5 โรคยอดฮิตโรคใหม่สำหรับมนุษย์เงินเดือนที่ควรระวัง!!

WM

การคิดบวกหรือมองโลกในแง่ดีจนเกินไป นำไปสู่อาการของ “โรคมองโลกในแง่บวกเกินไป”

คนในวัยทำงานมักจะต้องพบเจอกับความเครียดจนนำไปสู่การเจ็บป่วย ส่วนมากที่เรารู้คือมักจะเป็น ออฟฟิศซินโดรม ที่ส่งผลเสียต่อสุขภาพของคนทำงาน แต่ปัจจุบันที่โลกได้ก้าวหน้าไปมากขึ้น ทำให้โรคใหม่ ๆ เกิดขึ้นมาได้ เป็นสิ่งที่มนุษย์เงินเดือนทุกคนต้องระวังสุขภาพของตัวเองให้ดีค่ะ และวันนี้เราขอนำเสนอโรคยอดฮิตที่เป็นโรคใหม่สำหรับมนุษย์เงินเดือนที่ควรระวังมาฝากค่ะ

มนุษย์เงินเดือนส่วนใหญ่มักคุ้นชินกับโรคอย่าง ออฟฟิศซินโดรม (Office Syndrome) ที่มักเกิดกับคนวัยทำงานทั่วไป หรือ ภาวะหมดไฟในการทำงาน (Burnout)  แต่ทราบไหมว่า โรคสมัยนี้มีพัฒนาการไปมากแล้วทีเดียว มีโรคใหม่ ๆ ที่เกี่ยวข้องกับการใช้เทคโนโลยีในการทำงาน หรือโรคที่เกี่ยวกับเรื่องของจิตเวช มาทำความรู้จักกับ 5 โรคใหม่ ที่จะมาทำร้ายมนุษย์เงินเดือน ที่เราต้องรีบหาทางป้องกันตัวเองกัน

WM
ขอบคุณภาพจาก : https://www.freepik.com/wayhomestudio

1.TOXIC POSITIVITY โรคมองโลกในแง่บวกเกินไป
การคิดบวกเป็นเรื่องที่ดี แต่ถ้าคิดบวกหรือมองโลกในแง่ดีจนเกินไป อาจกลายเป็นพิษ และนำไปสู่อาการของโรค Toxic Positive Syndrome (โรคมองโลกในแง่บวกเกินไป) ได้ มาเช็คอาการกันสักนิดว่าคุณกำลังเข้าข่ายเป็นโรคนี้อยู่หรือเปล่า
– อาการ : ปกปิดความรู้สึกที่แท้จริงเอาไว้ จะรู้สึกผิดทุกครั้งที่มองโลกในแง่ลบ เก็บกดความรู้สึกลบไว้ในใจ ปลอบประโลมความคิดของตัวเองด้วยคำคม หรือ Quote โดนใจ และคิดแต่ว่ามีคนที่แย่กว่าเรานะ
– รักษา : สามารถรักษาได้ด้วยตัวเอง พยายามปรับความคิดให้มองทุกเรื่องใน 2 แง่มุม ทั้งด้านลบและด้านบวก เราสามารถมีเรื่องเครียดได้หรือมองโลกในแง่ลบได้ แต่อย่าเก็บกดเอาไว้ในใจคนเดียว ให้พูดหรือระบายความรู้สึกออกมา จะพูดกับเพื่อนสนิท กับครอบครัว หรือกับที่ปรึกษาทางจิตก็ได้

2.PRINCE SYNDROME โรคยึดความคิดตัวเองเป็นใหญ่
Prince Syndrome หรือบางครั้งถูกเรียกว่า Princess Syndrome โรคเจ้าชาย เจ้าหญิง คือโรคยึดติดความคิดตัวเองเป็นใหญ่ โรคนี้เป็นอาการทางจิตชนิดหนึ่งที่ส่วนใหญ่ มีสาเหตุมาจากการเลี้ยงดูที่ขาดความอบอุ่นในวัยเด็ก สร้างปมให้เกิดขึ้นในวัยผู้ใหญ่
– อาการ : จะขี้โวยวาย เอาแต่ใจ อิจฉาไม่ลืมหูลืมตา หลงตัวทั้งรูปร่างหน้าตา ไปจนถึงความคิดของตัวเองว่าดีที่สุด เหยียดหยามคนอื่น ไม่สามารถยอมรับความคิดของคนอื่นได้
– รักษา : หากไม่หาทางรักษา อาจนำไปสู่อาการทางจิตที่รุนแรงกว่านี้ได้ ต้องแก้ไขที่ครอบครัวโดยการให้ความรักและความใส่ใจตั้งแต่เด็ก การรักษาที่ดีที่สุดคือครอบครัวบำบัด ต้องคอยรับฟัง ให้กำลังใจ และไม่ส่งเสริมอาการหลงตัวเอง หรือเหยียดหยามผู้อื่น

3.MISOPHONIA โรคเกลียดเสียง
โรคนี้ สมองส่วน Amygdala จะรับรู้เสียงไวกว่าปกติ ไม่ว่าจะเป็นเสียงเคี้ยว เสียงหาว เสียงผิวปาก เสียงขูดเล็บ สมองจะตีความว่าเสียงที่ได้ยินเป็นเสียงที่อันตราย และสมองสั่งให้เกลียดเสียงที่ได้ยิน
– อาการ : รู้สึกรำคาญ หงุดหงิด โมโหเมื่อได้ยินเสียง แม้แต่เสียงผิวปาก
– รักษา : ทำจิตให้สงบ ไม่หงุดหงิดกับเรื่องใดง่าย ๆ ให้พยายามคลายความหงุดหงิด โดยไปสนใจเรื่องอื่น หรือโทรหาเพื่อน เดินหนีจากเสียงที่ทำให้หงุดหงิด อย่าไปโฟกัสเสียงที่ได้ยิน และถ้าไม่ดีขึ้น ท้ายที่สุดให้ปรึกษาจิตแพทย์

WM
ขอบคุณภาพจาก : https://www.freepik.com/wayhomestudio

4.STUDENT SYNDROME โรครอ Deadline
โรคที่มนุษย์เงินเดือนเป็นกันมาก ไม่เห็น Deadline ไม่หลั่งน้ำตา จริง ๆ แล้วโรค Student Syndrome แต่ก่อนมักเกิดกับเด็กนักเรียนที่ถ้าไม่ถึงกำหนดส่งงานหรือการบ้านจะยังไม่ลงมือทำ แต่ปัจจุบันโรคนี้เป็นกันมากในกลุ่มของมนุษย์เงินเดือน จะด้วยความขี้เกียจ หรือจะด้วยงานที่ล้นมือก็ตาม มนุษย์เงินเดือนส่วนใหญ่จึงมักนั่งปั่นงานก่อนส่งแค่วันเดียว บางคนก็เรียกว่าโรคผลัดวันประกันพรุ่ง
– อาการ : ขาดความกระตือรือร้นจนกระทั่งนาทีสุดท้ายก่อนต้องส่งงานตามกำหนด สรรหาข้ออ้างตลอดเวลาที่จะผลัดวันประกันพรุ่ง
– รักษา : แทนที่จะผลัดวันประกันพรุ่ง ลองมาให้เวลากับการค้นคว้าหาข้อมูลเพื่อทำให้งานชิ้นนั้นออกมาดีที่สุด ลองลงมือทำเลยดีกว่ารอทำ แม้งานที่ทำส่งก่อนเวลาอาจไม่ดีที่สุด แต่เราก็สามารถทำสำเร็จลงได้ แถมยังมีเวลาเหลือให้แก้ไขได้อีกด้วย

5.TEXT NECK SYNDROME โรคหมอนรองกระดูกทับเส้นประสาทส่วนคอ
โรคเก่าที่เอามาเล่าใหม่ Text Neck Syndrome หรือหมอนรองกระดูกทับเส้นประสาทส่วนคอ อันมีสาเหตุหลักมาจากสังคมก้มหน้า หมกมุ่นกับการใช้งานโทรศัพท์มือถือนานจนเกินไป ก้มลงทุก ๆ 15 องศา ทำให้คอต้องรับน้ำหนักมากขึ้นถึง 25 กิโลกรัม ทำให้เกิดการปูด แตก และเคลื่อนของหมอนรองกระดูกจนไปกดทับเส้นประสาทส่วนคอ
– อาการ : ปวดเรื้อรังที่บริเวณต้นคอ บ่า ไหล่ หรือสะบัก หนักเข้าจะมีอาการชาตามมือ แขนและมืออ่อนแรง
– รักษา : งดใช้โทรศัพท์ต่อเนื่องเป็นเวลานานเกินกว่าวันละ 10 ชั่วโมงรวมทั้งการนั่งก้มหน้ากดโทรศัทพ์ ควรหมั่นเปลี่ยนอิริยาบถบ่อย ๆ หากอาการเป็นมากต้องทำการผ่าตัด

ทั้ง 5 โรคที่ DooDiDo นำมาบอกกล่าวในวันนี้เป็นโรคใหม่ที่มนุษย์เงินเดือนต้องคอยระวังค่ะ สามารถป้องกันได้โดยการใช้ตัวช่วยเพื่อลดอาการเจ็บป่วยลงด้วยการขยับร่างกายบ่อยครั้งเพื่อเปลี่ยนอิริยาบถ พยายามอย่านั่งท่าเดิมเป็นเวลานาน ที่สำคัญอย่าลืมดูแลสุขภาพใจของตัวเองด้วยนะคะ เพื่อจะได้ไม่ต้องเครียด จะช่วยลดปัญหาสุขภาพกายและสุขภาพใจได้ค่ะ

ขอบคุณแหล่งที่มา : https://th.jobsdb.com