5 นิสัยของคนที่มีความมั่นคั่งทางอารมณ์ ชีวิตเต็มไปด้วยความสุข

WM

การให้โดยไม่หวังสิ่งใดตอบแทนย่อมดีต่อใจของผู้ให้ ช่วยเพิ่มพูนความมั่นคั่งทางอารมณ์ของคุณขึ้นไปอีก 

เคยสงสัยกันไหมคะว่าทำไมบางคนถึงมีชีวิตที่เต็มไปด้วยความสุข ในขณะที่บางคนก็เต็มไปด้วยความทุกข์และความเครียดในชีวิต นั่นป็นเพราะคนที่มีแต่ความทุกข์นั้นไม่สามารถจัดการกับความคิด ความเครียดที่เกิดขึ้นในชีวิตได้ จึงส่งผลทำให้ชีวิตต้องวนเวียนอยู่กับความคิดลบ หาทางพบเจอกับความสุขได้ยาก วันนี้เราจะพาเพื่อนๆ มาดูนิสัยของคนที่มีความมั่นคั่งทางอารมณ์ ชีวิตเต็มไปด้วยความสุขกันค่ะ

อยากมีอะไรมากกว่ากัน “ความมั่งคั่งทางการเงิน” หรือ “ความมั่งคั่งทางอารมณ์”? คุณอาจไม่เคยสังเกต แต่ว่าการมีความเข้มแข็งทางด้านอารมณ์และตอบสนองใช้ประโยชน์จากอารมณ์อย่างถูกวิธีนั้น มีคุณค่ายิ่งกว่าการมีบัญชีเงินฝากเป็นไหนๆ หากคุณยังไม่ปักใจเชื่อละก็? งั้นลองมาศึกษา 5 ลักษณะนิสัยของเหล่าคนที่มีความมั่นคั่งทางอารมณ์ ที่อาจจะทำให้คุณต้องเปลี่ยนความคิดว่า อะไรกันแน่คือความหมายของการมีชีวิตที่ดี

WM
ขอบคุณภาพจาก : https://www.freepik.com/lookstudio

1.พวกเขาคิดบวกอยู่เสมอ
การจะมั่งคั่งในด้านใดก็ตาม สุขภาพกายและจิตที่ดีคือสิ่งที่สำคัญเป็นอันดับแรกเสมอ เพราะฉะนั้น คุณเองก็ควรจะดูแลสุขภาพจิตของตัวเองให้ดีเช่นกัน นั่นหมายความว่า คุณต้องป้อนแต่สิ่งดีๆ ให้กับตัวเอง โฟกัสที่ความคิดบวกที่จะช่วยให้เกิดความเจริญก้าวหน้า ไม่ใช่ความคิดลบหรือความวิตกกังวล ที่มีแต่จะบั่นทอนจิตใจ ซ้ำยังไปขัดขวางความเจริญก้าวหน้าอีก

2.พวกเขาคือนักลงทุนทางอารมณ์
คุณกำลังมองหาวิธีปลูกต้นไม้เงินต้นไม้ทองอยู่หรือเปล่า? แย่หน่อยที่การลงทุนทางลัดเช่นนั้นไม่มีทางเป็นจริง แต่คนที่มีความมั่งคั่งทางอารมณ์นั้นรู้ดีว่า การลงทุนกับข้อดีที่ตนมีอยู่ให้เกิดประโยชน์ ด้วยการตั้งใจช่วยเหลือและปลูกฝังให้ผู้อื่นมีความมั่งคั่งทางอารมณ์ด้วยนั้น คือการได้เห็นผลของมันกำลังงอกเงยทำให้คุณเองเติบโตไปด้วยเช่นกัน ยิ่งไปกว่านั้นคุณจะพบว่ามีคนที่ได้รับประโยชน์จากการลงทุนทางอารมณ์จากคุณ มีมากมายยิ่งขึ้นกว่าที่คุณคิดไว้เสียอีก

3.พวกเขาคือคนที่พร้อมจะเสี่ยง
ผู้คนที่ประสบความสำเร็จในอาชีพและความสัมพันธ์นั้น ไม่ได้เป็นเพราะพวกเขาเลือกความปลอดภัยไว้ก่อนแน่ๆ แต่พวกเขารู้ดีว่าอย่างไรก็ต้อง “เสี่ยง” เพราะการจะเป็นคนมั่งคั่งทางอารมณ์นั้น ก็ต้องมีเสี่ยงกันบ้างเหมือนกัน ด้วยการลงทุนช่วยเหลือผู้อื่นทางด้านอารมณ์โดยที่พวกเขาก็รู้ดีว่า มันนำมาซึ่งความเสี่ยงที่สุขภาพจิตของตนอาจจะถูกกระทบไปด้วย แต่หัวใจสำคัญก็คือ คุณต้องไม่ให้ใจมากเกินกว่าที่ตนจะรับได้ และพึงระลึกไว้เสมอว่าคุณอาจไม่มีได้อะไรกลับคืนมา แต่อย่าเพิ่งกลัวไปล่ะ เพราะประโยชน์ที่จะได้จากการยอมเสี่ยงสักหน่อยนั้น กลับคุ้มค่ายิ่ง เช่น  การมีคู่ค้าทางธุรกิจทำให้กิจการก้าวหน้า หรือมีมิตรภาพใหม่ๆ ที่เข้ามาเกื้อหนุนกันและกัน แม้แต่คู่ชีวิตคู่ที่อาจลงเอยด้วยการแต่งงานอย่างมีความสุข เอาล่ะ แล้ววันนี้คุณจะลองเสี่ยงกับการลงทุนทางอารมณ์อย่างไรดีนะ?

WM
ขอบคุณภาพจาก : https://www.freepik.com/lookstudio

4.พวกเขารู้สึกปลอดภัย
การปล้นธนาคารมันไม่ได้ง่ายเหมือนที่เราเห็นในหนังหรอก ถ้าการขโมยเงินของคนอื่นมันง่ายขนาดนั้นล่ะก็ คงไม่มีใครไปฝากเงินกับธนาคารแต่แรกหรอก ว่าไหม? และสำหรับความมั่งคั่งทางอารมณ์นั้นก็ไม่ต่างกันเลย คุณควรแบ่งใจให้แต่คนที่คุณเต็มใจจะให้ก็พอ แม้ว่าคุณอาจจะลงทุนทางอารมณ์กับใครหลายคน แต่ควรมีเพียงไม่กี่คนที่เชื่อใจเท่านั้น ที่ได้เข้าไปสัมผัสส่วนลึกของคุณ ไม่ได้หมายความว่าคุณต้องปิดกั้นตัวเองจากคนอื่นอย่างสิ้นเชิงนะ เพียงแต่คุณต้องรู้ว่าควรปล่อยให้ใครมีผลต่ออารมณ์ความรู้สึกตนเองอย่างแท้จริง และใครที่ควรถูกผลักไส

5.พวกเขาคือผู้ให้
การให้และการลงทุนนั้นไม่เหมือนกันซะทีเดียว เวลาที่คุณลงทุน เช่น การสร้างมิตรภาพ แน่นอนว่าคุณหวังจะได้รับผลตอบแทน แต่ในเวลาที่คุณให้อะไรกับใคร คุณไม่ควรหวังอะไรตอบแทนไปมากกว่าความรู้สึกดีจากการให้ เหมือนกับสำนวนที่ว่า “เป็นผู้ให้ย่อมสุขใจกว่าเป็นผู้รับ” การให้ความรัก ความเมตตา หรือความอดทนกับใครสักคน โดยไม่หวังสิ่งใดตอบแทนนั้นย่อมดีต่อใจของผู้ให้  และยังเพิ่มพูนความมั่นคั่งทางอารมณ์ของคุณขึ้นไปอีก  แม้คุณจะรู้สึกว่าไม่ได้ให้อะไรมากมาย แต่ถ้าทำด้วยเหตุผลที่ถูกต้องแล้วล่ะก็ คุณจะได้รับอะไรกลับมามากมายกว่าที่ให้ไปเสียอีก

การที่เราจะมีความสุขในชีวิตได้เราจะต้องเริ่มจากความคิดของเราเป็นอันดับแรกค่ะ โดยเริ่มจากการเปลี่ยนความคิด หันมาคิดบวกเพื่อที่คุณจะได้โฟกัสแต่สิ่งดีๆ มองแต่สิ่งที่ทำให้ชีวิตไม่ต้องเครียด จะได้ไม่ต้องวิตกกังวลกับเรื่องต่างๆ DooDiDo เพื่อที่จะได้ดำเนินชีวิตในแต่ละวันให้ดีที่สุดและพบเจอแต่ความสุขในชีวิตค่ะ

ขอบคุณแหล่งที่มา : https://sumrej.com