ภัยร้ายประจำเดือนมามากกว่าปกติ เป็นสัญญาณเตือนอะไรได้บ้าง?
หากประจำเดือนมามากเกินไป อาจเกิดจากความผิดปกติของระบบอวัยวะสืบพันธุ์
ประจำเดือนมามากและหลายวันเกินไป อาจทำให้เป็นโรคโลหิตจางได้ อาการที่เด่นชัดคือ เพลีย เหนื่อยง่าย มีเสียงในหู ใจสั่น หรือผู้หญิงที่ปวดประจำเดือนมาก หรือประจำเดือนมาผิดปกติบ่อยๆ อาจจะมีเนื้องอกในมดลูก และเป็นหมัน ซึ่งส่งผลต่อร่างกายทำงานผิดปกติความผิดปกติเกี่ยวกับประจำเดือนที่พบบ่อยๆ คือ ไม่มีประจำเดือนหรือประจำเดือนไม่มา กับประจำเดือนมามากเกินไป อาจเกิดจากความผิดปกติของระบบอวัยวะสืบพันธุ์ เพื่อลดความเสี่ยงต่อการเป็นมะเร็งปากมดลูกที่เป็นสาเหตุของโรคร้ายที่ทำให้ผู้เสียเสียชีวิตจำมาก ปากมดลูก ว่ามีก้อน แผล หรือติ่งเนื้อหรือไม่ ทำการเก็บเซลล์จากปากมดลูกเพื่อตรวจว่าติดเชื้อหรือมีการอักเสบหรือไม่ ทั้งหมดนี้เกี่ยวโยงกับ มดลูก ของเราที่ทำงานผิดปกติ
จากประจำเดือนที่เคยมา 4-5 วัน ก็มายาวนานขึ้น จากการเปลี่ยนผ้าอนามัยวันละ 2-3 ครั้ง ก็ต้องเปลี่ยนบ่อยขึ้น ตลอดจนลิ่มเลือดที่ไหลออกมาพร้อมเลือดประจำเดือน ก็มีขนาดใหญ่มากขึ้น ลักษณะประจำเดือนผิดปกติที่เกิดขึ้นนี้จะอันตรายไหม หรือนี่จะเป็นสัญญาณเตือนของเนื้องอกหรือมะเร็งหรือเปล่า หยุดคาดเดาคำตอบ…แล้วให้แพทย์ตรวจวินิจฉัยหาสาเหตุที่แท้จริง!!
ประจำเดือนมามากแบบไหน “ไม่ปกติ”
- ประจำเดือนมามากกว่า 7 วัน
- ระหว่างวันประจำเดือนมามากจนต้องเปลี่ยนผ้าอนามัยทุกๆ ชั่วโมง
- ต้องเปลี่ยนผ้าอนามัยระหว่างนอนหลับตอนกลางคืน
- อายุเข้าสู่เลข 5 หรือใกล้เข้าวัยทอง แต่ประจำเดือนกลับมามากกว่าปกติแทนที่จะน้อยลง
สาเหตุที่ทำให้ประจำเดือนมามาก
- ฮอร์โมนไม่สมดุล
เมื่อฮอร์โมนเอสโตรเจนทำงานผิดปกติ เกิดการสร้างเยื่อบุโพรงมดลูกมากเกินไปหรือหนาเกินไป กระบวนการลอกตัวของเยื่อบุโพรงมดลูกเพื่อกลายเป็นเลือดประจำเดือน…จึงมากตามไปด้วยนั่นเอง
- ปัญหาเกี่ยวกับมดลูก
เพราะมดลูกมีความเกี่ยวโยงกับประจำเดือน หากเกิดความผิดปกติขึ้นที่มดลูก ไม่ว่าจะเป็นเนื้องอกในมดลูก, อุ้งเชิงกรานอักเสบ, เยื่อบุโพรงมดลูกเจริญผิดที่, ติ่งเนื้อบริเวณปากมดลูก หรือมะเร็งบางประเภท เช่น มะเร็งปากมดลูก, มะเร็งมดลูก หรือมะเร็งรังไข่
- ผลข้างเคียงจากการรักษาหรือการใช้ยา
ประจำเดือนมามากผิดปกติ อาจเป็นผลข้างเคียงที่เกิดจากการรักษา เช่น การใช้ฮอร์โมน การให้เคมีบำบัด การใส่ห่วงคุมกำเนิด รวมไปถึงการใช้ยาต้านเกล็ดเลือดหรือยาละลายลิ่มเลือด หรือการทานยาคุมกำเนิด
- ประสบปัญหาเกี่ยวกับโรคต่างๆ
การทำงานของร่างกายที่บกพร่องหรือโรคบางอย่าง สามารถส่งผลต่อการมีประจำเดือนมากผิดปกติได้ เช่น เนื้องอกต่อมใต้สมอง, ต่อมไทรอยด์ทำงานผิดปกติ, โรคเกี่ยวกับการแข็งตัวของเลือด เช่น ภาวะเกล็ดเลือดต่ำ ฮีโมฟีเลีย, โรคเกี่ยวกับตับหรือไต ที่มีผลต่อกลไกการห้ามเลือด รวมไปถึงการติดเชื้อในช่องคลอดหรือมดลูก โดยอาจมีอาการตกขาวมากร่วมด้วย
ประจำเดือนมามากจะอันตรายไหม…รู้ได้ด้วยการตรวจนี้
- ตรวจภายใน
แพทย์จะตรวจดูช่องคลอด ปากมดลูก ว่ามีก้อน แผล หรือติ่งเนื้อหรือไม่ ร่วมกับการเก็บเซลล์จากปากมดลูกเพื่อตรวจหาการติดเชื้อหรือการอักเสบ ตลอดจนคลำตรวจมดลูกและรังไข่ว่ามีขนาดปกติหรือไม่ กดแล้วเจ็บไหม หรือพบก้อนผิดปกติหรือเปล่า
- อัลตราซาวด์
หากแพทย์วินิจฉัยเบื้องต้นแล้วพบความผิดปกติที่มดลูกหรือรังไข่ การอัลตราซาวนด์จะช่วยให้การวินิจฉัยแม่นยำขึ้น โดยสามารถอัลตราซาวนด์ได้ทั้งทางหน้าท้องและทางช่องคลอด
เพราะประจำเดือนมีความสัมพันธ์กับ “มดลูก” ที่เป็นอวัยวะสืบพันธุ์สำคัญของผู้หญิง ความผิดปกติของประจำเดือน ไม่ว่าจะมามากเกินไป มากระปริดกระปรอย มาขาดๆ หายๆ หรือการปวดท้องประจำเดือนที่มากจนต้องหยุดงาน อาจเป็นสัญญาณเตือนโรคร้ายหรือใครเริ่มทีประจำเดือนในช่วง 2 ปีแรกของการมีประจำเดือน มักจะมีมาไม่สม่ำเสมอ เพราะการผลิตฮอร์โมนยังไม่สมดุล ดังนั้นหากมีอาการประจำเดือนมามากผิดปกติ รวมถึงอาการปวดประจำเดือน รอบเดือนมาๆ หายๆ หรือตกขาวมามาก DooDiDo แนะนำให้ควรรีบไปพบแพทย์เพื่อตรวจวินิจฉัยอย่างละเอียดกันนะค่ะ
ขอบคุณแหล่งที่มา: www.phyathai.com