วิธีเปลี่ยนตัวเองจากเด็กฝึกงานให้เป็นพนักงาน

WM

8 วิธีเพิ่มทักษะที่ควรนำไปแลกเปลี่ยนเป็นประสบการณ์ในช่วงเวลาสั้นๆ ให้ประสบความสำเร็จ

เชื่อว่านักศึกษาหลายคนอาจที่กำลังฝึกงานคงจะหวั่นใจ กลัวว่าฝึกงานจบแล้วจะได้ทำงานที่บริษัทที่ฝึกงานอยู่หรือไม่ เพราะในช่วงเวลาสั้น ๆ ของการฝึกงานเราอาจจะม่ได้แสดงความสามารถที่เรามี ขอให้น้อง ๆ วันนี้เรามีเคล็ดลับในการใช้โอกาสทองของการฝึกงานนี้อย่างคุ้มค่าที่สุด เพื่อเปล่งประกายความสามารถที่เราามี รวมถึงคุณลักษณะของคนทำงานที่ดี เพื่อมัดใจหัวหน้า และเพื่อนร่วมงานตอนฝึกงานมาฝากค่ะ

ประเด็นสำคัญคือนอกจากการเรียนดี เรียนเก่งแล้ว ประสบการณ์การทำงานก็เป็นปัจจัยหนึ่งที่ทำให้นักศึกษาโดดเด่นออกมามากขึ้น เป็นที่สนใจของเจ้าของสถานประกอบการมากขึ้น เพราะการฝึกงานนอกจาก “ผ่าน-ไม่ผ่าน” แล้ว สิ่งที่เอาแรงงานและความรู้ทั้งหมดที่ร่ำเรียนมาไปแลกก็อาจจะรวมถึง ทักษะการปฏิบัติงาน ประสบการณ์ในที่ทำงาน และความรู้ที่มากขึ้นเกี่ยวกับอุตสาหกรรมนั้นๆ และยิ่งน้องๆ เก็บเกี่ยวตรงนี้ได้มากเท่าไร ความสว่างสดใสในตัวก็จะยิ่งเป็นที่น่าจับตามากขึ้นเท่านั้น ทักษะที่ควรนำไปแลกเปลี่ยนเป็นประสบการณ์ในช่วงเวลาสั้นๆ ที่เรียกว่า “ฝึกงาน” อันจะนำมาซึ่ง “ประสบการณ์” จนอาจจะเลื่อนขั้นไปเป็น “พนักงาน” ได้นั้น มีดังต่อไปนี้

WM
ขอบคุณภาพจาก: https://unsplash.com/@linkedinsalesnavigator

1.การสื่อสาร
ทักษะในการเขียนและพูดอย่างมืออาชีพเป็นสิ่งสำคัญ ซึ่งเจ้าของสถานประกอบการ หรือฝ่ายบุคคลจะสามารถดูทักษะการเขียนของคุณในเรซูเม่ ส่วนทักษะการพูดอาจจะมาจากการตอบคำถามต่างๆ ตั้งแต่เจอกันครั้งแรก ไม่ว่าวันนั้นจะเป็นวันสอบสัมภาษณ์หรือไม่ ความสามารถในการสื่อสารอย่างมีประสิทธิภาพ สามารถเปลี่ยนความคิดเป็นข้อมูลแล้วถ่ายทอดออกมาได้ดีเหมาะสมกับกาละเทศะถือเป็นกุญแจสำคัญในทุกสายอาชีพเลยก็ว่าได้ไม่ว่าจะเป็นกับหัวหน้างาน เพื่อนร่วมงาน หรือลูกค้าของคุณ หรือแม้กระทั่งเมื่อคุณต้องทำงานอิสระ และทุกคนต่างก็ตระหนักดีว่า การสื่อสารเป็นทักษะที่มีค่า

2.ทักษะในการทำงานร่วมกับคนอื่น
การสร้างความสัมพันธ์ที่ดีกับผู้อื่นไม่ว่าจะเป็นเด็กฝึกงานด้วยกัน พนักงาน เจ้าของ หรือลูกค้า เป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่งสำหรับการทำงานเพื่อให้บรรลุเป้าหมายเดียวกันได้ นักศึกษาฝึกงานจำเป็นต้องรู้จุดแข็งและจุดอ่อนของตัวเองเพื่อที่คุณจะได้รู้ว่าจะนำความสามารถที่มีออกมาช่วยทีมให้ผู้อื่นได้ประจักษ์อย่างไร แต่ทั้งนี้ก็ต้องมีทิ้งการเรียนรู้และฝึกฝนทักษะในด้านอื่นๆ ที่ยังไม่ชำนาญด้วย เพราะในฐานะเด็กฝึกงาน คุณอาจจะถูกส่งไปหลากหลายแผนกในบริษัท จงเก็บเกี่ยวโอกาสที่จะได้เรียนรู้งานทั้งระบบเข้าไว้ เพราะในระยะยาวมันคือประโยชน์ที่จะนำไปใช้ในการทำงานได้ตลอดชีวิต ส่วนในระยะสั้น คนอื่นๆ ในบริษัทก็จะได้เห็นความสามารถที่เพิ่มขึ้นหรือแตกต่างออกไปของคุณด้วย

3.การจัดการเวลา
ทั้งนี้ไม่ได้หมายถึงการไม่ไปฝึกงานสายเพียงอย่างเดียว แต่ยังหมายถึงการรับมือกับการทำงานหลายชิ้น หรืองานเร่งรีบ ซึ่งท้าทายความสามารถในการจัดการเวลาของน้องๆ เป็นอย่างมาก เพราะมันอาจจะหมายถึง น้องๆ มีความสามารถในการจัดเรียงความสำคัญก่อนหลังได้นั่นเอง

WM
ขอบคุณภาพจาก: https://unsplash.com/@eliottreyna

4.การคิดเชิงวิพากษ์
การคิดเชิงวิพากษ์หมายถึงความสามารถในการวิเคราะห์ และประเมินสถานการณ์หรือปัญหา เข้าใจปัญหาจากทุกมุมไม่ว่าปัญหานั้นจะเกิดจากเทคนิค บุคคลอื่นๆ หรือ ตัวเราเอง เพื่อนำเสนอแนวทางแก้ปัญหาอย่างสร้างสรรค์ ซึ่งเป็นทักษะที่สำคัญและต้องเจอแทบจะทุกวันในโลกของการทำงาน

5.ความสามารถทางเทคนิค
แม้ทุกคนจะรู้ว่าน้อง ๆ เป็นเด็กฝึกงาน และจะไม่มีใครคาดหวังว่าจะต้องเป็นผู้เชี่ยวชาญแต่อย่างใด แต่ทักษะพื้นฐานเบื้องต้นรวมถึงของอุตสาหกรรมนั้นๆ ก็เป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ที่จะนำติดตัวไปด้วย เพื่อแสดงให้เห็นถึงความพร้อมและความใส่ใจที่จะไปฝึกงานยังที่นั้นๆ

6.ถามคำถาม
ใช้ประโยชน์ในการเป็นเด็กฝึกงาน ถามหาความรู้ให้มากที่สุด ในฐานะเด็กฝึกงาน เจ้านายไม่คาดหวังให้รู้ทุกอย่างเกี่ยวกับงานหรืออุตสาหกรรมนั้น ๆ แม้จะเป็นอุตสาหกรรม  ที่ร่ำเรียนมาอยู่แล้ว และการถามคำถามยังหมายถึงความใส่ใจที่จะเรียนรู้ที่น้องๆ มีให้กับงานและการฝึกงานอีกด้วย

7.หาที่ปรึกษา
เรียนรู้จากคนที่น้องๆ ชื่นชม ที่ปรึกษาที่ดีคือคนที่รู้สึกสนุกและเต็มใจจะแบ่งปันความรู้และความเชี่ยวชาญและต้องการเห็นน้องใหม่ในอุตสาหกรรมเดียวกับพวกเขาประสบความสำเร็จ

WM
ขอบคุณภาพจาก: https://unsplash.com/@jasongoodman_youxventures

8.กระตือรือร้น
หากน้อง ๆ ต้องการจะเปลี่ยนจากเด็กฝึกงานเป็นพนักงานหลังจากการฝึกงานในช่วงเวลาสั้น ๆ สิ้นสุดลง จงแสดงความกระตือรือร้นในช่วงเวลาสั้น ๆ ที่สร้างผลกระทบเชิงบวกต่อสถานประกอบการนั้น ๆ เริ่มตั้งแต่เพื่อนร่วมงานและหัวหน้างานเป็นต้นไป

หากน้อง ๆคนไหนที่ยังเป็นเด็กฝึกงานแล้วยังไม่มีทีท่าว่าจะได้เลื่อนเป็นพนักงาาน ก็ลองนำทักษาะเหล่านี้ไปใช้กันดูนะคะ เพื่อที่น้อง ๆ จะได้เข้าตาหัวหน้างานเพื่อให้พวกเขาได้เห็นว่าเราเป็นคนที่น่าสนใจมากแค่ไหน ความสามารถของเรานั้นสามารถช่วยทำให้งานในบริษัทก้าวหน้าได้ DooDiDo เป็นกำลังใจให้น้อง ๆ ที่กำลังจะจบการฝึกงานได้เลื่อนขั้นเป็นพนักงานของบริษัทนะคะ

ขอบคุณแหล่งที่มา : https://happyschoolbreak.com