5 ขั้นตอนในการเปลี่ยนพฤติกรรมตัวเองให้ดีกว่าเดิม!!

WM

การเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมในระยะยาว ให้ก่อให้เกิดเป็น “นิสัย” ใหม่ 

หลายคนคิดว่านิสัยนั้นเป็นสิ่งที่คนเราไม่สามารถเปลี่ยนแปลงได้ เป็นสิ่งที่ติดตัวมาแต่กำเนิด แต่คุณเชื่อไหมคะว่านิสัยของคนเราเปลี่ยนกันได้ค่ะ เพียงแค่คุณเริ่มปรับเปลี่ยนไปทีละนิด ก็จะสามารถเปลี่ยนนิสัยให้กลายเป็นคนที่ดีขึ้นกว่าเดิมได้ วันนี้เรามีขั้นตอนในการช่วยเปลี่ยนพฤติกรรมตัวเองให้ดีขึ้นกว่าเดิมมาฝากค่ะ จะเป็นอย่างไรนั้นตามมาดูกันได้เลยค่ะ

หลายคนคงเคยมีความคิดว่าอยากจะลองทำอะไรใหม่ๆ หรือเปลี่ยนแปลงสิ่งที่เป็นอยู่ทุกวันนี้ แต่ก็ได้แค่คิดในใจว่าอยากจะทำ แต่ไม่ได้ลงมือทำสักที แล้วก็ปล่อยเวลาให้ผ่านเลยไป จนสุดท้ายก็ล้มเลิกความคิดที่อยากจะทำ เพราะอาจมีสิ่งอื่นที่น่าตื่นเต้นกว่ามาดึงดูดความสนใจไป และสุดท้ายก็ลืมเป้าหมายที่เราอยากจะทำตั้งแต่แรก การเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมในระยะยาว และก่อให้เกิดเป็น “นิสัย” ใหม่ เพื่อที่พวกเราจะได้มี “นิสัยฉลาด-นิสัยสุขภาพดี-นิสัยรวย” ใบแบบที่อยากจะเป็นกับเขาบ้าง

 

WM
ขอบคุณภาพจาก : https://unsplash.com/@wflwong

1.ยอมรับถึงการมีอยู่ของ “ปัญหา” เพื่อจะได้จัดการถูกจุด
ก่อนอื่นเลย เราต้องยอมรับให้ได้ว่า “เรามีปัญหาจริง ๆ นะ” หรือ “ปัญหาที่เกิดขึ้น มันมีอยู่จริง” ไม่อย่างนั้นก็จะไม่สามารถเปลี่ยนแปลงอะไรได้ ถ้าเอาแต่มองข้ามปัญหา ผลัดวันประกันพรุ่งไปตลอด หรือที่ฝรั่งชอบพูดว่า Sweep under the carpet แปลเป็นไทย คือ “ฝุ่นใต้พรม” ที่เรามัวแต่กวาดให้มันพ้นสายตาไป พอถึงวันที่เราอยากจะทำความสะอาด ฝุ่นก็กองรวมกันเยอะมากจนทำให้หมดกำลังใจ ซ้ำร้ายฝุ่นพวกนี้ก็จะทำให้สุขภาพเราเสียไปด้วย

อย่างน้อยการที่ได้รู้ว่าตัวเราเองมีปัญหาหรือสิ่งที่อยากจะเปลี่ยนแปลง จะเป็นจุดเริ่มต้นให้เราหันมาคิดถึงวิธีการแก้ไขปัญหานั้น เพราะถ้ามัวแต่บอกตัวเองว่าเราไม่มีปัญหาอะไร แล้วจะเกิดการเปลี่ยนแปลงขึ้นได้อย่างไรล่ะ

2.บอกลาคุณลักษณะของ “คนขี้แพ้”
ก่อนที่จะเรียนรู้ว่าคนที่ประสบความสำเร็จต้องมีคุณลักษณะเป็นอย่างไร เราลองมาดูว่าลักษณะของ “คนขี้แพ้” กันก่อนดีกว่า ว่าคนที่มักไม่ประสบความสำเร็จในการทำสิ่งต่างๆ นั้น มีลักษณะอะไรบ้างที่เหมือนกัน

คุณสมบัติเด่นอีกเรื่องของคนขี้แพ้ คือ เขามักจะมี ข้ออ้าง ตลอดเวลาไม่ว่าจะสถานการณ์ใดๆ ที่เกิดขึ้นในชีวิต เขาก็จะสามารถหาข้ออ้างมาได้เสมอ มาทำงานสายก็อ้างว่ารถติด ทำงานไม่ทันก็อ้างว่างานเยอะเกินไป แทนที่จะคิดหาวิธีในการไขปัญหา บางครั้งข้ออ้างต่างๆ นั้นก็ฟังขึ้นบ้าง ไม่ขึ้นบ้าง แต่ส่วนมากการมีข้ออ้างจะทำให้เขาเหล่านั้นเลือกที่ไม่ค้นหาสาเหตุที่แท้จริง ว่าอะไรที่ทำให้เขาไม่ประสบความสำเร็จ เพราะเขาจะคิดแต่ว่าข้ออ้าง ที่เขายกมานั่นแหละคือสาเหตุที่ทำให้ล้มเหลว สุดท้ายก็ไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง

3.กล้าที่จะลองผิด เพื่อหาวิธีที่ถูกต้องกว่า
“คนที่ไม่เคยทำผิด คือคนที่ไม่เคยทำอะไรเลย” วลีเด็ดนี้ทุกคนคงเคยได้ยินผ่านหู ดูผ่านตามาบ้าง และก็ปฏิเสธไม่ได้ว่ามันคือเรื่องจริง หากย้อนกลับไปสมัยเมื่อพวกเรายังเป็นเด็ก เราทุกคนก็เคยทำผิดพลาดกันทั้งนั้น ตั้งแต่เรื่องเล็กน้อยจนไปถึงเรื่องใหญ่โตมโหฬารมาบ้างแล้ว การได้ลงมือทำอะไรใหม่ แม้จะล้มเหลวหรือเกิดความผิดพลาดขึ้น เราก็สามารถนำประสบการณ์มาต่อยอดเพื่อเริ่มใหม่อีกครั้งในแบบที่ดีขึ้น แข็งแรงขึ้นกว่าเดิม ซึ่งเรามักจะได้ประสบการณ์และเข้าใจสิ่งต่างๆ จากการลงมือทำจริงด้วยตัวเอง มากกว่าการอ่านจากหนังสือ หรือฟังจากที่คนอื่นเล่าให้ฟัง

WM
ขอบคุณภาพจาก : https://pixabay.com/th/users/free-photos-242387/

4.หนึ่งเป้าหมายมีหลายเส้นทางให้เลือกเดิน
สถานะปัจจุบันของเราอาจจะไม่เอื้ออำนวยให้สามารถทำสิ่งที่อยากทำได้ทุกอย่าง อาจจะเนื่องด้วยเหตุผลของเวลาในการใช้ชีวิต สภาวะความเป็นอยู่ หรือแม้กระทั่งเรื่องเงิน ที่ทำให้เราคิดว่าไม่สามารถทำสิ่งที่อยากทำได้หรอก ปัญหาเหล่านั้นเป็นอุปสรรคในการเริ่มทำสิ่งใหม่ๆ ก็จริง แต่ก็ไม่ใช่ว่าจะไม่มีทางออกเลย

ซึ่งวิธีที่เหมาะสมของเราอาจจะไม่เหมือนกับของเพื่อนก็ได้ เช่นเดียวกับการเปลี่ยนแปลงตัวเองหรือการริเริ่มลองทำสิ่งใหม่ โดยให้เราลองตั้งเป้าหมายดูว่า “เราอยากจะทำอะไร” “อยากจะเปลี่ยนแปลงสิ่งใด” และ “มีวิธีใดบ้างที่จะทำได้” เพราะบนโลกนี้มีเส้นทางมากมายที่เราสามารถเลือกเดินได้เพื่อไปถึงเป้าหมายที่ต้องการ แต่เราก็ต้องเลือกเส้นทางที่เหมาะสมและเข้ากับเรามากที่สุด เพื่อที่เราจะมีกำลังใจในการออกเดินทางและเริ่มลงมือทำให้เกิดขึ้นได้จริง

5.เริ่มทำสิ่งใหม่และเปลี่ยนนิสัยด้วยทฤษฎี 21 วัน
“การทำอะไรซ้ำๆ กัน ต่อเนื่องเป็นเวลา 21 วัน จะทำให้บุคคลนั้นสามารถปรับเปลี่ยนนิสัยได้” หลายคนคงเคยได้ยินเกี่ยวกับทฤษฎีนี้มาบ้าง ซึ่งมีที่มาจาก ดร.แม็กซ์เวลล์ มอลทซ์ (Maxwell Maltz) ศัลยแพทย์ชาวอเมริกัน ที่ได้เขียนทฤษฎีนี้ลงในหนังสือ Psycho-Cybernetics เมื่อปี พ.ศ. 2503 โดยทฤษฎีได้ระบุไว้ว่า “พฤติกรรมใหม่จะตกผลึกจนกลายเป็นนิสัยใหม่ได้ก็ต่อเมื่อทำพฤติกรรมนั้นซ้ำ ๆ ต่อเนื่องกันทุกวัน เป็นเวลาอย่างน้อย 21 วัน วันละ 15 นาทีเป็นอย่างต่ำ”

ทั้ง 5 พฤติกรรมที่ DooDiDo นำมาฝากในวันนี้ เป็นสิ่งที่จะช่วยให้เพื่อน ๆ ได้ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมเพื่อนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงในชีวิต เพื่อให้มีชีวิตที่ดีขึ้นค่ะ ซึ่งการการเปลี่ยนแปลงหรือเริ่มต้นทำสิ่งใหม่ ในช่วงแรกก็อาจจะต้องฝืนเริ่มทำไปก่อนนะคะ เพราะเป็นสิ่งที่เราไม่เคยทำ ค่อย ๆ เรียนรู้ไปอย่างต่อเนื่อง ห้ามล้มเลิกกลางคันอย่างเด็ดขาด เป็นกำลังใจให้ทุก ๆ คนได้เริ่มการเปลี่ยนแปลงชีวิตนะคะ

ขอบคุณแหล่งที่มา : https://faithandbacon.com