5 เคล็ดลับล้างผักและผลไม้ให้สะอาด ป้องกันสารพิษตกค้าง

ล้างผักและผลไม้ด้วยน้ำส้มสายชู จะสามารถลดปริมาณสารปนเปื้อนได้

ผักผลไม้ที่เราเลือกซื้อมารับประทานเพื่อให้ได้ประโยชน์แก่ร่างกายนั้น ก่อนจะนำมาปรุงอาหารหรือรับประทานนั้นควรจะนำมาล้างให้สะอาดก่อนทุกครั้งนะคะ เพราะผักและผลไม้เหล่านี้ผ่านสารเคมีมามาก หากเราไม่ล้างให้สะอาดก่อนทานเข้าไป จะทำให้ร่างกายได้รับสารพิษตกค้างมากกว่าที่จะได้รับวิตามินที่อยู่ในผักและผลไม้ วันนี้เราจะพามาดูเคล็ดลับในการล้างผักและผลไม้ให้สะอาด ป้องกันสารพิษตกค้างกันค่ะ

สารพิษตกค้างในผัก และผลไม้ ไม่ได้มีแค่ยาฆ่าแมลง หรือยาปราบวัชพืช แต่ยังรวมถึงเชื้อโรค เชื้อแบคทีเรียต่างๆ ที่มาจากมูลสัตว์ เช่น เชื้อเอสเชอริเชีย โคไล หรือเชื้ออีโคไล (Escherichia coli) และเชื้อซาลโมเนลลา (Salmonella) ซึ่งเป็นเชื้อแบคทีเรียที่ทำให้ท้องเสีย หรือติดเชื้อในทางเดินปัสสาวะ นอกจากนั้น ในดินเพาะปลูกยังอาจมีสารพิษตกค้างหลงเหลืออยู่อีกด้วย หากนำผักผลไม้มาปรุงอาหารโดยที่ไม่ล้างให้สะอาด โดยเฉพาะอาหารที่ไม่ได้ผ่านการปรุงสุก ก็มีสิทธิที่คนกินจะได้รับสารพิษเหล่านั้นเข้าไปในร่างกาย แม้เพียงเล็กน้อย แต่ก็อาจทำให้บางคนเกิดอาการไม่พึงประสงค์ เช่น คลื่นไส้ อาเจียน หรือเวียนหัวได้

1. ล้างด้วยน้ำสะอาด
เปิดน้ำให้ไหลผ่าน ผักผลไม้ ประมาณ 5 นาทีขึ้นไป ปล่อยให้น้ำไหลออกจากภาชนะเรื่อยๆ แล้วใช้มือถูล้างผักและผลไม้ ถ้ามีใบติดกันเป็นชั้นๆ เช่น ผักกาด ให้เด็ดส่วนใบแยกออกจาดกัน แล้วนำไปแช่น้ำสะอาดประมาณ 15 นาทีค่ะ

2. ล้างด้วยเบคกิ้งโซดา (โซเดียมไบคาร์บอเนต)
นำเบคกิ้งโซดา 1/2 ช้อนโต๊ะ ผสมกับน้ำ 10 ลิตร แล้วแช่ผักผลไม้ทิ้งไว้ประมาณ 15 นาที จากนั้นล้างออกด้วยน้ำสะอาดอีก 2-3 ครั้ง เพื่อล้างสารต่างๆ ออกให้หมด โดยการใช้เบคกิ้งโซดาสามารถลดการปนเปิ้อนได้มากถึง 90 – 95% เนื่องจากเบคกิ้งโซดามีฤทธิ์เป็นด่าง จึงสามารถใช้กำจัดเชื้อไวรัสได้ แต่ถ้าหากได้รับเบกกิ้งโซดาในปริมาณที่มากเกินไป อาจทำให้เกิดอาการท้องเสียได้ จึงต้องใช้น้ำสะอาดล้างออกให้หมดค่ะ

3. ล้างด้วยการแช่ด่างทับทิม
นำด่างทับทิม 20 – 30 เกล็ด ผสมกับน้ำ 4 ลิตร นำผักผลไม้ลงไปแช่ทิ้งไว้ประมาณ 10 นาที แล้วล้างออกด้วยน้ำสะอาด แต่ระวังอย่าใช้ด่างทับทิมในปริมาณมากเกินไป เพราะจะเป็นอันตรายต่อระบบหายใจ และระบบทางเดินอาหาร แถมผักผลไม้ของเราอาจจะเหี่ยวกว่าปกติด้วยค่ะ

4. ล้างด้วยน้ำส้มสายชู
ผสมน้ำส้มสายชู 1 ช้อนโต๊ะ กับน้ำ 10 ลิตร แล้วนำผักผลไม้แช่ทิ้งประมาณ 10 – 15 นาที แล้วล้างออกด้วยน้ำสะอาดอีกครั้ง จะสามารถลดปริมาณสารปนเปื้อนได้ แต่ไม่ควรแช่ผักและผลไม้ในน้ำส้มสายชูเป็นเวลานานเกินไป เพราะจะทำให้ผักและผลไม้รสชาติเปลี่ยนได้ค่ะ

5. ล้างด้วยน้ำเกลือ
นำเกลือ 1 ช้อนโต๊ะ ผสมกับน้ำ 5 ลิตร แล้วนำผักผลไม้แช่ทิ้งไว้ประมาณ 10-15 นาที แล้วล้างออกอีกครั้งด้วยน้ำสะอาด เป็นวิธีที่ใช้วัตถุดิบง่ายๆ ในครัวเรือน แต่วิธีนี้ไม่เหมาะสำหรับผู้ป่วยเป็นโรคไต หรือผู้ที่ต้องหลีกเลี่ยงอาหารรสเค็มนะคะ เพราะเกลืออาจทำให้ผักและลไม้บางชนิดเปลี่ยนรสชาติไปได้

ผักและผลไม้ที่เราซื้อตามท้องตลาดและห้างสรรพสินค้า ล้วนก็มีสารเคมีที่ป้องกันแมลงกัดแทะ ก่อนที่เราจะนำมาปรุงอาหารหรือรับประทาน เราจำเป็นต้องล้างให้ดี ล้างให้สะอาด เพื่อที่จะได้ไม่เจอสารพิษที่ตกค้าง DooDiDo เพราะหากเราได้รับสารพิษที่อยู่ในผักและผลไม้เข้าไป จะทำให้ร่างกายมีอาการป่วย หรือคลื่นไส้ อาเจียนได้นั่นเอง

ขอบคุณแหล่งที่มา : www.ofm.co.th, https://food.trueid.net