คริสต์มาส ทำไมถึงตรงกับวันที่ 25 ธันวาคม ของทุกปี

คริสต์มาส 1

วัน คริสต์มาส ตรงกับวันที่ 25 ธันวาคมของทุกปี มีการเล่นเพลง Jingle Bells และ Last Christmas ในห้างสรรพสินค้าและสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ ถือเป็นสัญญาณว่า “คริสต์มาส2023” ใกล้จะมาถึงแล้ว แม้ว่าเทศกาลนี้จะเป็นส่วนหนึ่งของวัฒนธรรมตะวันตกแต่ก็มีอิทธิพลต่อการท่องเที่ยวเช่นกัน ช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจทั่วโลก กลายเป็นช่วงเวลาแห่งการพักผ่อนที่ผู้คนออกมาเฉลิมฉลองกัน คุณเคยสงสัยหรือไม่ว่าเทศกาลนี้มาจากไหน ไขข้อสงสัยของคุณด้วยเรื่องน่ารู้เกี่ยวกับคริสต์มาส

คริสต์มาส 2

  1. ความหมายของคำว่า “คริสต์มาส”

วันคริสต์มาส (อังกฤษ: Christmas) เป็นวันที่จัดขึ้นเพื่อเฉลิมฉลองการประสูติของพระเยซู ซึ่งเป็นศาสดาพยากรณ์สูงสุดแห่งศาสนาคริสต์ ถือเป็นวันหยุดประจำปีที่ชาวคริสต์ให้ความสำคัญอย่างยิ่ง คริสต์มาสแปลว่า “การสักการะมิสซาของพระคริสต์” และได้มาจากคำว่า Christes Maesse เพราะวันคริสต์มาสเป็นวันที่ชาวคริสต์นิยมถือปฏิบัติ มวล

  1. ประวัติความเป็นมาของคริสต์มาส

แม้แต่วันคริสต์มาสก็ยังจัดขึ้นเพื่อเฉลิมฉลองการประสูติของพระเยซู แต่ในพระคัมภีร์ไม่มีบันทึกแน่ชัดว่าวันนี้เป็นวันอะไร ชาวคริสต์เชื่อว่าพระเยซูประสูติที่เมืองเบธเลเฮม แคว้นยูเดีย ในรัชสมัยของจักรพรรดิ์ออกัสตัสแห่งโรม ต่อมาในปีคริสตศักราช 274 จักรพรรดิออเรเลียนได้กำหนดวันที่ไว้ วันที่ 25 ธันวาคม เป็นวันเฉลิมฉลองเทพเจ้าแห่งดวงอาทิตย์ของโรมัน แต่คริสเตียนในจักรวรรดิโรมันถือว่าพระเยซูเป็นผู้อยู่เหนือความตาย และเป็นศาสดาสูงสุดที่พวกเขานับถือ จึงได้เฉลิมฉลองการประสูติของพระเยซูเจ้าในวันนั้นแทน มีบันทึกว่าวันคริสต์มาสที่จัดขึ้นอย่างเป็นทางการครั้งแรกจัดขึ้นในปี 336 ตั้งแต่นั้นมา วันคริสต์มาสก็ตรงกับวันที่ 25 ธันวาคม ทุกปี

  1. วัน คริสต์มาส อีฟคือวันอะไร

วันคริสต์มาสอีฟ (Christmas Eve) ตรงกับวันที่ 24 ธันวาคม ของทุกปี หรือเพียง 1 วันก่อนวันคริสต์มาส เพราะตามประเพณีของชาวคริสต์ คริสต์มาสจะเริ่มต้นในตอนเย็นของวันคริสต์มาสอีฟ โดยเด็กๆ จะแขวนถุงน่องหน้าเตาผิงและรอของขวัญจากซานตาคลอส ในตอนเช้าซึ่งเป็นวันคริสตมาส สมาชิกในครอบครัวจะอยู่ด้วยกัน ทำกิจกรรมและรับประทานอาหารเย็นมื้อพิเศษร่วมกัน เมนูอาหารที่พลาดไม่ได้คือไก่งวงและเครื่องดื่มนานาชนิด

  1. ประวัติซานตาคลอส ชายชราใจดีที่เด็กๆ ทั่วโลกรอคอย

รูปภาพของชายชราอ้วนสวมเสื้อสีแดงมีหนวดเคราสีขาว มาพร้อมกับรถลากเลื่อนและกวางเรนเดียร์จมูกแดง หรือที่รู้จักกันในชื่อ “ซานตาคลอส” ได้กลายเป็นอีกภาพหนึ่งของคริสต์มาส ซึ่งซานตาคลอสได้รับการจำลองตามจริง “นักบุญนิโคลัส” บาทหลวงชาวตุรกี ซึ่งเป็นที่รู้จักกันอย่างแพร่หลายว่าเป็นชายที่มีจิตใจดี ต่อมาชาวฮอลแลนด์เรียกนักบุญนี้ว่า “ซินเตอร์คลาส” และคนอเมริกันเรียกมันว่า “ซานตาคลอส” ซึ่งคนนิยมเรียกกันทั่วโลกจนถึงปัจจุบัน มีเรื่องเล่าว่า ในสมัยที่นักบุญนิโคลัสยังมีชีวิตอยู่ ครั้งหนึ่งพระองค์ได้ปีนปล่องไฟเพื่อมอบเหรียญเงินเป็นของขวัญให้กับบ้านของเด็กหญิงยากจนคนหนึ่ง แต่เหรียญเงินกลับตกลงไปในถุงเท้าที่แขวนอยู่หน้าเตาผิง จึงเป็นจุดเริ่มต้นให้กับเด็กๆ ผู้คนแขวนถุงน่องหน้าเตาผิงเพื่อรอของขวัญจากซานตาคลอสในวันคริสต์มาส กลายเป็นตำนานต้นกำเนิดของซานตาคลอส และแขวนถุงเท้าของคุณ รู้หรือไม่ว่าเดิมทีรูป “ซานตาคลอส” ไม่ใช่ชายสวมเสื้อคลุมสีแดงอย่างที่เชื่อกันทั่วไป แต่ในช่วงทศวรรษที่ 1930 บริษัท Coca-Cola ได้วาดภาพโฆษณาเกี่ยวกับซานตาคลอสและคริสต์มาส โดยสวมเสื้อผ้าสีแดงเหมือนกับสีของแบรนด์ จึงกลายเป็นที่มาของภาพว่าซานตาคลอสเป็นชายชราสวมเสื้อสีแดง

  1. ต้นคริสต์มาสคืออะไร

สัญลักษณ์ที่ขาดไม่ได้ในวันที่ 25 ธันวาคม คือ “ต้นคริสต์มาส” ซึ่งทำจากต้นสน เพราะเป็นต้นไม้ที่พบได้ง่ายในยุโรปและอเมริกา นิยมตกแต่งด้วยกล่องของขวัญและถุงเท้า พร้อมด้วยแสงไฟหลากสีสวยงาม แต่จริงๆ แล้วชาวคริสเตียนในสมัยโบราณเชื่อว่าต้นคริสต์มาสคือต้นไม้ในสวรรค์ที่อาดัมและเอวาได้นำผลไม้มากิน ปัจจุบันมีการใช้ต้นไม้หลายชนิด มาประดับเป็นต้นคริสต์มาส เช่น ต้นฮอลลี่ ซึ่งมีใบสีเขียวคล้ายหนามและผลไม้สีแดงสด แปลว่า มงกุฎหนามและหยดพระโลหิตของพระเยซู นอกจากนี้ยังมีต้น Poinsettia ซึ่งหลายคนเรียกว่าต้นคริสต์มาส มีใบสีแดงสดสวยงาม โดยมีประวัติว่า เด็กหญิงผู้น่าสงสารคนหนึ่งอยากจะมอบของขวัญให้กับพระแม่มารี แต่ฉันไม่มีเงินซื้อของขวัญ ทูตสวรรค์องค์หนึ่งมาปรากฏและให้เมล็ดพืชแก่เธอ เมื่อปลูกแล้วจึงกลายเป็นต้นพอยน์เซตเทีย จึงเรียกว่า “พอยเซตเทีย” มันคือ “ต้นคริสต์มาส”

บทสรุป

จะเห็นได้ว่าเทศกาลสำคัญๆ ทุกเทศกาลมีต้นกำเนิดและความสำคัญที่สะท้อนถึงประวัติศาสตร์ ความเชื่อ และวิถีชีวิต “คริสต์มาส” เป็นอีกหนึ่งเทศกาลที่มีประวัติศาสตร์ที่น่าสนใจ และผู้คนทั่วโลกต่างให้ความสำคัญ สุขสันต์วันคริสต์มาส 2023


ขอบคุณบทความอ้างอิงจาก

https://www.thairath.co.th/lifestyle/culture/1997256

ขอบคุณรูปภาพจาก

https://www.freepik.com/author/rawpixel-com

https://www.freepik.com/author/gpointstudio

ติดตามบทความอื่นๆได้ที่ https://doodido.com/