บริหารเวลา เพื่อการทำงานอย่างมีประสิทธิภาพ
การบริหารเวลา คือความสามารถในการวางแผนและจัดระเบียบการใช้เวลาในแต่ละวันเพื่อให้บรรลุเป้าหมายที่ตั้งไว้ นอกจากช่วยให้เราทำงานอย่างเป็นระบบและเสร็จตรงเวลาแล้ว การบริหารเวลาอย่างเหมาะสมจะทำให้คุณมีเวลาพักผ่อนและทำกิจกรรมที่คุณชื่นชอบมากขึ้น ซึ่งจะช่วยลดความเครียดจากการทำงานล่วงเวลาได้
ทุกคนอาจมีคุณสมบัติและความสามารถที่แตกต่างกัน แต่สิ่งที่เรามีเหมือนกันคือ 24 ชั่วโมงในหนึ่งวัน ถ้าแบ่งเวลาไม่ได้ก็ต้องให้คุ้มค่าและเกิดประโยชน์ มันจะส่งผลต่อการงาน สุขภาพ และความสัมพันธ์กับคนรอบข้าง สิ่งสำคัญคือต้องฝึกการ”บริหารเวลา”อย่างมีประสิทธิผล บทความนี้ได้รวบรวมเทคนิคดีๆ ที่จะช่วยให้คุณจัดการเวลาได้ดีขึ้น
บริหารเวลา มีความสำคัญแค่ไหน?
การบริหารเวลาอย่างมีประสิทธิผลมีประโยชน์ต่องาน สุขภาพ และไลฟ์สไตล์ของคุณหลายประการ เช่น:
- ลดนิสัยการผัดวันประกันพรุ่ง ช่วยให้งานเสร็จตามกำหนดเวลา ไม่มีงานค้าง และไม่ต้องทำงานล่วงเวลา
- มีเวลาพักผ่อนหลังเลิกงานมากขึ้น ทำให้คุณมีเวลาทำกิจกรรมคลายเครียดและความเหนื่อยล้าจากการทำงาน
- มีเวลานอนเพียงพอ ซึ่งจะช่วยเติมพลังและเตรียมพร้อมที่จะลุกขึ้นไปทำงานในวันรุ่งขึ้น และลดปัญหาสุขภาพจากการนอนดึกหรือนอนน้อย
- ประสิทธิภาพในการทำงานเพิ่มขึ้นและป้องกันการเกิดอาการเหนื่อยหน่ายในที่ทำงาน (Burnout)
- มีเวลาทำกิจกรรมร่วมกับเพื่อน คนที่รัก และสมาชิกในครอบครัว ซึ่งจะช่วยลดปัญหาความสัมพันธ์
5 เทคนิคการ บริหารเวลา ง่ายๆ
การบริหารเวลาเป็นทักษะที่สามารถฝึกฝนได้ แต่ละคนอาจมีวิธีการจัดสรรเวลาที่เหมาะสมกับตนแตกต่างกัน หากคุณต้องการเริ่มต้นจัดระเบียบชีวิตให้เป็นระเบียบ เทคนิคการบริหารเวลาง่ายๆ เหล่านี้อาจช่วยคุณได้
- วางแผนและจัดลำดับความสำคัญ
ติดตามสิ่งที่ต้องทำในแต่ละวันตามลำดับความสำคัญ มันจะช่วยให้คุณรู้ว่างานไหนที่ต้องทำให้เสร็จก่อน ท่านสามารถเขียนตารางงานที่จะทำและการนัดหมายต่างๆ เป็นรายสัปดาห์ได้ โดยควรจดไว้ใกล้ตัวเพื่อให้ตรวจสอบได้ง่าย เช่น สมุดโน๊ต กระดาษโน๊ต โทรศัพท์มือถือ หรือคอมพิวเตอร์ได้ตามสะดวก การจัดลำดับความสำคัญของงานควรขึ้นอยู่กับงานที่สำคัญที่สุดซึ่งมีกำหนดเวลาเร็วที่สุด จากนั้นทำสิ่งที่สำคัญน้อยกว่า และทำงานที่ไม่จำเป็นเป็นลำดับสุดท้าย
- กำหนดการบริหารเวลาให้กับตัวเอง
การตั้งเวลาให้ตัวเองทำงานเป็นสิ่งสำคัญ ถ้าไม่กำหนดเวลาทำงานให้เสร็จ มักจะทำให้เราทำงานต่อจนลืมเวลา นอกจากงานไม่เสร็จตามกำหนดเวลาแล้ว ยังทำให้มีเวลาพักผ่อนน้อยลงอีกด้วย เมื่อกำหนดเวลาทำงานแล้วควรใช้เวลาทำงานให้เต็มศักยภาพ เพื่อให้งานเสร็จและออกจากงานตรงเวลา
3.พิจารณาความเหมาะสมก่อนรับงาน
หลายครั้งงานไม่เป็นไปตามแผนที่วางไว้ เพราะตกลงทำงานโดยไม่พิจารณาถึงความสามารถและความเหมาะสมของตัวเองก่อนรับงาน เช่น งานที่ยากเกินไปสำหรับความสามารถของตัวเองหรือไม่มีเวลาทำงานให้เสร็จตรงเวลา ดังนั้น ควรสอบถามรายละเอียดงานทุกชิ้นก่อน ทำมัน. หากไม่สามารถทำงานได้ ควรแจ้งหัวหน้างานและอธิบายเหตุผล เพื่อให้งานนี้ไม่กระทบงานอื่นที่ต้องทำ
- รู้ขีดจำกัดของตัวเอง และอย่ากดดันตัวเองมากเกินไป
การกำหนดเวลาต้องคำนึงถึงความเป็นจริงที่สามารถทำได้ หากคุณจัดสรรเวลาด้วยการตั้งเป้าหมายที่ไม่สมจริง ก็อาจทำให้เกิดความเครียดมากขึ้นได้ เหมือนทำงานหนักติดต่อกัน 6 ชั่วโมงโดยไม่มีการหยุดพัก นอกจากนี้อย่าลืมให้รางวัลตัวเองเมื่อคุณทำแผนสำเร็จ เพื่อสร้างกำลังใจและป้องกันความเหนื่อยหน่ายในการทำงาน
- สุขภาพของคุณเองเป็นสิ่งสำคัญ
จัดสรรเวลาเพื่อคลายเครียดขณะทำงาน เช่น การลุกขึ้นเปลี่ยนอิริยาบถ เดินพูดคุยกับเพื่อนร่วมงาน ฟังเพลง และออกไปรับประทานอาหารกลางวันที่ร้านอาหารที่คุณชื่นชอบ นอกจากนี้คุณควรดูแลสุขภาพของคุณด้วยการออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ กินอาหารที่มีประโยชน์และทำงานอดิเรกที่คุณชื่นชอบกับคนที่คุณรักก็จะช่วยให้ร่างกายและจิตใจของคุณแข็งแรง
บทสรุป
การบริหารเวลาช่วยให้เราใช้เวลาที่มีอยู่อย่างมีประสิทธิผลและประสิทธิผล มือใหม่เรื่องการบริหารเวลาอาจใช้เทคนิคที่แนะนำข้างต้นให้เหมาะกับตัวเอง เนื่องจากไม่มีวิธีการจัดสรรเวลาตายตัว อย่างไรก็ตาม หากเกิดปัญหาในการทำงานควรแจ้งหัวหน้างานทราบ และหากมีความเครียดสะสมที่ส่งผลต่อชีวิตประจำวัน ควรปรึกษานักจิตวิทยาหรือจิตแพทย์เพื่อขอคำแนะนำและการรักษาเพิ่มเติม
ขอบคุณบทความจาก
https://www.pobpad.com/
ขอบคุณรูปภาพจาก
https://www.freepik.com/author/freepik
https://www.freepik.com/author/onlyyouqj
ติดตามบทความอื่นๆได้ที่ https://doodido.com/