ทริคหากต้องอยู่บ้านตลอด 24 ชั่วโมง ทำยังไงให้ไม่น่าเบื่อ??

WM

เวลา 24 Hours ชีวิตติดบ้าน สนุก แฮปปี้ ไม่มีเบื่อ

การสร้างบรรยากาศ สภาพแวดล้อมในการนอนมีส่วนสำคัญในการช่วยให้เราไม่เบื่อ  หรือเปิดหน้าต่าง เพื่อระบายอากาศบ้าง นอกจากจะเป็นการระบายอากาศแล้ว ยังช่วยให้เราได้สัมผัสอากาศภายนอก ได้รับแสงแดดอุ่นๆ ได้ชมวิวสวยๆของบ้าน ไหน ๆ ก็อยู่บ้านทั้งวัน แทบไม่ได้ออกไปไหนแล้ว อบู่บ้านกือบตลอด 24 Hours ชีวิตติดบ้าน สนุก แฮปปี้ ไม่มีเบื่อ เราเชื่อว่าเพื่อนหลายคนเริ่มรู้สึกเบื่อหน่ายกับการอยู่บ้าน ไม่ได้ออกไปเที่ยวไหน เพราะโควิด-19 ที่ส่งผลกระบทไปทั่ว กักตัวอยู่ที่บ้านนาน ๆ อาจจะรู้สึกเหงาบ้าง วันนี้เรามี ไลฟ์สไตล์ กับ  มาส่องดู Lifestyle การอยู่บ้าน ทำยังไงไม่ให้เบื่อ  หากเพื่อนๆทุกคน พร้อมกันแล้วละก็ อย่ารอช้าเลย ได้ดูสาระความรู้ดีๆ จากบทความนี้กันเลยค่าาาาา

สถานการณ์ของโควิด-19 ทำให้พวกเราต้องปรับเปลี่ยนการใช้ชีวิต โดยเฉพาะการต้องเปลี่ยนมาใช้ชีวิตติดบ้านแทบจะ 24 ชั่วโมง แต่ในเมื่อเราไม่สามารถเลือกได้ เราก็ควรเตรียมความพร้อมของบ้านให้ดีที่สุดเพื่อที่เรายังสามารถใช้ชีวิตได้อย่างปกติ ไม่สะดุด เพราะบ้านต้องทำหน้าที่มากกว่าที่พักอาศัยหลังการใช้ชีวิตนอกบ้าน โจทย์สำคัญ คือ เราจะปรับเปลี่ยนบ้านอย่างไรเพื่อให้สมาชิกในบ้านใช้ชีวิตได้อย่างสะดวกสบาย และช่วยเติมเต็มกิจกรรมต่างๆ แทนความสุขจากการใช้ชีวิตนอกบ้านที่ขาดหายไปได้ ลองมาดูกันว่าฟังก์ชั่นบ้านแบบไหน ที่ตอบโจทย์การใช้ชีวิตของสมาชิกในบ้านได้ สนุก แฮปปี้ ไม่มีเบื่อ

ขอบคุณภาพจาก: https://unsplash.com/@spacejoy

1. ห้องนอน

ห้องนอนถือเป็นหัวใจของผู้อยู่อาศัย เพราะเป็นห้องแห่งการพักผ่อนเพื่อเติมพลังให้เต็ม 100 ก่อนการใช้ชีวิตในวันต่อไป และยังเป็นห้องที่มีความเป็นส่วนตัวของสมาชิกในบ้านมากที่สุด ตำแหน่งห้องนอนที่ดีควรอยู่ที่ส่วนหลังของบ้าน ส่วนที่ใกล้กับสวน หรือส่วนที่ห่างไกลจากความวุ่นวาย เป็นสถานที่แห่งการพักผ่อน ซึ่งต้องการความสงบ ไม่ควรมีอะไรรบกวน นอกจากนี้ห้องนอนควรเป็นห้องที่มีอากาศถ่ายเทที่ดี มีแสง และลมธรรมชาติ จึงควรเลือกห้องนอนที่อยู่ทิศตะวันออก และทางทิศ ใต้ เพื่อหลีกเลี่ยง การรับ แสงแดด ในตอนบ่ายของทิศตะวันตก และสามารถรับลมธรรมชาติได้

2. ห้องทำงาน

เนื่องจากปัจจุบันต้องทำงานแบบ Work From Home  ห้องทำงานที่ดีควรเป็นห้องแยกจากพื้นที่อื่นๆ หรือหากพื้นที่บ้านมีจำกัดก็ควรแบ่งสัดส่วนให้ชัดเจน มีโต๊ะ เก้าอี้และอุปกรณ์ที่จำเป็นเพื่อสะดวกกับการทำงาน การสร้างบรรยากาศที่ดีในห้องทำงานก็เป็นสิ่งที่ช่วยสร้างแรงจูงใจให้อยากทำงานมากขึ้น อาจเลือกตกแต่งห้องตามสไตล์ที่ชื่นชอบ เช่น เพิ่มความเขียวของต้นไม้เพื่อให้ห้องดูมีชีวิต หรือติดภาพวาดสวยๆ เพื่อช่วยสร้างแรงบันดาลใจ  นอกจากนี้สิ่งที่สำคัญของห้องทำงานคือแสงสว่าง ควรเลือกห้องที่มีแสงธรรมชาติเข้าถึง หากไม่มีควรติดไฟที่มีแสงสว่างแบบถนอมสายตา เพื่อช่วยถนอมสายตาขณะใช้คอมพิวเตอร์

WM
ขอบคุณภาพจาก: https://unsplash.com/@spacejoy

3. ห้องนั่งเล่น

ห้องนั่งเล่นถือเป็นจุดศูนย์กลางของบ้าน เพื่อให้สมาชิกในครอบครัวใช้พื้นที่ทำกิจกรรมร่วมกัน เช่น การดูทีวี ฟังเพลง หรือเป็นที่ทำการบ้านของลูก ตำแหน่งของห้องนั่งเล่นควรอยู่บริเวณที่เข้าถึงได้ง่ายที่สุด เพื่อที่เวลามีแขกมาจะได้ไม่เข้าไปในพื้นที่ส่วนตัวของบ้าน  ห้องนั่งเล่นไม่ว่าจะเป็นพื้นที่ใหญ่ หรือเล็ก ควรสร้างบรรยากาศให้สบาย ไม่อึดอัด มีอากาศถ่ายเทสะดวก มีแสงสว่าง และลมจากธรรมชาติเข้าถึง และควรเลือกเฟอร์นิเจอร์แบบลอยตัวที่สามารถปรับเปลี่ยนตำแหน่งได้ เมื่อต้องการเปลี่ยนบรรยากาศของห้อง รวมถึงควรตกแต่งห้องให้มีความเหมาะสมกับสมาชิกทุกวัยในบ้าน เพื่อให้พื้นที่ส่วนกลางของบ้านเป็นพื้นที่แห่งความสุขของทุกคนอย่างแท้จริง

4. สวนบริเวณบ้าน

มุมสวนภายในบ้านช่วยสร้างบรรยากาศให้บ้าน ร่มรื่น น่าอยู่ น่ามอง ใช้ในการพักผ่อน ต้อนรับแขก ญาติ และสิ่งสำคัญยังช่วยเรื่องการเยียวยาจิตใจ ทำให้จิตใจสงบมากขึ้น  ตำแหน่งของสวนขึ้นอยู่กับพื้นที่ของแต่ละบ้านอาจเป็นหน้าบ้าน หลังบ้าน หรือมุมหนึ่งในบ้านก็ได้ ขนาดพื้นที่สวน และรูปแบบการจัดสวนสามารถเลือกตามสไตล์ที่ผู้อยู่ชื่นชอบ ไม่ว่าจะเป็นสวนขนาดเล็ก หรือใหญ่ สวนต้นไม้ สวนดอกไม้ หรือสวนหิน สร้างบรรยากาศที่ดีให้กับบ้านทั้งนั้น สวนช่วยแบ่งเขตพื้นที่บ้านให้เป็นสัดส่วน ช่วยบังสายตาจากคนภายนอก ช่วยสร้างออกซิเจน ช่วยลดฝุ่นละออง แต่ต้องไม่ลืมที่ต้องหมั่นดูแล ตัดแต่งกิ่งไม้ เก็บกวาดใบไม้อยู่เสมอ เพื่อหลีกเลี่ยงการเป็นที่หลบซ่อนของสัตว์มีพิษ และป้องกันไม่ให้ต้นไม้ล้ำไปพื้นที่นอกบ้าน

WM
ขอบคุณภาพจาก: https://unsplash.com/@rarchitecture_melbourne

5. ห้องครัว

ห้องครัวเป็นหัวใจของบ้าน และสมาชิกในครอบครัว เป็นพื้นที่ที่ทุกคนมารวมตัวกันในตอนเช้าเพื่อเริ่มต้นวันใหม่รวมถึงช่วงมื้อเย็นในตอนค่ำ ตำแหน่งห้องครัวที่ดีควรอยู่ส่วนด้านหลังของบ้าน หรือจุดที่คนภายนอกมองไม่เห็น ภายในห้องครัวควรตกแต่งอย่างเรียบง่าย จัดวางอุปกรณ์การทำอาหารอย่างเป็นระเบียบ ใช้สีโทนอ่อนเย็นสบายตา เช่น สีฟ้า สีขาว สีเหลืองอ่อน และต้องจัดห้องครัวให้โปร่งโล่ง อากาศถ่ายเทได้สะดวก หมั่นจัดเก็บ และเช็ดล้างให้ห้องครัวสะอาดอยู่เสมอ ซึ่งจะช่วยป้องกันเชื้อโรคจากสัตว์ต่างๆ อีกทั้งควรจัดให้ห้องครัวมีแสงสว่างที่เพียงพออีกด้วย

6. ห้องพระ

ห้องพระนับเป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ และช่วยยึดเหนี่ยวจิตใจของสมาชิกในบ้าน การจัดวางให้ถูกทิศทาง และถูกตำแหน่งจะช่วยส่งเสริมให้บ้านที่อยู่อาศัยมีความสงบ ร่มเย็น รวมถึงเจ้าบ้านอาจได้รับโชคลาภ หรือพบเจอแต่สิ่งดีๆ ได้เช่นกัน ห้องพระควรอยู่ชั้นบนสุดของบ้าน ควรเป็นห้องที่สงบ ห่างไกลจากห้องนั่งเล่น หรือห้องที่เป็นจุดรวมตัวของคนในบ้าน ต้องเป็นห้องที่มีการระบายอากาศได้ดี เพราะการบูชาพระจะต้องจุดธูป เทียน หากเป็นตำแหน่งที่อากาศถ่ายเทสะดวก จะทำให้ไม่รบกวนสมาธิของผู้ปฏิบัติธรรม อีกทั้งยังช่วยลดอันตรายจากควันไฟ และเปลวเทียนไม่ให้ไหม้บ้านได้อีกด้วย

เป็นอย่างไรกันบ้างค่ะ ก็จบลงไปแล้วน้า กับ ไลฟ์สไตล์ การชีวิตของคนในยุคนี้ กับ “ มาส่องดู Lifestyle การอยู่บ้าน ทำยังไงไม่ให้เบื่อ ” DooDiDo หวังว่าเพื่อนทุกคนจะได้รับความรู้จากบทความนี้ไม่มากก็น้อยนะค่ะ นอกจากนนี้การเลือกบ้านที่ดี เพื่อช่วยเติมเต็มความสุขของสมาชิกในครอบครัวไม่ใช่เรื่องยากอีกต่อไป เพียงคำนึงถึงความต้องการของสมาชิกในบ้าน และเลือกอย่างมีข้อมูลประกอบที่ถูกต้อง ก็จะช่วยให้บ้านเป็นมากกว่าที่อยู่อาศัยแน่นอน อย่าลืมดูแลตัวเองพร้อมกับวางแผนชีวิตของตนเองด้วยนะค่ะ

ขอบคุณแหล่งที่มา : https://advicecenter.kkpfg.com