การใช้ชีวิตแบบมินิมอลจะช่วยสร้างความรู้สึก”พึงพอใจในชีวิต” คุณได้

WM

Minimalism as a lifestyle ที่ไม่ได้มีดีแค่สวย แต่ช่วยฟื้นฟูสุขภาพจิตได้ด้วย

สำหรับคำว่าที่หลายๆ คนอาจจะสงสัยว่ามันหมายถึงอะไรกันแน่ “Minimalism” หรือที่เราเรียกกันติดปากว่า ‘มินิมอล’ จริงๆ สามารถตีความได้หลายรูปแบบ แต่หนึ่งในแก่นหลักของการมีไลฟ์สไตล์แบบมินิมอลคือ ‘การบริโภคและซื้อสินค้าต่าง ๆ เท่าที่จำเป็น’ หากคุณอินกับความสวยงามของเฟอร์นิเจอร์หรือสิ่งของดีไซน์มินิมอลมาก จนซื้อของเหล่านี้เข้ามาตกแต่งบ้านแบบเยอะเกินความจำเป็น คุณอาจจะบอกว่าคุณชอบสไตล์มินิมอลได้ แต่นั่นไม่ถือว่าคุณมีไลฟ์สไตล์แบบมินิมอลซะทีเดียว

การใช้ชีวิตตามแบบ Minimalism นั้นมีข้อดีต่อสุขภาพจิตของคนเราอยู่หลายข้อด้วยความที่เราอยากเห็นทุกคนในบ้านมีสุขภาพจิตที่ดีตามแนวคิด Ever Smile เราจึงรวบรวมข้อดีของการมีไลฟ์สไตล์แบบมินิมอลมาให้คุณดูกันทั้งหมด 3 ข้อ ไปดูกันว่านอกจากความสวยงามที่ฮิตติดเทรนด์มาหลายปีแล้ว ความเป็นมินิมอลจะมีอะไรดีอีกบ้าง

WM
ขอบคุณภาพจาก: https://pixabay.com/th/users/pourquoipas-257574/

ข้อดีอันดับแรก คือการใช้ชีวิตแบบมินิมอลจะช่วยสร้างความรู้สึก ‘พึงพอใจในชีวิต’ ให้คุณได้ เมื่อคุณปรับ ​Mindset ให้อยู่ในโหมดมินิมอล นั่นหมายความว่าความรู้สึกอยากได้อยากมีของคุณจะลดลงและคุณจะพอใจกับสิ่งที่ตัวเองมีอยู่ ไม่รู้สึกว่าตัวคุณจำเป็นต้องขวนขวายอะไรมาเพิ่มเพื่อสร้างความสุขให้ตัวเอง มีงานวิจัยพบว่า คนที่มีพฤติกรรมบริโภคน้อยนั้นมีความรู้สึกพึงพอใจกับเรื่องเล็ก ๆ ที่เป็นความจำเป็นพื้นฐานของชีวิตมากขึ้นจริง ๆ

อีกหนึ่งข้อดีที่เกิดจากการอยู่ในสเปซที่โล่ง ดูสะอาดตา และไม่มีข้าวของระเกะระกะ คือการที่คุณจะรู้สึกว่า ‘สมองปลอดโปร่ง’ มากขึ้น งานวิจัยพบว่า คนที่อยู่ในบ้านที่รก จะมีระดับของฮอร์โมนคอร์ติซอลหรือฮอร์โมนความเครียดสูง นอกจากนี้ยังพบอีกว่า การอยู่ในบ้านที่มีแต่ของกลาดเกลื่อนจะทำให้คุณรู้สึกกังวลและวุ่นวายอยู่ในหัวตลอดเวลา ส่งผลให้ตั้งสมาธิได้ยาก เพราะฉะนั้น การลดการบริโภคของและทำให้สเปซของคุณมีของน้อยชิ้นจึงถือเป็นการช่วยเคลียร์ให้สมองคุณกลับมาปลอดโปร่ง ช่วยให้สามารถตั้งสมาธิและใช้ความคิดได้ดีมากขึ้น

WM
ขอบคุณภาพจาก: https://pixabay.com/th/users/tianya1223-4833799/

มื่อคุณใช้ชีวิตแบบมินิมอล แน่นอนว่าข้าวของต่าง ๆ ในบ้านของคุณก็จะน้อยลงไปโดยปริยาย ทำให้บ้านไม่รกหรือเต็มไปด้วยกองข้าวของที่มองไปทางไหนก็ไม่สบายตา ซึ่งตรงนี้สามารถช่วยให้จิตใจคุณ ‘สงบ’ ได้มากขึ้น เนื่องจากมีงานวิจัยพบว่า การอยู่ในสภาพแวดล้อมที่เป็นระเบียบเรียบร้อยจะเป็นการเสริมสร้างพลังบวกและทำให้คุณรู้สึกสงบได้มากกว่า

สรุปแล้ว การเป็น minimalist ที่แท้จริงนั้น…ก่อปัญหากับระบบเศรษฐกิจอย่างแน่นอน อันที่จริงแล้วการประหยัดเป็นสิ่งที่ดีแต่ถ้าพากันประหยัดจนเกินไป ไม่เป็นผลดีอย่างแน่นอน เอาเป็นว่าการเป็น Minimalist DooDiDo คิดว่าก็ควรจะเป็นให้ถูกต้อง เลือกประหยัดในบางส่วน เลือกบริโภคนิยมในบางส่วนน่าจะเป็นทางออกที่ดีที่สุด  หลังจากที่เราทราบข้อดีของการใช้ชีวิตแบบมินิมอล เราก็ควรปรับเปลี่ยนแนวคิดและการเลือกบริโภคแบบมินิมอล เป็นการใช้ชีวิตไลฟ์สไตยังช่วยให้สุขภาพจิตของเราดีขึ้นอีกด้วย

ขอบคุณข้อมูลจาก: https://pixabay.com