เทคนิคของสาวๆ กับการรักษาความงามที่ถูกวิธีและถูกต้อง!!

WM

มาดู!! เรื่องราวความงามใกล้ตัวที่สาวๆ ยังเข้าใจผิดกันอยู่

“สำหรับผู้หญิง ความงามต้องมาก่อนเสมอ” คำกล่าวนี้ดูจะเป็นที่ยอมรับและรู้สึกกันว่า “เป็นธรรมชาติ” ของผู้หญิงที่ต้องรักสวยรักงามว่ากันว่า เรื่องความสวยความงามนั้นไม่มีใครรู้ดีไปมากกว่าผู้หญิงแล้วค่ะ ไม่ว่าจะเป็นหญิงแท้หรือหญิงเทียมนั้น คุณเธอทั้งหลายมักจะมีความสามารถพิเศษในการรับรู้เรื่องราวเหล่านี้ สามารถค้นหาหลากหลายวิธีที่จะทำให้ตัวเองสวยงามอยู่เสมอ ไม่ว่าจะเป็นการดูแลความงามด้วยวิธีธรรมชาติ หรือต้องพึ่งมีดหมอเพื่อให้ได้ความสวยมาครอง แต่ยังมีอีกหลายเรื่องราวความงามใกล้ตัวที่สาวๆ มักจะเข้าใจผิดกันอยู่หลายเรื่องเลยล่ะค่ะ มาดูกันค่ะว่าจะมีเรื่องไหนบ้าง

วันนี้เราจะนำเคล็ดลับการดูแลผิวหน้าให้สวยใสอย่างที่คุณต้องการมาบอก การจัดการกับปัญหาของผิวตามที่เราแนะนำอย่างสม่ำเสมอจะช่วยให้คุณมีผิวที่สวยอย่างเป็นธรรมชาติได้ โดยเราได้รวบรวมเคล็ดลับจากผู้เชี่ยวชาญเกี่ยวกับการดูแลผิวในชีวิตประจำวันไว้ให้แล้ว และแม้ว่าคุณจะมีเวลาไม่มาก แต่คุณก็สามารถที่จะดูแลผิวได้ด้วยวิธีพื้นฐานต่างๆ ที่จะช่วยให้การดูแลผิวเป็นเรื่องง่ายได้ เราจึงควรใส่ใจดูแลสุขภาพผิวพร้อมๆกับดูแลสุขภาพภายในเราจึงขอนำเคล็ดลับในการดูแลผิวที่ถูกต้อง เพื่อความงามที่ยั่งยืนจากภายในสู่ภายนอก ด้วยเทคนิคง่ายๆ ค่ะ

WM
ขอบคุณภาพจาก: https://pixabay.com/th/users/leyajacob-3298797/

1. ลดอาการตาบวมด้วยมอยเจอไรเซอร์

เพราะมอยเจอไรเซอร์ช่วยรักษาความชุ่มชื้น และช่วยเพิ่มปริมาณน้ำให้กับผิว การทามอยเจอไรเซอร์รอบดวงตาเมื่อมีอาการตาบวม จึงอาจทำให้ตาบวมมากยิ่งขึ้น ดังนั้นหากรอบดวงตาบวมแต่ไม่แดงหรือระคายเคือง แนะนำให้ใช้น้ำแข็งประคบเป็นเวลา 10-15 นาที หรือใช้อายเจลที่มีส่วนผสมของคาเฟอีนช่วยจะดีกว่า แต่ถ้ารอบดวงตาบวมแดง และคัน สันนิษฐานได้ว่าอาจเกิดจากการแพ้ จึงควรไปพบแพทย์

2. ยารักษาสิว

เมื่อมีปัญหาสิว คนส่วนใหญ่มักเลือกใช้ยาทารักษาสิว โดยทาในปริมาณมากและบ่อย เพราะหวังว่าจะให้สิวยุบลงโดยเร็ว แต่ในความจริงแล้ว ยารักษาสิวมีฤทธิ์เป็นกรด และจะค่อยๆซึมลงสู่ผิว ซึ่งต้องใช้เวลานานเป็นชั่วโมง การทายาปริมาณมากเกินไปจึงอาจทำให้สิวปะทุมากขึ้น เกิดอาการแพ้ ผิวหนังแห้งและระคายเคือง เมือใช้ยารักษาสิวจึงควรปฏิบัติตามวิธีการใช้อย่างเคร่งครัด โดยส่วนใหญ่จะแนะนำให้ทาแค่วันละหนึ่งหรือสองครั้งเท่านั้น เพื่อป้องกันผิวแห้ง

WM
ขอบคุณภาพจาก: https://pixabay.com/th/users/pixel2013-2364555/

3. หลังแต่งตัวเสร็จต้องฉีดน้ำหอม

หนุ่มสาวหลายคนชอบฉีดน้ำหอมเป็นขั้นตอนสุดท้ายก่อนออกจากบ้าน แต่รู้หรือไม่ว่าน้ำหอมอาจทำให้เสื้อผ้าเป็นรอยด่าง แถมเส้นใยผ้ายังอาจทำให้น้ำหอมมีกลิ่นแปลกไปด้วย เพราะน้ำหอมถูกผลิตขึ้นมาเพื่อใช้กับผิวหนัง โดยความร้อนของร่างกายจะเป็นตัวกระตุ้นให้น้ำหอมส่งกลิ่นหอมตลอดทั้งวัน ดังนั้น จึงควรฉีดหรือแต้มน้ำหอมบนร่างกายก่อนแต่งตัวตรงบริเวณจุดชีพจร เช่น ข้อพับหัวเข่า ซอกคอ หลังใบหูและข้อมือ โดยไม่ต้องถูข้อมือหลังจากฉีดน้ำหอม เพราะจะเป็นการทำลายโครงสร้างโมเลกุลของน้ำหอม

4. การทาครีมบนใบหน้า

คนส่วนใหญ่มักชอบทาสารพัดครีมบำรุงผิวบนใบหน้า แต่มักละเลยผิวบริเวณลำคอที่บอบบางกว่าผิวหน้าเสียอีก ดังนั้น ถ้าไม่อยากหน้าใสคอเหี่ยว ควรดูแลผิวที่ลำคอด้วย เช่นกัน เมื่อทาครีมบำรุงผิวหน้าหรือกันแดดก็ให้ทาเลยลงมาบริเวณลำคอด้วย ยกเว้นการใช้ครีมที่มีส่วนผสมของกรดอัลฟ่าไฮดร็อกซี่ หรือเรตินอล ต้องทดสอบก่อนว่าจะไม่ทำให้เกิดอาการแพ้บริเวณลำคอ

WM
ขอบคุณภาพจาก: https://pixabay.com/th/users/huyenxu94-5033779/

5. การใช้ครีมนวดผม

ปกติเวลาสระผม สาวๆมักจะชโลมครีมนวดผมตั้งแต่โคนจรดปลายผมเหมือนการใช้แชมพู แต่แท้จริงแล้วบริเวณปลายผมต่างหากที่อ่อนแอและต้องการการดูแล ส่วนโคนผมนั้นจะแข็งแรงกว่าเพราะเป็นส่วนที่เพิ่งงอกใหม่ การชโลมครีมนวดผมตั้งแต่โคนผมจึงทำให้ผมมันและดูลีบแบน วิธีที่ถูกต้องคือ ให้ชโลมครีมนวดผมบริเวณหูลงไปจรกปลายผม จะทำให้ผมมีน้ำหนักและไม่มันง่าย จึงไม่ต้องสระผมบ่อย

6. อาบน้ำนานๆ ทำให้รู้สึกสดชื่น สะอาด

แม้ว่าการใช้เวลาเพลิดเพลินกับการอาบน้ำขัดถูร่างกายนานๆจะทำให้รู้สึกสะอาดและสดชื่น แต่ก็จะเป็นการทำลายน้ำมันหล่อเลี้ยงผิวตามธรรมชาติด้วย และหากยิ่งใช้ผลิตภัณฑ์อาบน้ำพวกใยขัดตัวหรือแชมพูยา ก็จะยิ่งมีโอกาสทำลายน้ำมันบนผิวมากขึ้น วิธีที่ดีคือ ไม่ควรอาบน้ำนานกว่า 10 นาที และควรใช้เวลาน้อยกว่านี้หากต้องการอาบน้ำอุ่น

เรา DooDiDo เชื่อว่าสาวๆ หลายคนต้องเข้าใจตาม 6 ข้อที่กล่าวมาข้างต้นอย่างแน่นอน แต่ตอนนี้เราก็รู้กันแล้วนะคะว่าสิ่งที่เราคิด เราทำกันมาตลอดนั้นมันไม่ค่อยถูกต้องสักเท่าไหร่ รู้อย่างนี้แล้วเรามาเริ่มทำความเข้าใจและปรับเปลี่ยนพฤติกรรมที่เคยทำ มาทำในสิ่งที่ถูกต้อง เพื่อความงามของสาวๆ กันนะคะ

ขอบคุณแหล่งที่มา : http://ladyblogclub.blogspot.com