ควรหยุด 7 พฤติกรรมแย่ๆ ที่จะทำร้ายกระเพาะคุณแบบไม่รู้ตัว!!

ลองมาดูกันว่าพฤติกรรมอะไร แบบไหน ที่เรียกว่าทำร้ายกระเพาะ

ในปัจจุบันนี้ด้วยไลฟ์สไตล์ต่างๆ ของแต่ล่ะคน ด้วยการใช้ชีวิตที่เร่งรีบอยู่ประจำทุกวันนั้นก็กลายเป็นความเคยชินไปแล้วล่ะค่ะ แล้วซึ่งความเคยชินนั้นในกับบางเรื่องนั่นก็ไม่ค่อยส่งผลดีต่อเราเท่าไหร่นัก ที่เห็นชัดๆ เลยก็คงจะเป็นในเรื่องการการทานอาหารนั่นแหล่ะ โดยปกติแล้วเราจะมีอาหารมื้อหลักอยู่สามมื้อใหม่ๆ ซึ่งแน่นอนว่าอาหารมื้อเช้านั้นสำคัญมากแค่ไหน แต่แน่ค่ะว่าช่วงเวลายามเช้าของหลายๆคนนั้นก็สำคัญไม่แพ้กันเลย ดังนั้นสุดท้ายแล้วอาหารมีเช้าที่ว่าสำคัญๆ หลายๆคนก็ละเลยไป จนสุดท้ายแล้วก็เป็นคนเคยตัวจนทำให้เสียสุขภาพในภายหลังค่ะ

ในปัจจุบันนี้คนไทยเป็นโรคกระเพาะเยอะมาก รวมไปถึงอาการลำไส้อักเสบ กระเพาะอาหารเป็นแผล ร้ายสุดก็ลุกลามอาการหนักไปถึงกระเพาะทะลุ หูยยย น่ากลัวนะคะทุกคน ไม่ต้องมองไกลๆ แค่คนใกล้ตัวของเราก็เป็นโรคกระเพาะมากกว่า 3 คน ในที่ทำงานเท่าที่รู้ก็มากกว่า 4 คน ก็ถือว่าเป็นโรคใกล้ตัวที่เป็นกันง่ายมากๆ อาการกระเพาะอักเสบ ลำไส้อักเสบ เป็นโรคกระเพาะถาวร โรคพวกนี้เกิดจากความประพฤติของตัวเราเองทั้งนั้น ร้อยละ 80% อยู่ที่พฤติกรรมการกินจ้า อยากรู้กันมั้ยว่าพฤติกรรมอะไร แบบไหน ที่เรียกว่าทำร้ายกระเพาะ วันนี้ขอยกมา 7 พฤติกรรมที่ใกล้ตัวสุด มาให้อ่านกัน ไปดูกันเลยดีกว่าจ้า

1. ดื่มน้ำอัดลม

แน่นอนว่าทุกคนรู้ว่า น้ำอัดลมนั้นคือตัวการหลักที่ทำร้ายกระเพาะมากที่สุด และเป็นสิ่งที่ทุกคนมองข้าม หรือต้องเรียกว่า ไม่สนใจ มากกว่า ก็เพราะว่ามันอร่อยใช่มั้ยล่ะ และนั้นแหละ 90% คนชอบดื่มน้ำอัดลมเป็นประจำมักจะเป็นโรคกระเพาะ หรือปวดท้องง่ายกว่าคนอื่นๆ เพราะว่าเจ้าน้ำอัดลมมันกัดกระเพาะไง นานๆเข้าก็เกิดเป็นแผลในกระเพาะ เพราะฉะนั้นถ้าไม่อยากทำร้ายกระเพาะของตัวเอง ก็ลดน้ำอัดลมบ้างนะคะ ดื่มได้ แต่ไม่ควรดื่มเป็นประจำนะคะ

2. ดื่มกาแฟบ่อยๆ หรือมากเกินไป

กาแฟก็เช่นกันจ้า เคยไปพบหมอด้วยอาการกระเพาะอักเสบ หมอถามว่า ดื่มกาแฟบ่อยมั้ย ซึ่งตอนนั้นก็เอ๋อจ้า เพราะไม่รู้ว่ากาแฟมีผลกระทบต่อกระเพาะด้วย… เราเชื่อว่าบางคนก็ไม่รู้เหมือนเรา จริงๆแล้วดื่มได้ แต่ไม่ควรดื่มบ่อยๆ แต่นั้นก็ยังไม่อันตรายเท่าการดื่มกาแฟยามท้องว่าง เพราะกระเพาะของเราจะมีกรดเกลือที่มีไว้สำหรับย่อยอาหาร และเมื่อเราท้องว่างเจ้ากรดตัวนั้นก็จะไม่หลั่งออกมาเยอะ แต่ถ้าเราดื่มกาแฟในยามท้องว่าง เจ้ากาแฟก็จะมากระตุ้นให้กรดนั้นออกมาเยอะเกินไป ซึ่งก็จะส่งผลร้ายต่อกระเพาะของเรานั่นเองจ้า

3. สูบบุหรี่ ดื่มแอลกอฮอล์

บุหรี่ จะทำให้เกิดการหลั่งกรดออกมามาก ผลก็คือกรดที่มีอยู่มากจะไม่ได้ย่อยแค่อาหาร ในบางครั้งก็อาจจะย่อยผนังกระเพาะของเราไปด้วย การดื่มแอลกอฮอล์ ได้แก่ เหล้า เบียร์ ยาดอง ซึ่งผลของมันก็เช่นเดียวกับน้ำอัดลม คือมันมีฤทธิ์กัดกระเพาะและจะทำให้เกิดเยื่อบุในกระเพาะอักเสบ หรือร้ายสุดก็กระเพาะทะลุ ดังนั้นลดได้ก็ลด เลิกได้ก็จะดีนะจ๊ะทุกคน

4. ความเครียดสะสม

อีกหนึ่งสาเหตุใกล้ตัวที่เรียกว่าภัยเงียบก็ได้ ใครจะไปรู้ว่าการเครียด การกังวลก็สามารถส่งผลไปยังกระเพาะได้ หรือที่เรารู้จักกันดีในชื่อว่า เครียดลงกระเพาะ สาเหตุหลักของโรคเครียดลงกระเพาะก็คือ “ความเครียดสะสม” เพราะเมื่อเราเครียด ระบบประสาทอัตโนมัติจะกระตุ้นต่อมหมวกไตให้หลั่งฮอร์โมนอดรีนาลีนในปริมาณที่มากกว่าปกติ ส่งผลให้ร่างกายตื่นตัวตลอดเวลา และยังไปกระตุ้นให้กระเพาะอาหารหลั่งน้ำย่อยออกมามากกว่าปกติ จนเกิดอาการระคายเคืองในกระเพาะอาหาร ซึ่งจะเป็นผลร้ายต่อกระเพาะของเรานั่นเอง

5. รับประทานอาหารไม่ตรงเวลา

การรับประทานอาหารไม่เป็นเวลา เบสิกๆที่ผู้ใหญ่ชอบพูดกับเราว่า ไม่กินข้าวเดี๋ยวเป็นโรคกระเพาะหรอก เพราะการรับประทานอาหารไม่เป็นเวลา ทำให้เยื่อบุกระเพาะอาหารระคายเคืองจนเกิดการอักเสบเรื้อรัง แล้วนำไปสู่การเกิดแผลในกระเพาะอาหารและลำไส้เล็กส่วนต้นได้ ดังนั้นถึงเวลาทานก็ทานเถอะค่ะ ไม่หิวก็ต้องทานอาจจะทานน้อยๆให้มีอะไรตกถึงท้องบ้างก็ยังดีกว่าไม่ทานเลยนะคะ

6. รับประทานยาแก้ปวดมากเกินไป

การทานยา ถ้าทานในปริมาณที่พอเหมาะพอดีก็จะเป็นผลที่ดีต่อร่างกาย แต่ถ้าทานมากเกินไปก็จะเป็นผลร้ายต่อร่างกายเช่นกัน ซึ่งยาแก้ปวดบางชนิดมีผลข้างเคียงที่ทำให้ระคายเคืองกระเพาะอาหาร ไปจนถึงการเกิดแผลในกระเพาะได้ ถ้าไม่ได้ปวดมากจริงๆก็ไม่ต้องใช้ยา หรือให้ดีก็ทานตามที่แพทย์สั่งก็จะดีและปลอดภัยกว่านะคะ

7. การรับประทานอาหารรสจัด

ถ้าพูดถึงอาหารรสจัดจะนึกถึงอาหาร 5 รส คือ เผ็ด เปรี้ยว หวาน เค็ม และมัน ซึ่งแต่ละรสชาตินั้น หากกินเกินพอดีจะส่งผลเสียต่อสุขภาพ ทำให้เกิดโรคร้ายแรงตามมาได้ เผ็ดมากไปก็จะเกิดจากการระคายเคืองของเนื้อเยื่อ ส่วนรสเปรี้ยวในกระเพาะอาหารของเรามีความเป็นกรดสูงมากอยู่แล้ว หากเรากินรสเปรี้ยวมากเกินไปจะยิ่งเป็นการเพิ่มความเป็นกรดในกระเพาะอาหารให้สูงขึ้น ส่วนรสเค็ม การกินเค็มมากเป็นอันตราย ซึ่งอันตรายประการแรกที่จะพบคือ อาการบวมน้ำ นอกจากนั้นก็ยังส่งผลไปถึงอวัยวะส่วนอื่นๆอีกด้วย ฉะนั้นกินในระดับที่พอดีๆนะคะทุกคน

พอรู้แบบนี้แล้ว DooDiDo แนะนำว่าใครที่ไม่ค่อยแบ่งเวลาให้กับมื้อเช้าต้องลองคิดใหม่ได้แล้วนะคะ เพราะอย่างไรก็ตามถึงแม้จะบอกว่าตัวคุณเองนั้นแข็งแรงดี แต่ในการใช้ชีวิตตลอดทั้งวันของคุณก็ต้องใช้พลังงานใช่มั้ยล่ะคะ เพราะงั้นแล้วอาหารเช้า ก็เป็นอีกหนึ่งสิ่งที่จะให้พลังกับคุณได้เอนจอยกับทุกเรื่องของวันนั้นไปเลย อาจจะลองรีบนอนให้เร็วขึ้นกว่าเดิมซัก 1 ชั่วโมง ตื่นเช้าให้เร็วขึ้นซัก 15 นาทีก็พอจะมีเวลาไปซื้อแซนวิชซักชิ้น นมซักกล่อง ก่อนเข้างานก็ดีไม่น้อยเลยล่ะค่ะ

ขอบคุณแหล่งที่มา: https://today.line.me