มารู้จัก!! ประโยชน์ดีๆ ของผักโขมเพื่อสุขภาพกันค่ะ

WM

ผักโขมนอกจากความอร่อยแล้ว ยังให้สรรพคุณทางยาอีกด้วย

สำหรับผักขม หรือผักโขม (Slender amaranth) เป็นผักที่ขึ้นตามแหล่งธรรมชาติ ไม่ว่าจะเป็นริมทาง ป่าละเมาะ ป่ารกร้าง รวมถึงสวนผักผลไม้ เป็นผักที่ได้รับนิยมนำมาประกอบอาหารได้หลากหลายเมนู เช่น ผัดผักโขม แกงจืดผักโขม ผักโขมอบชีส ขนมปังหน้าผักโขมอบชีส หากพูดถึงผักใบเขียวที่สามารถนำมาประกอบอาหารได้หลากหลายเมนู ไม่ว่าจะเมนูไหนก็ตาม 

ผักโขมเป็นผักที่ให้คุณประโยชน์ และสรรพคุณทางยามากมาย รวมถึงช่วยป้องกันโรคหลายอย่าง เช่น โรคเบาหวาน โรคโลหิตจาง ความดันโลหิตสูง ช่วยขับปัสสาวะ นอกจากนี้ ผักโขมยังช่วยลดระดับคอเลสเตอรอล เนื่องจากผักโขมมีทั้งโปรตีน วิตามิน กรดอะมิโน และแร่ธาตุต่างๆ นอกจากจะให้ความอร่อยแล้ว ยังให้สรรพคุณทางยา และคุณประโยชน์ต่อร่างกายอีกมากมายเลยทีเดียว 

WM
ขอบคุณภาพจาก: https://unsplash.com/@louishansel

ชนิดของผักโขม

  • ผักขมเป็นผักที่อยู่ในกลุ่มวงศ์ Amaranthaceae ซึ่งประกอบด้วยสปีชีย์ (ชนิด) ดังต่อไปนี้
  • ผักขมหัด (Amaranthus blitum l.)
  • ผักขมใบแดง (Amaranthus caudatus l.)
  • ผักขมดอกเขียว (Amaranthus hybridus l.)
  • ผักขมหนาม (Amaranthus spinosus l.)
  • ผักขมสวน (Amaranthus tricolor l.)
  • ผักขม (Amaranthus viridis l.)
WM
ขอบคุณภาพจาก: https://pixabay.com/th/users/kkolosov-2105326/

ประโยชน์ของผักโขม

  • ช่วยในการลดน้ำหนัก และลดความอ้วนได้เป็นอย่างดี เพราะการรับประทานผักโขมจะช่วยให้รู้สึกอิ่มท้องได้เร็ว และนาน อีกทั้งยังช่วยชะลอการดูดซึมไขมันในร่างกาย
  • ช่วยบรรเทาอาการปวดท้องประจำเดือนสำหรับสตรี เนื่องจากผักโขม มีส่วนช่วยในการลดการหดเกร็งของกล้ามเนื้อในบริเวณช่องท้อง ใช้ในการบำรุงร่างกายสำหรับคุณแม่หลังคลอด และช่วยให้ทารกน้อยมีสุขภาพร่างกายที่แข็งแรง
  • ลดความเสี่ยงการเกิดโรคมะเร็งบางชนิด เช่น โรคมะเร็งเต้านม มะเร็งปอด และมะเร็งรังไข่ เนื่องจากมีสารต้านอนุมูลอิสระค่อนข้างสูง
  • ช่วยลดความเสี่ยงของการเป็นโรคอัลไซเมอร์ในผู้สูงอายุ เนื่องจากผักโขมมีฤทธิ์ช่วยชะลอการตายของเซลล์ต่างๆ ในร่างกายเมื่อรับประทานเป็นประจำ อุดมไปด้วยโปรตีนสูง เหมาะสำหรับผู้ที่รับประทานมังสวิรัติ และต้องการให้ร่างกายได้รับสารอาหารครบถ้วน แต่ควรรับประทานควบคู่กับอาหารจำพวกเต้าหู้ถั่วเหลือง เพื่อให้ปริมาณโปรตีนที่ควรได้รับในแต่ละวันเทียบเท่ากับเนื้อสัตว์
  • ช่วยบำรุงสุขภาพของดวงตา และช่วยป้องกันความเสื่อมที่อาจเกิดกับดวงตาได้ เนื่องจากมีวิตามินเอสูง มีส่วนช่วยในการป้องกันการเกิดโรคกระดูกพรุน พร้อมทั้งช่วยบำรุงกระดูก และฟันให้มีสุขภาพที่แข็งแรง เนื่องจากมีวิตามินซีสูง
WM
ขอบคุณภาพจาก: https://pixabay.com/th/users/valkian-5381873/
  • ช่วยในการกระตุ้นการขับถ่ายในแต่ละวัน เนื่องจากผักโขมอุดมไปด้วยไฟเบอร์ หรือกากใยอาหารปริมาณมาก เหมาะสำหรับสาวๆ ที่ต้องการบำรุงผิวพรรณ เพราะผักโขมมีสารที่ช่วยต้านอนุมูลอิสระ ชะลอการแก่ และตายของเซลล์
  • มีส่วนช่วยในการบำรุงระบบไหลเวียนโลหิต ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานของระบบหัวใจ และลดความเสี่ยงของการเป็นโรคหัวใจได้
  • ลดอาการเลือดออกตามไรฟันได้ เนื่องจากผักโขมมีส่วนประกอบของวิตามินซีในปริมาณสูง 
  • ป้องกันภาวะเลือดไหลไม่หยุด เพราะผักโขมอุดมไปด้วยวิตามินเค แต่ผู้ป่วยที่รับประทานกลุ่มยาต้านการแข็งตัวของเลือด เช่น aspirin, warfarin ไม่ควรรับประทานในปริมาณมาก เนื่องจากฤทธิ์ของผักโขมจะไปต้านฤทธิ์กับกลุ่มยาต้านการแข็งตัวของเลือด ทำให้เลือดหนืดเกินไป
  • ช่วยชะลอวัยทองผ่านสารต้านอนุมูลอิสระหลายชนิดที่มีอยู่ในผักโขม รวมถึงชะลอความเสื่อมของเซลล์ต่างๆ ที่อยู่ภายในร่างกาย

นอกจากผักโขมจะให้ประโยชน์ต่อสุขภาพร่างกายในหลากหลายด้านแล้ว การรู้จักนำผักชนิดนี้ไปใช้ให้ถูกต้อง และถูกวิธีจะยิ่งส่งผลดีต่อร่างกายของคนรับประทานมากยิ่งขึ้น นอกจากประโยชน์ในการทำอาหาร ผักโขมยังเป็นพืชที่เชื่อกันว่ามีสรรพคุณรักษาหรือป้องกันโรคบางชนิด ทั้งนี้ทั้งนั้น DooDiDo แนะนำว่าต้องล้างทำความสะอาดให้ดีก่อนนำมาใช้ หากบางคนที่มีความเสี่ยงและไม่สามารถรับประทานได้ ควรปรึกษาแพทย์ก่อนนำมารับประทานด้วยเช่นกัน

ขอบคุณแหล่งที่มา: https://hd.co.th