สุขภาพดีได้เพียงแค่ทำกิจวัติประจำวันให้สอดคล้องกับ”นาฬิกาชีวิต”

WM

เพียงแค่ทุกคนรู้จัก”นาฬิกาชีวิต” แล้วเลือกปฏิบัติทุกคนก็จะมีสุขภาพที่ดีได้

สำหรับการดูแลสุขภาพร่างกายของเราเองนั้น อย่างไรก็มีวิธีการต่างๆมากมายเลยล่ะค่ะ โดยส่วนใหญ่แล้วก็จะเป็นในเรื่องของการทำกิจกรรมที่ผ่อนคลายและทำให้แข็งแรงอย่างการออกกำลัง เลือกทานอาหารดีๆ มีประโยชน์และนั่นก็รวมไปถึงการเลือกทานอาหารเสริมต่างๆ ด้วย หรือจะเป็นนเรื่องของการนอนหลับพักผ่อนให้เป็นเวลา แต่ทุกคนรู้มั้ยคะว่าเพียงแค่ทุกคนรู้จัก”นาฬิกาชีวิต” แล้วเลือกปฏิบัติ ทำกิจวัติประจำวันให้สอดคล้องกันกับนาฬิกาชีวิตแล้วล่ะก็ทุกคนก็จะสามารถมีสุขภาพที่ดีได้ด้วยล่ะค่ะ

คนส่วนใหญ่มักจะหันมาสนใจสุขภาพของตัวเองก็ต่อเมื่อเริ่มรู้สึกว่า ร่างกายส่วนนี้อ้วนเกินไป หรือ การทำงานของร่างกายผิดปกติไปอย่างเห็นได้ชัด แต่ก็มีคนอีกไม่น้อยที่ดูแลและใส่ใจสุขภาพตั้งแต่เนิ่นๆ ด้วยการปฏิบัติตัวให้สอดคล้องกับสิ่งที่เรียกว่า “นาฬิกาชีวิต” ซึ่งจะกำหนดทิศทางการใช้ร่างกายอย่างเหมาะสมในระยะเวลา 24 ชั่วโมง ได้ดังนี้

WM
ขอบคุณภาพจาก: https://unsplash.com/@esdesignisms

1. ช่วงเวลาระหว่าง 03.00 – 05.00 น. เวลานี้ “ปอด” จะสามารถทำงานได้เต็มประสิทธิภาพที่สุด คนที่ตื่นนอนในเวลาเหล่านี้ ควรออกมาสูดอากาศบริสุทธิ์ในยามเช้า ให้สมองได้รับออกซิเจนมากๆ นอกจากนี้ เวลาในช่วงนี้ยังดีต่อการตื่นมาอ่านหนังสือ หรือ ทำงานที่ต้องใช้สมาธิมากๆ เพราะเป็นช่วงเวลาที่สงบที่สุดและเหมาะแก่การตื่นที่สุด

2. ช่วงเวลาระหว่าง 05.00 – 07.00 น. เวลานี้ “ลำไส้ใหญ่” ควรจะขับของเสียออกจากร่างกาย เพราะเป็นช่วงเวลาที่ลำไส้ใหญ่จะทำงานได้เต็มประสิทธิภาพมากที่สุด ดังนั้น จึงเป็นเหตุผลว่าทำไม ทุกคนควรตื่นมาขับถ่ายในเวลาเช้าของวัน นอกจากนี้ ช่วงเวลานี้เอง “ฮอร์โมนคอร์ติซอล” ที่ช่วยทำให้ร่างกายกระปรี่กระเปร่าก็จะหลั่งออกมาอีกด้วย

3. ช่วงเวลาระหว่าง 07.00 – 09.00 น. เวลานี้ “กระเพาะอาหาร” จะทำงานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพที่สุด ทำให้ในเวลาเหล่านี้ในช่วงเช้า จะรู้สึกหิวอาหาร ดังนั้นก็ควรที่จะรับประทานอาหารเช้าในช่วงเวลานี้ และไม่ควรงดอาการเช้า เพราะมื้อเช้ามีความสำคัญต่อร่างกายมากที่สุด

4. ช่วงเวลาระหว่าง 09.00 – 11.00 น. เวลานี้ “ม้ามและตับอ่อน” ทำงานดีที่สุด ซึ่งม้ามจะทำหน้าที่หลั่งสารที่ช่วยในการสร้างภูมิคุ้มกัน ส่วนตับอ่อนจะผลิตเอนไซม์ในการย่อยอาหารในลำไส้เล็ก ในช่วงเวลานี้ อาจเรียกได้ว่าการเป็นย่อยอาหารและการทำงานของร่างกายอย่างกระตือรือร้น ดังนั้น ช่วงเวลานี้จึงเหมาะแก่การเริ่มทำงานที่สุด

WM
ขอบคุณภาพจาก: https://unsplash.com/@blackpoetry

5. ช่วงเวลาระหว่าง 11.00 – 13.00 น. เวลานี้ “หัวใจ” ที่มีความสำคัญต่อร่างกายมากที่สุดสามารถทำงานได้ดีที่สุด ซึ่งหัวใจจะทำหน้าที่ในการสูบฉีดเลือดไปหล่อเลี้ยงส่วนต่างๆ ของร่างกาย และตรงทำช่วงเวลาพักกลางวัน ดังนั้น หลังจากทำงานมาในช่วงเช้าก็อาจจะออกไปเดินเล่นเพื่อเป็นการพักผ่อน และยืดเส้นยืดสาย

6. ช่วงเวลาระหว่าง 13.00 – 15.00 น. เวลานี้ “ลำไส้เล็ก” จะทำงานในการย่อยอาหารที่รับประทานเข้าไป และดูดซึมสารอาหารที่ได้ย่อยเข้าสู่ร่างกายได้ดีสุด ดังนั้น ถ้าหากรับประทานอาหารในช่วงเช้า และช่วงกลางวันไม่เพียงพอ ก็อาจจะทำให้รู้สึกหิว จนส่งผลให้ต้องรับประทานจำนวนมากในช่วงเวลาเย็น

7. ช่วงเวลาระหว่าง 15.00 – 17.00 น. เวลานี้ “กระเพาะปัสสาวะ” จะทำงานอย่างเต็มประสิทธิภาพที่สุด ซึ่งนอกจากนี้ก็ยังมีอวัยวะอื่นๆที่เกี่ยวข้องอย่าง ไต ที่ทำหน้ามี่เก็บน้ำกรองที่จะทำงานไปพร้อมกัน แต่ที่สำคัญคือ ไม่ว่าจะเป็นช่วงเวลาไหน ก็ควรดื่มน้ำให้ร่างกายไม่ขาดน้ำ มิฉะนั้นอวัยวะในส่วนเหล่านี้จะทำงานผิดปกติได้

8. ช่วงเวลาระหว่าง 17.00 – 19.00 น. เวลานี้ “ไต” จะทำงานได้ดีที่สุด โดยหน้าที่ของไตคือการกรองของเสียออกจากเลือด ช่วยปรับสมดุลภายในให้แก่ร่างกาย ทำให้ช่วงวเลานี้ ควรจะดื่มน้ำสะอาดในปริมาณที่เหมาะสม และไม่ควรที่จะดื่มน้ำที่เย็นกว่าอุณหภูมิ อีกทั้งช่วงเวลานี้ ไม่ควรงีบหรือนอนหลับพักผ่อน

9. ช่วงเวลาระหว่าง 19.00 – 21.00 น. เวลานี้ “เยื่อหุ้มหัวใจ” จะทำงานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพที่สุด ทำให้ในช่วงเวลานี้ ซึ่งหลายคนหยุดจากการทำงานแล้ว ควรจะพักผ่อน หากิจกรรมเบาๆ ทำให้เกิดความผ่อนคลาย เช่น ดูโทรทัศน์ ฟังเพลง อ่านหนังสือ อาจจะสวดมนต์ หรือนั่งสมาธิ ในช่วงนี้ก่อนเข้านอน

WM
ขอบคุณภาพจาก: https://pixabay.com/th/users/malik640-20125674/

10. ช่วงเวลาระหว่าง 21.00 – 23.00 น. เวลานี้ “อวัยวะส่วนต่างๆ ควรได้พักผ่อน” ดังนั้น ในช่วงเวลานี้ ควรจะเข้านอนเพื่อพักผ่อนร่างกาย โดยเฉพาะกลุ่มเด็กจนถึงวัยรุ่นที่ควรนอนก่อนเวลา 10.00 น. เพราะช่วงเวลานี้ “โกรทฮฮร์โมน” ที่ช่วยในการเจริญเติบโตของร่างกายหลั่งออกมา อีกทั้งหากนอนในช่วงเวลานี้ ก็จะทำให้การพักผ่อนเพียงพอเมื่อต้องตื่นตอนเช้า

11. ในช่วงเวลาระหว่าง 23.00 – 01.00 น. เป็นช่วงทำงานของ “ถุงน้ำดี” ซึ่งถุงน้ำดีจะทำหน้าที่เก็บน้ำที่ได้จากตับ แล้วส่งต่อไปในการย่อยไขมันในลำไส้เล็ก และเวลาระหว่าง 01.00 – 03.00 น. เป็นช่วงเวลาทำงานของ “ตับ” ซึ่งตับจะช่วยในการขับสารพิษในร่างกาย ดังนั้นช่วงเวลาตั้งแต่ค่ำจนถึงช่วงเวลาเหล่านี้ ไม่ควร กิน ดื่ม จะดีที่สุด เพราะควรปล่อยให้ส่วนต่างๆของร่างกายได้ทำงานอย่างเต็มที่

เป็นอย่างไรล่ะคะสำหรับนาฬิกาชีวิตที่ DooDiDo รับรองว่าถ้าหากทุกคนใช้ชีวิตประจำวันให้สอดคล้องและเหมาะสมกับการทำงานของระบบอวัยวะในร่างกายแล้วล่ะก็ ทุกคนก็จะมีสุขภาพที่ดีนั่นเอง เชื่อว่าถ้าทุกคนเข้าใจแล้วทำตามอย่างสม่ำเสมอ วิธีการนี้ก็นับได้ว่าเป็นอีกหนึ่งวิธีการดูแลสุขภาพที่ดีเลยล่ะค่ะ เพราะฉะนั้นแล้วก่อนอื่นเราต้องเข้าใจเรื่องของระบบการทำงานภายในร่างกายของเราเองก่อนด้วย แล้วจากนั้นก็ปฏิบัติทำกิจกรรมดีๆ ที่เรานำมาฝากในวันนี้สิคะ แน่นอนว่าสุขภาพที่ดีก็จะมีได้กับทุกคนค่ะ

ขอบคุณแหล่งที่มา: www.ch3thailand.com