7 วิธีรับมือเพื่อเอาชนะ “คำดูถูก” ของคนรอบข้าง

คนที่ชอบใช้คำพูดดูถูกคนอื่น ส่วนใหญ่มีปมอยู่ในใจที่อยากได้ใคร่มีมากกว่าคนอื่น

เป็นธรรมดาที่ต้องร่วมงานหรือต้องพบเจอกับคนหมู่มากย่อมต้องมีการจับกลุ่มพูดคุยกัน และในกลุ่มนั้นก็มักจะมีบุคคลอยู่ประเภทหนึ่ง ที่คอยพูดจาแซะผู้อื่น ใช้คำพูดที่ดูถูกให้เราต้องเสียความรู้สึก ใช้คำพูดเสมือนดาบที่ไปทิ่มแทงใจผู้อื่น เพื่อให้ตัวเองรู้สึกว่าอยู่เหนือกว่า และเราหลีกเลี่ยงคำพูดแย่ ๆ เหล่านั้นจากคนในสังคมไม่ได้ วันนี้เรามีวิธีการเอาชนะคำดูถูกของคนรอบข้างของพวกเขาเหล่านั้นมาฝากค่ะ

มนุษย์ที่ชอบใช้คำพูดวิพากษ์วิจารณ์ผู้อื่น หรือ ดูถูกคนอื่นนั้น ส่วนใหญ่แล้วมีปมอยู่ในใจที่อยากได้ใคร่มีมากกว่าคนอื่น เลยพยายามที่จะกดให้คนอื่นต่ำลงเพื่อให้ตนเองดีขึ้น บางครั้งก็ทำให้ปมของผู้อื่นกลายเป็นเรื่องสนุกสนานเพื่อให้ตนเองเด่นขึ้นมา ซึ่งพฤติกรรมเหล่านี้ล้วนแล้วแต่เป็นพฤติกรรมที่สร้างความทุกข์ให้กับผู้อื่น แต่การดูถูกคนอื่นนอกจากใช้คำพูดหยาบคายไม่สร้างสรรค์แล้ว ยังมาในรูปแบบของคำที่เหมือนจะชมด้วยเช่นกัน มื่อสังคมเต็มไปด้วยคนที่ชอบดูถูกคนอื่นให้เกียรติกันด้วยทรัพย์สินและสถาบันการศึกษา ก็คงถึงเวลาแล้วที่เราต้องรับมือกับมนุษย์จอมดูถูก ที่คำพูดของพวกเขาจะไม่มีผลต่อเราอีกต่อไป

1.เมื่อเจอการดูถูกซึ่งหน้าให้หายใจลึกๆ เข้าไว้
เวลาเจอคนดูถูกซึ่งหน้า และคุณรู้สึกโกรธมากขอให้ สงบสติอารมณ์เข้าไว้ค่อยๆ หายใจอย่างช้าๆ เอาใจของคุณไปโฟกัสที่ลมหายใจ จากนั้นคุณจะรู้สึกผ่อนคลายและปล่อยวางคำพูดที่มีคนดูถูกคุณไปได้ จากนั้นค่อยฝึกที่จะรับมือในระยะยาว

2.หลีกเลี่ยงที่จะปะทะกับพวกชอบดูถูกคนอื่น
จงหลีกเลี่ยงที่จะปะทะกับพวกชอบดูถูกคนอื่น และพยายามเตือนตัวเองเข้าไว้ว่า ถ้าเราไม่ชอบให้ใครมาดูถูกเรา เราก็จะไม่ทำแบบนั้นกับใครอย่างแน่นอนเช่นกัน แต่ถ้าอยากทำให้คนที่ชอบดูถูกคนอื่นให้รู้สึกสำนึกบ้าง คุณต้องไม่ตอบโต้และแสดงให้พวกเขาเห็นว่าคำดูถูกของคนเหล่านั้นไม่มีความหมายใดๆต่อคุณเลย

3.ทำเรื่องที่เขาดูถูกคุณให้กลายเป็นเรื่องตลกไปเลย
การหัวเราะนั้นทำให้คนหลั่งสารเอนโดฟีน เมื่อเจอคนมาทำให้ไม่สบอารมณ์พูดจาดูหมิ่นเหยียดหยามตลอด ขอให้ปล่อยมันออกมาเป็นเสียงหัวเราะ และจงนึกไว้เสมอว่าไม่มีใครบนโลกนี้ที่ไม่เคยถูกดูถูก หากคุณไม่สามารถหัวเราะได้ ก็จงแสร้งว่าเรื่องที่ถูกดูถูกนั้นเป็นเรื่องตลก เพียงเท่านี้คำพูดของคนเหล่านั้นก็ทำอะไรคุณไม่ได้แล้ว

4. จงรับมือด้วยการเพิกเฉย
โดยส่วนใหญ่แล้วพวกที่ชอบสบถคำหยาบว่าคนอื่นทำเพียงเพื่อต้องการเรียกร้องความสนใจ และถ้าคุณให้ความสนใจ แถมยังเอาคำพูดของคนพวกนี้มาใส่ใจก็จะเข้าทางพวกเขาไป ดังนั้นวิธีที่ดีที่สุดคือเพิกเฉยเสีย ให้คำพูดของคนเหล่านี้เป็นแค่เรื่องเล่าที่ผ่านมา และก็จะเลยผ่านไป

5.วิธีการระยะยาวที่จะรับมือพวกชอบดูถูกคนอื่น
จงเรียนรู้ที่จะทนฟังคำพูดที่หยาบคายเหล่านั้นให้ได้หากมีคุณมาว่าคุณว่า “คุณไม่ได้เจ๋งจริง” ก็จงตอบเขาไปว่า “ใช่คุณพูดถึง ผมไม่ได้ยิ่งใหญ่อะไรจริงๆ” แต่จงจำไว้ว่านี่เป็นเพียงแค่การตอบโต้ เป็กการฝึกอย่างชาญฉลาดเพื่อรู้เท่าทันคนที่ชอบดูถูกคนอื่น

6.โฟกัสเป้าหมาย อย่างได้ไขว้เขว
หนึ่งในปัจจัยที่ส่งผลต่อชีวิตที่ปกติสุข คือ เรากำลังเผชิญกับภาวะความภูมิใจในตัวเอง การรักตัวเอง และความมั่นใจในตัวเอง ต่ำเกินมาตรฐาน จนเป็นเหตุทำให้ถ้อยคำดูถูกจากคนรอบข้างก่อตัวเป็นกำแพงสูง ปิดกั้นเป้าหมายและเส้นชัยแห่งความสำเร็จ จะดีกว่าไหมหากเรากลับมาโฟกัสกันที่เป้าหมายอย่างแน่วแน่ เพื่อทะลายกำแพงคำดูถูกเหล่านั้นให้ล้มลงเหมือนสะพานทอดยาวสู่เส้นชัย ด้วยการกลับมารักตัวเอง ภูมิใจในความเป็นตัวตนของตัวเอง และมั่นใจในพลังแห่งตัวตัวที่แท้จริงอันพร้อมทะยานไปเบื้องหน้าอย่างไม่ไขว้เขว่

7.อย่าลืม ขอบคุณ
มาถึงตรงนี้ ผมขอแสดงความยินดีกับทุกท่านที่ผ่านเรื่องราวต่าง ๆ มาได้ตั้งแต่ต้นเรื่องจนท้ายเรื่อง ขอบคุณพลังบวกจากบทความนี้ที่ส่งต่อถึงคุณทุกคน และนี่คือสิ่งที่ผมอยากจะบอกทิ้งท้ายในบทความนี้ครับ เมื่อทุกอย่างผ่านเข้ามาในชีวิต จงอย่าลืมขอบคุณ เพราะคำขอบคุณจะทำให้คุณมีมุมมองด้านบวกมากขึ้น “ปัญหาที่เราพบเจอนั้นอาจไม่ใช่ตัวปัญหา แต่วิธีการแก้ปัญหานั้นต่างหากล่ะคือตัวปัญหา คำพูดแย่ ๆ ที่เราได้ยินได้ฟังมามันอาจไม่ใช่ตัวปัญหาเลย แต่ความคิด วิธีตีความ ความรู้สึก และการตอบโต้ต่างหากล่ะคือตัวปัญหาที่แท้จริง”

ทั้ง 7 วิธีที่ DooDiDo มาบอกกล่าวกันในวันนี้ เป็นวิธีที่จะช่วยให้คุณได้รับมือกับคำพูดที่คอยบั่นทอนจิตใจจากคนที่ชอบดูถูกเรา สิ่งที่คุณต้องทำความเข้าใจคือ คนที่ชอบดูถูกคนอื่นนั้นจริง ๆ แล้ว พวกเขามีปัญหา self – esteem ในตัวเองต่ำนั่นเองค่ะ ถึงต่อให้มีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีแค่ไหน แต่ก็ไม่มีความเคารพตัวเองและต้องการได้รับพลังใจที่มาจากคนอื่น แต่เขาขาดสิ่งเหล่านั้นไป จึงทำให้เขาต้องใช้คำพูดดูถูกใคร ๆ เพื่อยกระดับใจตัวเองให้สูงขึ้นนั่นเองค่ะ

ขอบคุณแหล่งที่มา : https://faithandbacon.com, https://tonkit360.com