มาดู!! 7 เหตุผลที่คุณควรปรึกษาแพทย์ก่อนเริ่มดูแลสุขภาพ
การเริ่มต้นที่จะดูแลสุขภาพได้เร็ว สุขภาพเราก็ยิ่งดีเร็วขึ้นด้วยค่ะ
ในปัจจุบันนั้นก็ยังมีคนเชื่อว่าเราต้องไปพบแพทย์ทุกๆ ครั้งที่ป่วย แต่พวกเค้าเหล่านั้นหารู้ไม่ว่าการที่เราจะไปพบแพทย์เนี่ย ไม่จำเป็นจะต้องไปเฉพาะตอนที่ป่วยเพียงเท่านั้น เราสามารถไปพบแพทย์ได้เสมอ อาจจะเพื่อหาแนวทางการดูแลสุขภาพของตัวเอง หรืออาจจะเพื่อตรวจหาปัญหาของร่างกายที่อาจส่งผลสุขภาพเราได้ในภายหลัง ก็จัดว่าเป็นการป้องกันไว้นั่นแหล่ะค่ะ เพราะว่าการดูแลสุขภาพนั้นสามารถทำได้ง่ายกว่าการมานั่งแก้ไขสุขภาพแย่ๆที่เกิดขึ้นมาแล้วนั่นเอง อย่างไรก็ตามในปัจจุบันนี้ก็ยังมีอินเทอร์เน็ตที่เราสามารถเข้าถึงข้อมูลได้ง่ายๆ อยู่แล้วใช่มั้ยล่ะคะ แต่ว่าก็คงยังมีคนที่รู้สึกว่าการไปพบแพทย์นั้นไม่ได้จำเป็นขนาดนั้น และเลือกที่จะหาแนวทางการดูสุขภาพจากอินเทอร์เน็ตแทนการไปปรึกษาแพทย์โดยตรง
ถ้าหากว่าเราเริ่มต้นที่จะดูแลสุขภาพได้เร็วแล้วล่ะก็ สุขภาพเราก็ยิ่งดีเร็วขึ้น และห่างไกลโรคภัยในวันหน้า แต่สิ่งที่คุณอาจไม่รู้ก็คือว่า ถ้าหากคุณจะดูแลสุขภาพให้ได้ผลดีที่สุด คุณอาจต้องประวิงเวลาออกไปสักนิด เพื่อได้คุย ได้ปรึกษาและได้เช็คสภาพร่างกายที่แท้จริงของตัวเองกับคุณหมอ และสิ่งที่เราเอามาฝากทุกคนในวันนี้ นั้นก็คือเหตุผลข้อว่าทำไมคุณควรที่จะไปปรึกษากับคุณหมอโดยตรงเพื่อเริ่มดูแลสุขภาพแทนการเสิร์ชจากอินเทอร์เน็ต
1. เพื่อให้ทราบความเสี่ยงในสุขภาพตัวเอง
ครอบครัวของคุณมีประวัติของโรคเบาหวาน, คอเลสเตอรอลสูง, โรคหัวใจ, โรคมะเร็งหรือเปล่า ถ้าเป็นเช่นนั้นคุณอาจมีความเสี่ยงที่จะเป็นด้วยเช่นกัน มีหลายสิ่งที่คุณสามารถทำได้เพื่อลดความเสี่ยงนั้น แพทย์สามารถช่วยคุณค้นหาและพิจารณาว่าต้องใช้วิธีใดในการดูแลตนเอง
2. เช็คความพร้อมของร่างกาย
คุณเคยสงสัยไหมว่าคุณเปลี่ยนจากการส่วนชุดเบอร์ 6 ไปเป็นขนาด 10 โดยใช้เวลาเพียงแค่กะพริบตา แต่จริง ๆ แล้วมันเกิดขึ้นในช่วงหลายเดือนหรือหลายปี ผู้ป่วยหลายคนที่ไม่เคยพบแพทย์ในช่วงหลายปีที่ผ่านมารู้สึกตกใจเมื่อพวกเขาก้าวขึ้นไปบนตาชั่ง แม้ว่าคุณจะยังพอดีกับกางเกงยีนส์ตัวโปรดของคุณ แต่มันยังมีปัญหาในเรื่องสุขภาพที่ต้องกังวล เช่น อัตราการเต้นของหัวใจ ความดันโลหิต โดยการตรวจสอบสัญญาณชีพ ด้วยการไปพบแพทย์เป็นประจำจะเป็นตัวช่วยให้คุณรู้ว่ามันถึงเวลาแล้วที่ต้องเอาใจใส่ตัวเองมากกว่านี้
3. คนใกล้ตัวไม่ได้รู้ดีไปกว่าคุณ
คนส่วนมากมักถามคนใกล้ตัว เช่น เพื่อน ว่าทานอะไรบำรุงร่างกายแล้วดี แล้วก็ไปหาซื้อผลิตภัณฑ์ยาบำรุงหรืออาหารเสริมมาทานตาม แต่รู้ไหมว่าแท้จริงแล้วเพื่อนคุณก็ไม่ได้รู้ดีไปกว่าคุณเลย เพราะร่างกายแต่ละคนไม่เหมือนกัน
4. รู้จักร่างกายได้ถ่องแท้
ก่อนที่เราจะบำรุงร่างกาย เราต้องรู้เสียก่อนว่าเราอยู่ตรงไหน ร่างกายเราเป็นอย่างไร เพราะร่างกายแต่ละคนไม่เหมือนกัน ไม่ว่าจะเป็นยีน ฮอร์โมน ระดับวิตามิน เกลือแร่ หรือแร่ธาตุต่าง ๆ รวมไปถึงพฤติกรรมและวิถีชีวิตที่มีผลต่อการดูแลสุขภาพ การรู้ว่าเราเริ่มต้นที่ตรงไหนจะทำให้เราสามารถวางแผนการดูแลสุขภาพอย่างเป็นขั้นเป็นตอนได้ดียิ่งขึ้น และนั่นจะทำให้สุขภาพเราเห็นผลดีขึ้นในตอนท้าย
5. ดูแลสุขภาพได้ตรงจุด
ปัญหาสุขภาพของแต่ละคนนั้นต่างกันออกไป หรือแม้จะมีปัญหาสุขภาพเดียวกัน อาการที่แสดงออกภายนอกก็ต่างกันได้ด้วย ยกตัวอย่างเช่น ภาวะอ้วนของบางคนอาจเป็นเพราะพฤติกรรมการกิน แต่บางคนอาจเป็นผลจากภาวะโรคอื่น เช่น โรคไทรอยด์หรือโรคกระเพาะอักเสบ บางคนมีอาการปวดท้อง บางคนไม่ปวดท้องแค่ท้องอืด หรือบางคนมีอาการมึนศีรษะอยู่บ่อย ๆ แต่คนหนึ่งกลับเป็นเพราะโรคความดันโลหิตสูง ส่วนอีกคนอาจเป็นเพราะเลือดจาง เป็นต้น
6. เลี่ยงผลเสียที่เกิดจากการดูแลสุขภาพแบบผิด ๆ
การดูแลสุขภาพโดยไม่ปรึกษาแพทย์อาจนำไปสู่ผลเสียมากกว่าผลดีได้ ถ้าเราไม่รู้สาเหตุที่แท้จริงของอาการที่เป็น เช่น การได้รับวิตามินหรือสารอาหารบางอย่างเกินความจำเป็น โดยเฉพาะคนที่มีโรคประจำตัวหรือมีปัญหาสุขภาพเรื้อรัง เช่น ผู้เป็นโรคหัวใจ โรคเบาหวาน โรคความดันโลหิตสูง หรือภูมิแพ้ต่าง ๆ แล้วไปซื้อผลิตภัณฑ์อาหารเสริมหรือวิตามินต่าง ๆ มารับประทานเอง รวมไปถึงการออกกำลังกายที่ไม่เหมาะกับสภาพร่างกายด้วยความไม่รู้ก็เป็นอันตรายถึงชีวิตได้
7. ติดตามผลได้ต่อเนื่อง
การตรวจรักษาและรับฟังคำแนะนำจากแพทย์ผู้ชำนาญการ ไม่เพียงแต่ช่วยให้เรารักษาสุขภาพได้อย่างมั่นใจ ยังทำให้เราสามารถติดตามผลได้อย่างต่อเนื่องเป็นรูปธรรมชัดเจนว่าเรายังสุขภาพแข็งแรงดีไหม และลดโอกาสเสี่ยงที่เราจะพลาดการรับรู้ว่าเกิดสิ่งผิดปกติในร่างกายเราไหม เพราะจะมีการนัดติดตามผลและตรวจร่างกายเป็นประจำ เป็นการดูแลสุขภาพในระยะยาว
จริงอยู่ที่ในปัจจุบัน ในอินเทอร์เน็ตก็มีเว็บบล็อคของคุณหมอที่ออกมาเขียน มาแนะนำเกี่ยวกับความรู้ทางสุขภาพ ไม่ว่าจะเป็นลักษณะอาการป่วยต่างๆ การแก้ปัญหา และรวมไปถึงการป้องกันโรคภัยทั้งหลาย และเว็บบล็อคเหล่านี้ก็มีความน่าเชื่อถือไม่น้อยเลย แต่เราไม่มีทางรู้ได้เลยใช่มั้ยล่ะคะว่า เว็บบล็อคที่เราอ่านนั้นได้รับข้อมูลที่ถูกต้องมาแล้วหรือไม่ และอีกอย่างเลยก็คือโรคบางโรค เบื้องต้นแล้วอาจจะไม่ได้แสดงอาการออกมา ไม่มีสัญญาณเตือนให้เราได้เตรียมรับมือ ดังนั้นแล้ว DooDiDo แนะนำว่่าการไปพบคุณหมอเพื่อตรวจหาโรคร้ายเหล่านั้นโดยตรงก็จะได้แก้ปัญหาได้ตรงจุดค่ะ
ขอบคุณแหล่งที่มา: www.bangkokhospital.com , www.elmedico.net
