ผักคะน้า เป็นผักใบเขียวที่นิยมรับประทาน สามารถนำมาทำเป็นอาหารได้หลากหลาย ทั้งผัด ทอด มีความกรอบ ไม่เหม็นเขียว อีกทั้งยังมีสารอาหารที่เป็นประโยชน์ต่อร่างกาย อุดมไปด้วยวิตามิน แร่ธาตุ และสารต้านอนุมูลอิสระที่ช่วยป้องกันการเป็นโรคต่างๆ และที่สำคัญช่วยบำรุงสายตาได้ดี ในบทความนี้จะมาพูดถึงสารอาหารที่ช่วยบำรุงสายตา ประโยชน์ การเลือกซื้อ วิธีการล้างสารตกค้าง และเมนูอาหารต่างๆ ของผักคะน้า
ผักคะน้า ช่วยบำรุงสายตา
ผักคะน้ามีสารอาหารที่สามารถช่วยบำรุงสายตาได้ ผักคะน้าเป็นแหล่งวิตามิน A (เบต้า-คาโรทีน) การบำรุงสายตาไม่ได้ขึ้นอยู่เพียงแค่วิตามิน A เท่านั้น แต่การรับประทานผักและผลไม้ที่รวดเร็วสามารถช่วยในการรักษาสุขภาพสายตาและป้องกันปัญหาทางสายตาได้ อย่างไรก็ตามควรรักษาระบบการรับประทานอาหารที่สมดุลและรวมถึงการดูแลสุขภาพทั่วไปที่มีความสำคัญสำหรับสายตา วิตามิน A มีบทบาทในการรักษาสุขภาพสายตาดังนี้
- รักษาสายตา: วิตามิน A เป็นสารที่สำคัญสำหรับรักษาสุขภาพของสายตา โดยเฉพาะในการรักษาความชัดเจนของรูรับแสง
- ป้องกันภาวะภายในตา: วิตามิน A มีความสำคัญในการป้องกันภาวะภายในตาที่เป็นที่ทราบว่าเกิดจากความขาดสารอาหาร
- ป้องกันภาวะขาดสารอาหาร: การได้รับประโยชน์จากวิตามิน A มีส่วนช่วยป้องกันภาวะที่เกิดจากความขาดสารอาหารที่เกี่ยวข้องกับสายตา
- ปรับปรุงสมรรถภาพของรูรับแสง: วิตามิน A ช่วยในการปรับปรุงสมรรถภาพของรูรับแสงในส่วนที่เป็นสีของตา
- ส่งเสริมสุขภาพผิวตา:วิตามิน A มีบทบาทในการส่งเสริมสุขภาพผิวตาและรักษาความชัดเจนของมือและเท้า
ประโยชน์ของผักคะน้า
ผักที่มีประโยชน์ต่อสุขภาพมากมายและเป็นที่นิยมในอาหารสุขภาพอยย่างหนึ่ง คือผักคะน้า ประโยชน์ที่ดีต่อระบบต่างๆ ในร่างกาย การบริโภคผักคะน้าควรเป็นส่วนหนึ่งของอาหารที่มีความหลากหลายและสมดุล ประโยชน์ของผักคะน้ามีดังนี้
- พลังงานและโปรตีน: ผักคะน้าเป็นแหล่งพลังงานที่ต่ำและมีโปรตีนในปริมาณที่พอดี เหมาะสำหรับการบริโภคในอาหารเพื่อรักษาความหลากหลายของโปรตีน
- วิตามินและแร่ธาตุ: ผักคะน้ามีวิตามิน A, C, แร่ธาตุเหล็ก แคลเซียม และธาตุอื่นๆ ที่สำคัญสำหรับการรักษาสุขภาพของผู้บริโภค
- ใยอาหาร: ผักคะน้ามีใยอาหารที่สูงช่วยกระตุ้นการทำงานของระบบทางเดินอาหาร ลดน้ำหนัก และควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด
- สารต้านอนุมูลอิสระ: ผักคะน้ามีสารต้านอนุมูลอิสระที่ช่วยป้องกันการเสื่อมสภาพของเซลล์ ลดความเสี่ยงของโรคเรื้อรังและส่งเสริมสุขภาพทั่วไป
- กรดไฮโลรูนิก: ผักคะน้ามีกรดไฮโลรูนิกที่มีฤทธิ์ลดความเสี่ยงของโรคกรดไหลย้อน
- สารสกัดสมุนไพร: ผักคะน้ามีสารสกัดสมุนไพรที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย เช่น กรดโฟลิก
- ประโยชน์ต่อระบบทางเดินปัสสาวะ: ผักคะน้ามีส่วนช่วยลดความเสี่ยงของโรคทางเดินปัสสาวะ
- ลดความเสี่ยงของโรคหัวใจ: ผักคะน้ามีสารต้านอนุมูลอิสระและใยอาหารที่ช่วยลดความเสี่ยงของโรคหัวใจ
- ส่วนผสมในอาหารไทย: ผักคะน้าเป็นส่วนหนึ่งของอาหารไทยที่นิยม
- ควบคุมความดันโลหิต: ผักคะน้ามีแร่ธาตุเหล็กที่สามารถช่วยในการควบคุมความดันโลหิต
สารอาหารในผักคะน้า
คะน้าเป็นผักที่มีประโยชน์ต่อสุขภาพมากมาย การบริโภคผักคะน้าเป็นส่วนหนึ่งของการรับประทานผักที่หลากหลายและมีประโยชน์ต่อสุขภาพ สารอาหารหลายชนิดที่สามารถพบในผักคะน้าได้แก่
- วิตามิน A (เบต้า-คาโรทีน): มีในรูปของเบต้า-คาโรทีนที่ช่วยรักษาสายตา สร้างซิงเมนต์และรักษาความแข็งแรงของผิว
- วิตามิน C (แอสcorbic Acid): เป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่ช่วยเสริมระบบภูมิคุ้มกัน กระตุ้นการสร้างคอลลาเจน และมีบทบาทในกระบวนการทำงานของเนื้อเยื่อ
- วิตามิน K (ฟิโต-คินัน): เป็นสารที่สำคัญช่วยในการหายขาดของเลือดและรักษาการแข็งตัวของกระดูก
- กรดไฮโลรูนิก: ช่วยลดความเสี่ยงของโรคกรดไหลย้อน
- ใยอาหาร: มีใยอาหารที่ช่วยกระตุ้นการทำงานของระบบทางเดินอาหาร ลดน้ำหนัก และควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด
- แร่ธาตุเหล็ก:
- มีประโยชน์ในการลดความเหน็ดหนืด, ช่วยในการถ่ายเทออกซิเจนไปยังเนื้อเยื่อ, และรักษาความแข็งแรงของเลือด
- แร่ธาตุ: ช่วยในการรักษาความแข็งแรงของกระดูกและฟัน
- สารต้านอนุมูลอิสระ: ช่วยป้องกันการเสื่อมสภาพของเซลล์ ลดความเสี่ยงของโรคเรื้อรัง และส่งเสริมสุขภาพทั่วไป
- แคลเซียม: เสริมความแข็งแรงของกระดูกและฟัน
- ฟอลิคและไฟโต-คีเมียลีน: ช่วยลดความเสี่ยงของโรคหลอดเลือดสมอง
การเลือกซื้อผักคะน้า
การเลือกซื้อผักคะน้าควรทำตามขั้นตอนเพื่อให้ได้ผักที่สดใหม่และมีคุณภาพดี และเลือกซื้อผักคะน้าอย่างระมัดระวังจะทำให้คุณได้ผักที่อร่อย สดใหม่ และเต็มไปด้วยสารอาหาร เคล็ดลับที่ควรพิจารณาเมื่อเลือกซื้อผักคะน้า
- สีสันและลักษณะ: เลือกผักคะน้าที่มีสีเขียวสดและใบไม่แตกหรือถูกทำลาย ลองดูที่ต้นคะน้าและหลีกเลี่ยงการเลือกผักที่มีใบหรือต้นที่เหี่ยว
- ใบที่สมบูรณ์: เลือกผักคะน้าที่มีใบสมบูรณ์ ไม่มีรอยหยิกหรือรอยที่สำคัญ ใบควรมีความเป็นอยู่ที่ทั่วถึง
- ขนาด: เลือกผักคะน้าที่มีขนาดเหมาะสมและไม่ใหญ่เกินไปหรือเล็กเกินไป ควรเลือกผักคะน้าที่มีขนาดที่เหมาะกับการใช้งานของคุณ
- ไม่มีรอยแตกหรือทำลาย: หลีกเลี่ยงการซื้อผักคะน้าที่มีรอยแตกหรือถูกทำลาย เพราะอาจแสดงถึงการสึกหรอหรอกของผัก
- ตรวจสอบต้นและราก: ดูที่สภาพของต้นและราก ควรเลือกผักคะน้าที่มีรากที่ไม่เสียหายหรือแห้ง
- กลิ่น: กลิ่นคะน้าควรมีกลิ่นหอมสดชื่น หลีกเลี่ยงการซื้อผักที่มีกลิ่นเหม็นหรือมีกลิ่นที่ไม่เป็นปกติ
- การซื้อจากที่น่าเชื่อถือ: ควรซื้อผักคะน้าจากร้านหรือตลาดที่น่าเชื่อถือ ซึ่งมักจะมีการดูแลและจัดการผักอย่างเหมาะสม
- การตรวจสอบวันหมดอายุ: ถ้ามีป้ายระบุวันหมดอายุหรือวันที่เก็บเกี่ยว ควรตรวจสอบให้แน่ใจว่าผักยังไม่ถึงวันหมดอายุ
- ซื้อในปริมาณที่เหมาะสม: ซื้อผักคะน้าในปริมาณที่คุณสามารถบริโภคในระยะเวลาสั้นๆ เพื่อประกันความสดใหม่ของผัก
การล้างสารพิษตกค้างในผักคะน้า
การล้างสารพิษตกค้างในผักคะน้าเป็นขั้นตอนสำคัญเพื่อให้ผักปลอดภัยสำหรับการบริโภค ขั้นตอนการล้างผักอาจมีความแตกต่างตามความเหมาะสมและสภาพของผัก หากผักที่คุณได้มาไม่มีที่ระบุว่าเป็นผักอินทรีย์ ควรทำการล้างอย่างถูกวิธีเพื่อลดการติดสารเคมีตกค้าง ขั้นตอนที่สามารถล้างสารพิษในผักมีดังนี้
- ล้างในน้ำ: วิธีง่ายที่สุดคือการล้างผักในน้ำสะอาด นำผักคะน้ามาแช่ในชามหรืออ่างน้ำสะอาดๆ แล้วเคลือบผักให้ทั่วด้วยมือ การใช้แปรงนุ่มหรือแปรงสำหรับล้างผักยังช่วยทำให้สารพิษตกค้างลงมากขึ้น
- เพิ่มกระดาษทิชชูหรือผ้าทิชชู: ใส่กระดาษทิชชูหรือผ้าทิชชูลงในน้ำขณะที่คุณล้างผัก กระดาษหรือผ้าทิชชูจะช่วยดูดสารพิษและความสกปรกที่อาจตกค้างในผัก
- ใช้สายตาข่าย: การใช้สายตาข่ายสามารถช่วยในการล้างผักได้ดี เพียงนำผักไปใส่ในสายตาข่ายแล้วแช่ลงในน้ำหล่อเล็กน้อย
- ใช้น้ำซึมเข้าไป: น้ำซึมเข้าไปในผักสามารถช่วยล้างสารพิษได้ คุณสามารถฉีดน้ำตรงๆ บนผักโดยให้น้ำท่วมไปถึงต้นผัก
- ใส่น้ำเล็กน้อย: ใส่น้ำสะอาดเล็กน้อยและเลือกทำในมือที่ถนัด การล้างในน้ำที่มีอุณหภูมิสบายช่วยในการล้างสารพิษได้ดี
- เคลือบผักในน้ำโซดาบิคาร์บอเนต: การใช้น้ำโซดาบิคาร์บอเนตเล็กน้อยในน้ำสะอาดสามารถช่วยล้างสารพิษและสิ่งสกปรกต่างๆ ในผัก
- ล้างหลังจากแช่น้ำ: หลังจากที่ล้างผักในน้ำควรล้างอีกครั้งในน้ำสะอาดเพื่อให้ล้างสารพิษที่อาจตกค้างในผักได้หมด
- การใช้ผลไม้หรือน้ำหล่อเย็น: การนำผลไม้หรือน้ำหล่อเย็นลงในน้ำที่ใช้ล้างผักสามารถช่วยล้างสารพิษและสิ่งสกปรกได้
- ซึมผักในน้ำเปล่า: และวิธีสุดท้ายคือการซึมผักในน้ำเปล่าโดยไม่เติมสารล้างจะช่วยให้สารพิษตกค้างลดลง
เมนูผักคะน้า
อาหารที่หลากหลายและนิยมในการใช้ทำอาหารต่างๆ ในท้องถิ่นทั่วโลกคือผักคะน้า เมนูที่ใช้เป็นวัตถุดิบให้เลือกทำหลายรูปแบบในขนมไทยและอาหารท้องถิ่นอื่นๆ ที่สร้างเสน่ห์ในรสชาติ บางเมนูที่สามารถนำผักคะน้าไปใช้ได้
- ผัดคะน้า: การผัดคะน้าเป็นวิธีทำอาหารที่ง่ายและอร่อยมาก สามารถผัดคะน้าในน้ำมันหรือกะทิ รวมกับเครื่องปรุงที่ชอบ เช่น กระเทียม พริก หอมใหญ่ และซีอิ๊ว
- สลัดคะน้า: ใบคะน้าสามารถใช้ในสลัดได้เป็นอย่างดี ล้างใบคะน้าให้สะอาดแล้วนำไปใส่ในสลัดรวมกับผักสด ถั่ว และน้ำสลัดตามชอบ
- แกงคะน้า: ใบคะน้าเหมาะสำหรับใช้ในแกงต่างๆ เช่น แกงจืด แกงส้ม หรือแกงคะน้ากะทิ สามารถผสมกับหลายส่วนสมุนไพรตามสูตรที่ชอบ
- ปลากระพงนึ่งคะน้า: นำผักคะน้ามาใส่ในถาดนึ่งหรือภาชนะที่ใช้นึ่งอาหาร แล้วนำปลากระพงหรือปลาตะเพียนมาวางลงบนคะน้าแล้วนึ่งจนสุก
- ขนมจีบคะน้า: ใช้ผักคะน้าในการทำขนมจีบหรือเป็นไส้ปู่ ใส่ในแป้งเปาทำจากแป้งข้าวเหนียวหรือแป้งสาลี
- น้ำพริกคะน้า: น้ำพริกคะน้าเป็นเครื่องปรุงที่อร่อยและเข้มข้น สามารถนำผักคะน้ามาตำหรือบดเพื่อผสมกับพริก กระเทียม น้ำปลา น้ำมะนาว และน้ำตาล
- เครื่องปรุงรส: น้ำผักคะน้าสามารถนำมาใช้เป็นเครื่องปรุงรสในการทำอาหารต่างๆ เพื่อเพิ่มรสชาติ
- น้ำซุปคะน้า: น้ำซุปคะน้าเป็นวิธีทำน้ำซุปที่หอม อร่อย และสีเขียวสด สามารถใช้เป็นฐานในการทำซุปต่างๆ
- ตำคะน้าใส่ปลาทู: ใบคะน้าสดสามารถใช้ในการทำตำคะน้าใส่ปลาทู โดยใส่ปลาทูที่สดใส่ลงในน้ำเปล่าหรือน้ำแช่เย็น
- อาหารทารกและเด็ก: นำผักคะน้าต้มหรือผัดเล็กน้อยมาให้ลูกทาน สามารถผสมกับอาหารอื่นๆ เพื่อเพิ่มคุณค่าทางอาหาร
บทสรุป
การเลือกรับประทานอาหารจากธรรมชาติอย่างผักคะน้านั้นล้วนแต่ให้ประโยชน์ต่อร่างกาย และมีสรรพคุณมากมายที่ดีต่อสายตา แต่ควรเลือกผักคะน้าที่มีความสดใสและล้างสิ่งสปรกหรือสารพิษที่ตกต้างในผักให้สะอาด การเริ่มกินผักคะน้าได้เร็วจะสามารถชะลอการเกิดปัญหาทางสายตาได้ และควรรับประทานอาหารที่สมดุล รวมถึงการดูแลสุขภาพทั่วไปที่มีความสำคัญสำหรับสายตา
ติดตามเรื่องราวอื่นๆ และเกมส์ที่น่าสนใจได้ที่ : doodido.com
ขอบคุณภาพประกอบจาก :
- istockphoto.com
ขอบคุณแหล่งอ้างอิงจาก :
- asweetpeachef.com
- walktoeat.com
- hsnstore.eu