ควรรู้!! 5 ผักยอดฮิตที่ควรกินแบบระมัดระวัง

ผักบางชนิดกินมากไปก็ไม่ดีนะ หรือถ้ากินแบบไม่ถูกสุขลักษณะก็ไม่ดี

การกินผักทำให้ร่างกายได้รับวิตามินและแร่ธาตุต่าง ๆ ที่ร่างกายต้องการ เพื่อนำไปเสริมสร้างความแข็งแรงให้กับเรา ซึ่งผักทุกชนิดก็ให้ประโยชน์กับสุขภาพที่แตกต่างกันออกไปในแต่ละชนิด สำหรับสายเฮลท์ตี้ก็มักจะเลือกทานผักให้มากในเมนูอาหารแต่ละมื้อ เพื่อให้ร่างกายแข็งแรงและมีรูปร่างที่ดี แต่คุณรู้ไหมคะ ว่าผักบางชนิดต้องทานให้ถูกต้อง ให้ถูกสุขลักษณะจึงจะส่งผลดีต่อร่างกายค่ะ

“กินผักมีประโยชน์” เชื่อว่าเพื่อนๆ หลายคนน่าจะคุ้นเคยกับประโยคนี้เป็นอย่างดี เพราะการกินผักมีประโยชน์หลายอย่าง ที่แน่ๆ คือ ทำให้สุขภาพแข็งแรง เนื่องจากผักแต่ละชนิดมีประโยชน์ที่ดีต่อร่างกายแตกต่างกันไป แต่เพื่อนๆ รู้มั้ยว่า? ผักบางชนิดกินมากไปก็ไม่ดีนะ หรือถ้ากินแบบไม่ถูกสุขลักษณะก็ไม่ดีเช่นกัน ส่วนจะมีผักอะไรบ้างที่เพื่อนๆ ควรกินแบบระมัดระวัง ไปดูกันเลย

WM
ขอบคุณภาพจาก: https://www.freepik.com/author/8photo

1.แตงกวา
เป็นผักที่ช่วยลดความเสี่ยงโรคหัวใจและหลอดเลือด บำรุงผิว อีกทั้งยังเป็นผักที่ดีต่อสุขภาพของคนที่กำลังลดน้ำหนัก แต่แตงกวาอาจเป็นผักที่พบสารปนเปื้อนยาฆ่าแมลง หากกินแตงกวาทั้งเปลือกโดยไม่ล้างให้สะอาด อาจทำให้ร่างกายได้รับสารพิษจากยาฆ่าแมลง และเป็นอันตรายต่อร่างกายได้ ดังนั้น ก่อนกินแตงกวาจึงควรปอกเปลือก และล้างให้สะอาด โดยการแช่ในน้ำผสมเกลือ 1 ช้อนโต๊ะ ประมาณ 10 นาที แล้วจึงล้างออกด้วยการเปิดน้ำไหลผ่าน เพื่อช่วยลดสารเคมีที่อาจตกค้างอยู่ให้ออกไป

2.กะหล่ำปลี
เป็นผักที่มีวิตามินซีสูง ช่วยป้องกันโรคหัวใจและหลอดเลือด ช่วยปรับปรุงการทำงานของลำไส้ และลดความเสี่ยงการเกิดโรคมะเร็ง แต่สำหรับผู้ที่มีอาการแพ้ต่อผักในวงศ์ผักกาดและกะหล่ำ ควรหลีกเลี่ยงการกินกะหล่ำปลี เนื่องจากอาจเกิดอาการแพ้ อาเจียน ผื่นขึ้น ใบหน้าและลิ้นบวมได้ นอกจากนี้ ผู้ที่เป็นโรคเบาหวานและผู้ที่มีการทำงานของต่อมไทรอยด์ผิดปกติก็ควรหลีกเลี่ยงการกินกะหล่ำปลีด้วยเช่นกัน เพราะกะหล่ำปลีอาจส่งผลให้ต่อมไทรอยด์ทำงานน้อยลง เนื่องจากกะหล่ำปลี โดยเฉพาะกะหล่ำปลีดิบ อาจมีสารยับยั้งที่ไปขัดขวางการสร้างฮอร์โมนในต่อมไทรอยด์ และเนื่องจากกะหล่ำปลีมีส่วนช่วยลดระดับน้ำตาลในเลือด หากกินกินในปริมาณมาก โดยเฉพาะผู้ที่จำเป็นต้องเข้ารับการผ่าตัด อาจส่งผลให้ระดับน้ำตาลในเลือดลดลงมากเกินไประหว่างผ่าตัด ที่อาจนำไปสู่อาการชักหมดสติ ดังนั้น จึงควรหยุดกินกะหล่ำปลีอย่างน้อย 2 สัปดาห์ ก่อนการผ่าตัด

WM
ขอบคุณภาพจาก: https://pixabay.com/th/users/inetali-6612669/

3.ขึ้นฉ่าย
เป็นผักที่อุดมไปด้วยสารต้านอนุมูลอิสระหลายชนิด ช่วยป้องกันการเกิดมะเร็ง มีสารอะพิจีนีน (Apigenin) ซึ่งเป็นสารฟลาโวนอยด์ชนิดหนึ่งที่ช่วยต้านอนุมูลอิสระ ต้านการอักเสบ ช่วยลดไขมันในเลือด และช่วยส่งเสริมการสร้างเซลล์ประสาทจากสารประกอบน้ำมันอย่าง 3 เอ็น-บิวทิลฟทาไลด์ แต่อย่างไรก็ดี ในบางคน การกินขึ้นฉ่ายมากเกินไป อาจทำให้มีอาการท้องอืดหรือแก๊สในกระเพาะอาหารได้ เนื่องจากในขึ้นฉ่ายมีสารแมนนิทอล (Mannitol) ในปริมาณมาก ซึ่งอาจขัดขวางการดูดซึมสารอาหารของลำไส้และทำให้เกิดความผิดปกติในทางเดินอาหาร

4.ผักกาด
เป็นผักที่อุดมไปด้วยสารต้านอนุมูลอิสระที่ส่งผลดีต่อสุขภาพ ส่งเสริมระบบภูมิคุ้มกัน ป้องกันการอักเสบ และอาจช่วยป้องกันโรคเรื้อรัง เช่น โรคมะเร็ง โรคเบาหวาน โรคหัวใจและหลอดเลือด ส่งเสริมการทำงานของระบบย่อยอาหาร เสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกัน ช่วยให้กระดูกแข็งแรง และยังดีต่อหญิงตั้งครรภ์และทารกในครรภ์ เพราะอุดมไปด้วยโฟเลต ซึ่งเป็นวิตามินที่สำคัญต่อหญิงตั้งครรภ์และทารกในครรภ์ ที่ช่วยเสริมสร้างกล้ามเนื้อและพัฒนาการของทารกในครรภ์ และอาจช่วยป้องกันโรคทางระบบประสาทในทารกแรกเกิดได้

WM
ขอบคุณภาพจาก: https://www.freepik.com/author/mrsiraphol

5. คะน้า
เป็นผักที่มีโพแทสเซียมที่สามารถช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดโรคความดันโลหิตสูง และโรคหลอดเลือดหัวใจ มีวิตามิน แร่ธาตุ ไฟเบอร์ และสารต้านอนุมูลอิสระ เป็นผักที่ช่วยลดความเสี่ยงการเกิดโรคเบาหวานชนิดที่ 2 ช่วยลดความเสี่ยงมะเร็ง และส่งเสริมการทำงานของระบบย่อยอาหาร สุขภาพตา กระดูก ผม และผิว แต่หากกินคะน้ามากเกินไป อาจส่งผลต่อการทำงานของต่อมไทรอยด์ได้ โดยเฉพาะในผู้ที่มีภาวะต่อมไทรอยด์ทำงานน้อย และผู้ที่เป็นโรคไต ดังนั้น จึงควรจำกัดการกินคะน้า เนื่องจากคะน้ามีโพแทสเซียมสูง และหากกินโพแทสเซียมมากเกินไปอาจส่งผลให้ไตทำงานหนัก และอาจเป็นอันตรายถึงชีวิตได้ รวมถึงผู้ที่รับประทานยาต้านการแข็งตัวของเลือด เช่น คูมาดิน (Coumadin) วาร์ฟาริน (Warfarin) เนื่องจากคะน้ามีวิตามินเคที่ช่วยให้เลือดแข็งตัว ซึ่งอาจส่งผลต่อการทำงานของยาได้

สำหรับใครที่ชื่นชอบผักทั้ง 5 ชนิดที่ DooDiDo นำมาบอกกล่าวในวันนี้ ก็ต้องทานให้ถูกต้องให้ถูกสุขลักษณะกันะคะ ก่อนนำไปปรุงอาหารต้องล้างทำความสะอาดให้ดี เพราะในผักจะมีสารเคมีปนเปื้นมาด้วย หากล้างไม่สะอาดจะทำให้ร่างกายได้รับสารเคมี ส่งผลทำให้สุขภาพร่างกายเจ็บป่วย และอาจทำให้มีอาการคลื่นไส้ อาเจียน จนทำให้เกิดอาการอาหารเป็นพิษได้ค่ะ

ขอบคุณแหล่งที่มา : www.samyan-mitrtown.com