10 วิธีคิดที่คุณต้องดูหากอยากประสบความสำเร็จในชีวิต

WM

ตั้งเป้าหมายที่ต้องการด้วยตัวเอง แทนการทำตามที่สังคมรอบข้างกำหนดให้คุณ

หลายคนคงนึดอิจฉาที่เห็นคนอื่นประสบความสำเร็จกันใช่ไหมคะ เราเคยสงสัยไหมคะว่าทำไมคนอื่นถึงประสบความสำเร็จกันได้ ทั้ง ๆ ที่เราก็ลงมือทำแบบเขาแล้ว แต่ทำไมความสำเร็จของเรายังไม่บรรลุเป้าหมายเหมือนคนอื่นเขาซะที ซึ่งบางทีมันอาจจะไม่ใช่แค่การลงมือทำ ความสำเร็จอาจเริ่มขึ้นได้ด้วยความคิดก็เป็นได้ค่ะ วันนี้เราจะพาคุณมาดูวิธีคิดที่จะทำให้คุณก้าวไปสู่ความสำเร็จได้มาฝากค่ะ

การที่คนจะประสบความสำเร็จในชีวิตได้นั้นไม่ใช่แค่พูดก็ทำได้ แต่ต้องมีปัจจัยหลายอย่างประกอบกัน ไม่ว่าจะเป็นความอดทน ความเชื่อมั่น ความทุ่มเท รวมถึงเวลาในการฝึกฝนตัวเองอย่างต่อเนื่อง ระหว่าทางคุณอาจต้องเจอกับอุปสรรคที่ทำให้ไม่กล้าเดินหน้าต่อ แต่หากคุณมีทัศนคติที่ดีไว้ยึดถือและคอยเตือนตัวเอง ก็อาจจะทำให้คุณก้าวผ่านอุปสรรคไปสู่ความสำเร็จได้ ซึ่งวิธีคิดที่จะพาให้คุณไปสู่ความสำเร็จได้นั้นมีอะไรบ้างมาดูกันค่ะ

WM
ขอบคุณภาพจาก: https://unsplash.com/@wiesehofer

1.อย่าหนีปัญหาแต่ให้เผชิญหน้า
คนที่ประสบความสำเร็จได้จะไม่กลัวความผิดพลาดหรือล้มเหลว พวกเขาจะกล้าเผชิญหน้ากับปัญหาทุกอย่างที่เข้ามา การหลีกเลี่ยงงานที่ยาก หรืองานที่คุณคิดไปเองว่าเกินความสามารถของตัวเอง จะทำให้คุณไม่ก้าวหน้าไปไหน ถึงแม้บางทีปัญหาที่คุณไม่เคยเจอมาก่อนอาจทำให้คุณล้มเหลวในตอนแรก แต่เมื่อคุณผ่านมันไปได้ คุณจะนึกขอบคุณอุปสรรคเหล่านั้นที่ทำให้คุณได้เรียนรู้ และเป็นก้าวหนึ่งที่สำคัญสู่ความสำเร็จ

2.เชื่อในตัวเอง
ถ้าคุณยังไม่มั่นใจในตัวเองแล้วใครจะกล้าเชื่อมั่นในตัวคุณ เมื่อคุณเชื่อมั่นอย่างแรงกล้าในตัวเองหรือในสิ่งที่คุณกำลังทำอยู่ นั่นก็เท่ากับคุณประสบความสำเร็จไปแล้วครึ่งหนึ่ง ความมั่นใจในตัวเองเป็นทัศนคติที่ดีที่จะคอยป้องกันไม่ให้เป้าหมายสู่ความสำเร็จของคุณถูกสั่นคลอนเมื่อต้องเผชิญกับสถานการณ์ที่ท้าทาย ยิ่งคุณมีความมั่นใจในตัวเองมากเท่าไหร่ คุณก็จะไม่หวั่นไหวในช่วงเวลาที่เลวร้ายมากเท่านั้น

3.เลือกคบเพื่อนที่ดี
มีคนเคยบอกว่าถ้าเราเอาตัวเองไปอยู่กับคนแบบไหน เราก็จะเป็นแบบนั้น การมีเพื่อนที่ดีรายล้อมรอบข้างจะช่วยส่งเสริมให้คุณก้าวสู่ความสำเร็จได้อย่างรวดเร็ว สภาพแวดล้อมในการทำงานที่ดีจะเอื้อให้คุณพัฒนาศักยภาพของคุณได้อย่างเต็มที่เพราะคุณจะสามารถเรียนรู้สิ่งดี ๆ ได้จากพวกเขา รวมถึงขอคำปรึกษาหรือขอความช่วยเหลือจากพวกเขาได้ในยามจำเป็น เมื่อเพื่อนร่วมงานในทีมมีคุณภาพ คุณก็จะมีคุณภาพตามไปด้วย

4.เลือกเป้าหมายด้วยตัวเอง
ไม่มีใครรู้ใจเราดีเท่ากับตัวเราเอง ดังนั้นตั้งเป้าหมายด้วยตัวคุณเอง ให้คุณตั้งเป้าหมายสู่ความสำเร็จที่สอดคล้องกับศักยภาพของตัวคุณเองนอกเหนือไปจากเป้าหมายอื่น ๆ ที่ที่ทำงานหรือสังคมกำหนดบทบาทให้คุณ การเลือกเป้าหมายชีวิตส่วนตัวด้วยตัวเองจะทำให้คุณจะรู้สึกมีพลัง และมีแรงบันดาลใจในการทำตามเป้าหมายนั้นๆ

WM
ขอบคุณภาพจาก: https://pixabay.com/th/users/stocksnap-894430/

5.มีเป้าหมายและวิสัยทัศน์ที่ชัดเจน
ตั้งเป้าหมายที่ชัดเจน มีวิสัยทัศน์ที่กว้างและมองการณ์ไกลไปถึงสิ่งที่อาจจะเกิดขึ้นได้ในอนาคต แต่แค่จินตนาการในหัวอาจไม่พอ คุณต้องหาอะไรที่เป็นรูปธรรมจับต้องได้มากกว่านั้น เขียนรายการสิ่งที่คุณอยากทำ และสิ่งที่คุณทำสำเร็จแล้วลงบนกระดาษ หรือถ้าคุณถนัดวาดภาพ คุณจะจัดเต็มไอเดียในการเชื่อมโยงเป้าหมายในปัจจุบันและอนาคตของคุณก็ได้ บันทึกหรือแผนภาพดังกล่าวจะคอยย้ำเตือนคุณว่าคุณขยับไปใกล้ความสำเร็จมากแค่ไหนแล้ว

6.พร้อมรับความท้าทายใหม่ๆ
ในบางครั้งการทำในสิ่งที่ท้าทายอาจเป็นบันไดลัดไปสู่ความสำเร็จ การทำในเรื่องที่ยากจะทำให้คุณเติบโตได้อย่างรวดเร็ว การมีอุปสรรคมากั้นขวางระหว่างตัวคุณและเป้าหมาย จะทำให้คุณตระหนักได้ว่าคุณอยากไปให้ถึงความสำเร็จมากมายขนาดไหน หรือเมื่อคุณเจอทางตันและไปต่อไม่ได้ คุณจะเรียนรู้วิธีประเมินสถานการณ์ใหม่และเดินต่อไปได้ อาจจะด้วยการพลิกแพลงหนทางอื่นหรือแม้แต่การสร้างทางเดินขึ้นมาใหม่ด้วยตัวคุณเอง

7.ใส่ใจทุกรายละเอียด
การพิจารณาสิ่งที่สำคัญอย่างรอบคอบจะป้องกันไม่ให้เกิดข้อผิดพลาดที่คุณจะต้องมาตามแก้ไขในภายหลัง นั่นทำให้คุณสามารถเคลื่อนหาเป้าหมายสู่ความสำเร็จได้โดยไม่สะดุด การใส่ใจในทุกรายละเอียดในทุกเรื่องที่ทำ จะทำให้คุณรู้ตื้นลึกหนาบางของสิ่งที่คุณทำ และใช้ประโยชน์จากสิ่งเหล่านั้นได้อย่างเต็มเม็ดเต็มหน่วยมากที่สุด

8.กล้าเสี่ยงในสถานการณ์เหมาะสม
การก้าวสู่ความสำเร็จไม่มีสูตรสำเร็จที่ตายตัว ในบางครั้งคุณต้องชั่งน้ำหนักดูว่าควรตัดสินใจอย่างไรให้เหมาะสมในสถานการณ์ที่ยากลำบาก อย่างไรก็ตามการเสี่ยงนั้นต้องอาศัยข้อมูลในการประเมินสถานการณ์ที่มากเพียงพอ ไม่ใช่เสี่ยงแบบสุ่มสี่สุ่มห้า ในขณะเดียวกันถ้าคุณชอบอะไรที่มั่นคงและไม่กล้าที่จะเสี่ยง ทุกสิ่งที่คุณทำจะถูกจำกัดอยู่แค่คำว่า “พอใช้” ไม่ใช่คำว่า “ดีที่สุด”

WM
ขอบคุณภาพจาก: https://unsplash.com/@thoughtcatalog

9.ทำสิ่งที่ตัวเองรัก
การทำในสิ่งที่ตนเองรักจริง ๆ จะทำให้คุณมีแรงบันดาลใจในการก้าวสู่เป้าหมายมากกว่าสิ่งที่คุณถูกยัดเยียดหรือถูกบังคับให้ทำ เรื่องการทำงานก็เช่นกัน ถ้าคุณรู้สึกไม่ดีกับงานที่ทำอยู่ นี่เป็นสัญญาณเตือนว่ามันไม่ใช่สิ่งที่คุณรัก หรือถ้าคุณไม่มีทางเลือกอื่นก็ต้องหาแง่มุมที่คุณจะรักมันให้ได้ เพราะคุณต้องอยู่กับมันในทุก ๆ วัน หาสิ่งที่คุณรักให้เจอและทุ่มเทกับมันให้เต็มที่ แล้วคุณจะเห็นผลตอบแทนจากการทุ่มเทกับการทำงานได้ในไม่ช้า

10.เห็นคุณค่าสิ่งที่มีอยู่
รู้คุณค่าของสิ่งที่คุณมี ไม่ว่าจะเป็นความสามารถของตัวคุณ เพื่อนร่วมงานที่ดี หรือครอบครัวที่อยู่เคียงข้าง ทุกสิ่งที่คุณมีคือรากฐานสู่ความสำเร็จ ในขณะเดียวกันอย่าลืมแสดงความขอบคุณอย่างจริงใจเมื่อมีคนหยิบยื่นความช่วยเหลือให้กับคุณ ไม่ว่าสิ่งนั้นจะเล็กหรือใหญ่ ในวันหนึ่งที่คุณประสบความสำเร็จ เมื่อมองย้อนกลับมาคุณจะเห็นว่าที่คุณประสบความสำเร็จได้ส่วนหนึ่งเป็นเพราะความช่วยเหลือของพวกเขานั่นเอง

ทั้ง 10 วิธีคิดที่ DooDiDo นำมาฝากในวันนี้ เป็ยวิธีคิดท่จะช่วยให้ใครหลาย ๆ คนนำไปปรับใช้ ไปปรับความคิด เพื่อจุดเริ่มต้นในการก้าวไปสู่ความสำเร็จได้ง่าย ๆ ค่ะ เริ่มจากการฝึกมองโลกในด้านบวกค่อย ๆ ปรับมุมมองในเรื่องต่าง ๆ ของชีวิต มองหาโอกาสในปัญหาที่เข้ามา เมื่อคิดเช่นนี้ได้แล้ว ชีวิตเราก็จะเปลี่ยนแปลงในทางที่ดีขึ้นได้ค่ะ

ขอบคุณแหล่งที่มา : https://blog.jobthai.com