จำเป็นอย่างยิ่ง เพื่อให้เราสามารถดำเนินชีวิตของเราได้อย่างมีความสุข และมีสติปัญญาที่เบิกบาน และโปร่งใสในการจัดการกับปัญหาต่างๆ ที่อาจเข้ามาในชีวิต วันนี้แพรมีบทความจิตวิทยา การดูแลสุขภาพจิตของเราให้แข็งแรง ด้วยกันทั้งหมด 9 วิธี เพื่อให้เรามีจิตใจที่เบิกบานแจ่มใส สามารถใช้ชีวิตอย่างมีความสุข มาฝากกันค่ะ

WM
ขอบคุณภาพจาก: https://pixabay.com/th/users/marusya21111999-1042135/

1. รักษาความสัมพันธ์ที่ดีกับคนรอบข้าง

มีผลการศึกษามากมาย ชี้ให้เห็นว่า ความเหงา เป็นตัวแปรหนึ่งที่เป็นต้นกำเนิดของปัญหาสุขภาพจิตมนุษย์เราเป็นสัตว์สังคม เราต้องการการยอมรับ ต้องการมีปฏิสัมพันธ์กับคนรอบตัว ดังนั้น การรักษาความสัมพันธ์ที่ดีกับคนรอบตัวจึงเป็นสิ่งที่จำเป็น โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ในวันที่เราประสบปัญหาชีวิตการมีคนที่เราไว้ใจ เช่น เพื่อนสนิท หรือคนในครอบครัว คอยอยู่ข้างๆ และให้กำลังใจ จะช่วยทำให้เราผ่านปัญหา และช่วงเวลาที่ยากลำบากนั้นไปได้ง่ายขึ้น การบอกถึงความรู้สึกของเรา การขอความช่วยเหลือ ไม่ใช่การแสดงความอ่อนแอใดๆ แต่เป็นการแสดงความเข้มแข็ง ในการยอมรับและซื่อสัตย์กับความรู้สึกของตัวเอง เมื่อเรายอมรับและอยู่กับความรู้สึกที่เกิดขึ้น จะช่วยให้เราผ่านช่วงเวลาของการเศร้าเสียใจได้เร็วขึ้น

2. รู้จักขอบคุณสิ่งต่างๆ ในชีวิต

บ่อยครั้งที่เราไม่มีความสุขกับชีวิต เครียด เศร้าใจ เพราะเราโฟกัสในสิ่งที่ขาด สิ่งที่เรายังไม่มี ปัญหาของเรา โดยลืมคิดไปว่า ในชีวิตนี้ยังมีเรื่องอื่นๆ และสิ่งอื่นๆ อีกมากมาย ที่มันดีงาม และ เราสามารถสร้างประโยชน์ได้การรู้จักขอบคุณสิ่งต่างๆ รอบตัวในแต่ละวัน แม้จะเป็นเรื่องเล็กๆ จะทำให้เราฝึกมองโลกในแง่ดีมองเห็นสิ่งที่มี และพร้อมที่จะลงมือทำ และสร้างชีวิตของตัวเองให้ดีขึ้น ยกตัวอย่างเช่น เราสามารถรู้สึกขอบคุณ ในวันที่ตื่นเช้าขึ้นมาแล้วมีร่างกายที่แข็งแรง อย่าลืมว่า ในโลกใบนี้ มีคนอีกจำนวนมากที่ไม่สามารถตื่นขึ้นมาทำในสิ่งที่เรากำลังจะทำได้ เพราะเขากำลังป่วย การมีสุขภาพร่างกายที่แข็งแรงก็เป็นเรื่องที่น่าขอบคุณอย่างยิ่งแล้ว ในชีวิต

3. ออกกำลังกาย

การออกกำลังกาย มีส่วนช่วยรักษาและพัฒนาสุขภาพจิต เป็นอย่างมาก นอกจากการออกกำลังกายจะช่วยให้ร่างกายของเราแข็งแรงแล้ว ยังช่วยทำให้เรานอนหลับได้ง่ายขึ้น ในระหว่างการออกกำลังกาย ร่างกายจะหลั่งสารเอนโดรฟิน ซึ่งเป็นสารแห่งความสุข ช่วยทำให้เรารู้สึกดีขึ้นดังนั้นการแบ่งเวลาเพื่อออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ จึงเป็นสิ่งที่สำคัญและจำเป็นอย่างยิ่งต่อสุขภาพกายและใจของเราเอง

WM
ขอบคุณภาพจาก: https://www.pexels.com/th-th/@olly

4. พัฒนาตัวเองอย่างต่อเนื่อง

การมีเป้าหมายในชีวิต หรือ การใช้ชีวิตแบบมีจุดมุ่งหมาย เป็นสิ่งที่จะช่วยให้เรามีความสุขอย่างแท้จริง มนุษย์ทุกคนต้องการการเติบโต การมีเป้าหมายที่ชัดเจนว่าเราต้องการอะไร อยากทำอะไรและลงมือทำ เมื่อเราได้เห็นพัฒนาการของตัวเอง สัมผัสถึงความสำเร็จเมื่อเราบรรลุเป้าหมายนั้นๆ จะช่วย

ทำให้เรามีชีวิตที่มีความหมายมากขึ้น และที่สำคัญ เป็นความสุขอย่างแท้จริง ที่ยั่งยืนในการมีชีวิตวันนี้ ให้ลองถามตัวเองว่า มีอะไรบ้างที่เราอยากจะทำ อยากจะเติบโต หรือเรียนรู้ เช่น อยากจะเป็นนักเขียน อยากจะเขียนหนังสือสักเล่ม ก็วางแผน และลงมือทำ เมื่อวันที่เราทำมันสำเร็จ นอกจากเราจะรู้สึกภูมิใจกับความสำเร็จในการบรรลุเป้าหมายนั้น ๆ แล้ว เรายังเติบโตในเชิงของทักษะที่เราพัฒนาระหว่างทางอีกด้วย

5. ตรวจสอบตัวเอง

การตรวจสอบตัวเองว่าเรายังรู้สึกโอเคอยู่ไหมด้วยคำถามดังต่อไปนี้ จะช่วยให้เรารู้เท่าทันว่าเรากำลังสุขภาพจิตที่ดีอยู่หรือไม่ฉันยังสนใจในเรื่องที่ฉันเคยสนใจอยู่หรือไม่?

  • ฉันรู้สึกไม่สบายใจ โกรธ หรือเศร้ามากกว่าปกติหรือไม่?
  •  ฉันดื่มแอลกอฮอร์มากกว่าที่เคยดื่มหรือเปล่า?
  •  ฉันมีปัญหาในการนอนหรือไม่ ฉันนอนหลับสนิทหรือไม่ในแต่ละคืน?
  •  ฉันมีปัญหาเรื่องการกินหรือไม่ ไม่ค่อยอยากทานอาหาร หรือทานอาหารมากเกินไปหรือไม่?
  •  ฉันรู้สึกอ่อนเพลีย ไม่มีแรงกว่าปกติหรือไม่
  • คนรอบตัวบอกว่าฉันมีภาวะอารมณ์ที่แปรปรวนหรือไม่ หากคุณมีปัญหาข้อหนึ่งข้อใดในคำถามข้างต้น แสดงว่าคุณกำลังมีภาวะปัญหาด้านสุขภาพจิต ที่ควรหันมาสนใจที่จะแก้ไข
WM
ขอบคุณภาพจาก: https://pixabay.com/th/users/avi_acl-5075433/

6. ฝึกสมาธิ

การฝึกสมาธิ จะช่วยทำให้เราจดจ่อกับปัจจุบันขณะ เพราะภาวะความเครียดและวิตกกังวล เกิดจากความคิดของเรา ที่เราส่งใจไปคิดถึงอดีต หรืออนาคต และปรุงแต่งเหตุการณ์ต่างๆ ด้วยจินตนาการของเราการฝึกสมาธิ จะช่วยให้เราอยู่กับปัจจุบัน และทำปัจจุบันให้ดี ช่วยให้เรารู้เท่าทันอารมณ์ที่เกิดขึ้นจากการมากระทบของปัจจัยภายนอก เมื่อเรารู้เท่าทันอารมณ์ เราก็เลือกที่จะตอบสนองต่อสิ่งเร้านั้นอย่างถูกต้องและเหมาะสม ไม่เกิดปัญหาตามมาในอนาคต

7. นอนหลับให้เพียงพอ

การนอนหลับให้เพียงพอ 6-8 ชั่วโมงต่อวัน เป็นเรื่องที่สำคัญ​ ที่จะช่วยให้เราได้พักผ่อน และมีแรงเพื่อทำงาน และจัดการกับชีวิตในวันรุ่งขึ้นการนอนหลับไม่เพียงพอต่อเนื่องเป็นเวลานาน จะมีผลต่อสุขภาพกายของเรา และอาจทำให้เกิดภาวะซึมเศร้าได้ด้วยเช่นกัน

8. ดูแลตัวเอง

การรักตัวเองและหมั่นดูแลตัวเอง เป็นเรื่องสำคัญที่เราไม่จำเป็นต้องรอให้ใครมาบังคับหรือทำให้เราควรแบ่งเวลาในการดูแลตัวเอง ไม่ว่าจะเป็น การกินอาหารที่มีประโยชน์ ดูแลรูปร่างของเราโดยการออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ นอนหลับให้เพียงพอ หาเวลาพักผ่อนหย่อนใจ เช่น หางานอดิเรกที่เราชอบทำ ดูหนัง ฟังเพลง เป็นต้น

WM
ขอบคุณภาพจาก: https://www.pexels.com/th-th/@raypriatna

9. อย่ากลัวที่จะขอความช่วยเหลือ

เมื่อใดก็ตามที่เรารู้สึกว่า เรากำลังมีปัญหาด้านสุขภาพจิต นอกจากจะขอความช่วยเหลือจากคนที่เรารักและไว้ใจ การขอความช่วยเหลือหรือพูดคุยกับผู้เชี่ยวชาญ ก็เป็นอีกวิธีหนึ่งในการดูแลรักษาจิตใจตัวเอง ซึ่งก็เหมือนกับเวลาที่เราเจ็บป่วยและไปหาหมอเช่นกัน

เป็นวิธีที่ไม่ยากเลยใช่มั้ยล่ะคะ สำหรับวิธีที่จะรักษาสุขภาพจิตของทุกคน เพื่อชีวิตที่มีความสุข ที่ DooDiDo นำมาฝากทุกคนในวันนี้ ถ้าหากว่าใครกำลังเผชิญปัญหาที่เกี่ยวกับสุขภาพจิตใจแล้วล่ะก็ อย่างไรก็ลองนำวิธีการทั้งหมด 9 วิธีนี้ไปลองปรับใช้ในชีวิตประจำวันของตัวเองดูนะคะ เชื่อว่าจะต้องช่วยทุกคนได้ไม่มากก็น้อยแหล่ะค่ะ แต่ถ้าหากว่ารู้สึกว่าวิธีการเหล่านี้ไม่ได้ผลอะไรแล้วอย่างไรก็ควรที่ไปปรึกษาแพทย์เฉพาะทางเพื่อปรึกษาปัญหาของทุกคนด้วยนะคะ แน่นอนว่าถ้าหากถึงมือผู้เชี่ยวชาญแล้วยังไงอาการของทุกคนก็จะดีขึ้นในซักวันค่ะ

ขอบคุณแหล่งที่มา: www.istrong.co