ควรอาบ “น้ำอุ่น”หรือ”น้ำเย็น” อาบอย่างไรให้ดีต่อสุขภาพผิวที่สุด

WM

เราควรจะอาบน้ำแบบไหนดีที่จะไม่ทำร้ายต่อผิวของเรา?

การอาบน้ำเชื่อว่าทุกคนก็ต้องจำเป็นจะต้องอาบน้ำเพื่อชำระล้างสิ่งสกปรกที่ได้พบเจอในแต่ล่ะวันกันเป็นปกติล่ะค่ะ แต่ถ้าเอาจริงๆ แล้วต่างประเทศหรืออีกหลายประเทศนั้นไม่ได้อาบน้ำบ่อยเท่าบ้านเราเท่าไหร่นัก ที่อาบน้ำทั้งเช้าและอาบน้ำเย็น อาจจะเพราะด้วยในเรื่องของฝุ่นละอองหรืออากาศในบ้านเราที่จำเป็นจะต้องอาบน้ำเสมอเลย ก็ว่าได้ล่ะค่ะ แต่ด้วยความที่การอาบน้ำนั้นเป็นเรื่องสำคัญกับเราขนาดนี้แล้วนั้นทุกคนรู้มั้ยล่ะคะว่า เราควรจะอาบน้ำแบบไหนดีที่จะไม่ทำร้ายต่อผิวของเรา?

บางคนชอบอาบน้ำเย็นๆ น้ำอุณหภูมิห้อง อุ่นนิดๆ ไปจนถึงร้อนจัดๆ เพื่อความผ่อนคลาย ทราบหรือไม่ว่าการเลือกอุณหภูมิของน้ำส่งผลต่อสภาพผิวได้อย่างมาก ถ้าอย่างนั้นเราควรเลือกอาบน้ำแบบไหนถึงจะดีต่อผิวที่สุด

WM
ขอบคุณภาพจาก: https://unsplash.com/@brucemars

น้ำร้อน น้ำอุ่นจัด

  1. หากคุณเป็นคนชอบอาบน้ำร้อน ควรปรับอุณหภูมิของน้ำให้อยู่ระหว่าง 37-42 องศาเซลเซียส (ความร้อนในระดับที่มีควันบางๆ ควันไม่หนาจนขาวโพลน) อุณหภูมิในระดับนี้จะทำให้คุณรู้สึกสดชื่น ตื่นตัว เลือดไหลเวียนดี และรู้สึกผ่อนคลาย
  2. ควรอาบน้ำเย็นตามหลังจากอาบหรือแช่ด้วยน้ำอุ่นจัด เพื่อกระชับรูขุมขน
  3. ไม่ควรแช่น้ำร้อนหรือน้ำอุ่นจัดนานเกิน 15 นาที เพราะอาจทำให้ร่างกายได้รับความร้อนมากเกินไปจนหน้ามืด เป็นลมได้
  4. อย่าลืมทาโลชั่นบำรุงผิว เพื่อป้องกันผิวแห้ง ผิวเหี่ยว
WM
ขอบคุณภาพจาก: https://pixabay.com/th/users/wilkernet-246570/

น้ำอุ่น

  1. น้ำอุ่นที่เหมาะสมต่อการนำมาอาบน้ำจะอยู่ที่ 27-37 องศาเซลเซียส อุณหภูมิระดับนี้จะช่วยให้ผิวขับของเสียที่คั่งค้างออกมาได้มากขึ้น ทำให้รู้สึกสบายตัว ช่วยลดอาการมือเท้าบวม เส้นเลือดขอด กระตุ้นการไหลเวียนของโลหิต และลดความตึงเครียดได้ นอกจากนี้ยังช่วยให้หลับสบายได้มากขึ้นด้วย
  2. อุณหภูมิของน้ำที่เหมาะสมที่สุดคือ 37 องศาเซลเซียส ซึ่งเป็นอุณหภูมิเดียวกันกับร่างกาย แช่น้ำนานก็จะไม่รู้สึกหน้ามืด หรือเวียนหัว และไม่รู้สึกร้อนจนแสบผิว
WM
ขอบคุณภาพจาก: https://www.pexels.com/th-th/@karolina-grabowska

น้ำเย็น

  1. น้ำเย็นจะอยู่ที่อุณหภูมิต่ำกว่า 27 องศาเซลเซียส แม้ว่าจะรู้สึกเย็นจนอาบแล้วสะดุ้งในช่วงแรกๆ แต่เมื่ออาบไปเรื่อยๆ จะเริ่มรู้สึกชินกับความเย็น และช่วยให้กล้ามเนื้อในร่างกายรู้สึกตื่นตัวมากขึ้น รู้สึกสดชื่นขึ้น นอกจากนี้งานวิจัยยังพบว่า การอาบน้ำเย็นช่วยให้อาการซึมเศร้าดีขึ้น
  2. น้ำเย็นที่เหมาะสมในการอาบน้ำไม่ควรต่ำกว่า 27 องศาเซลเซียส เป็นความเย็นในระดับที่ไม่รู้สึกหนาวเย็นจนทรมาน ไม่ทำให้ร่างกายสูญเสียความร้อนจนผิวซีด เล็บมือไม่เขียวคล้ำ นิ้วไม่เหี่ยว
  3. หลังอาบน้ำเย็นก็ยังคงต้องทาโลชั่นบำรุงผิวด้วยเช่นกัน เพื่อป้องกันผิวแห้งแตก

ด้วยความที่บ้านเรานั้นค่อนข้างที่เอื้ออำนวยให้เราได้อาบน้ำบ่อยๆ อยู่แล้ว นั้นการใส่ใจต่อการอาบน้ำน้นก็ไม่ใช่เรื่องผิดอะไรเลยค่ะ และแน่นอนค่ะว่าแต่ล่ะคนนั้นก็น่าจะชอบหรือรู้สึกสบายกับน้ำอุ่น หรืออาจจะเป็นน้ำเย็นก็แล้วแต่คน ซึ่งเมื่อทุกคนได้อ่าน “น้ำอุ่น หรือ น้ำเย็น? อาบอย่างไรให้ดีต่อผิวที่สุด” ที่ DooDiDo นำมาฝากทุกคนในวันนี้ก็เชื่อได้ว่าทุกคนก็น่าจะรู้กันแล้วล่ะค่ะว่าอาบแบบไหนดี แต่อย่างไรก็ตามแล้วก็ต้องไม่พลาดที่ดูแลผิวโดยการทาโลชั่นอยู่สม่ำเสมอ

ขอบคุณแหล่งที่มา: www.sanook.com