มาดู!! 5 ที่เป็นสัญญาณที่บ่งบอกว่าเขาไม่ได้รักคุณจริงๆ 

5 ด้านมืดของความรัก ที่รักแค่ไหนก็ห้ามทนอยู่เด็ดขาด

ขึ้นชื่อว่าความรักมักจะเป็นสิ่งที่สวยงามเสมอ แต่ในบางครั้งความรักก็ทำให้เราตาบอดได้ ทำหใ้เรามองข้ามสิ่งที่ไม่ดี นิสัยที่แย่ ๆ ไปได้ แน่นอนค่ะว่าการที่คนสองคนตัดสินใจคบกันก็คงจะทพการศึกษาดูใจกันมาสักระยะหนึ่งแล้ว จึงได้เริ่มตัดสินใจเป็นแฟนกัน แต่หากว่าคบนานไปแล้วเริ่มรู้สึกอึดอัดกับนิสัยบางอย่าง คุณก็ควรกลับมาทบทวนกันสักนิดนะคะ มาค่ะ เรามาดูด้านมืดของความรัก ที่รักแค่ไหนก็ห้ามทนอยู่เด็ดขาด

ในทุก ๆ ความสัมพันธ์ย่อมมีทั้งเรื่องดีและเรื่องแย่ เจ้ว่านี่เป็นสัจธรรม แต่มันจะมีเรื่องแย่ ๆ บางรูปแบบที่เข้าขั้น Dark Side! และถ้าสาว ๆ อย่างเราดันทุรังทนอยู่ต่อไปเพียงเพราะคิดว่ามันก็เป็นเหมือนเรื่องแย่ ๆ เรื่องอื่น ๆ นั่นแหละที่้ต้องผ่านไป สำหรับบางเรื่องมันก็ใช่ มันร้ายเดี๋ยวมันจะดี แต่สำหรับ 5 ด้านมืดของความรักต่อไปนี้ ไม่ว่าผู้ชายจะงานดีแค่ไหนก็ห้ามทนอยู่เด็ดขาด!

WM
ขอบคุณภาพจาก: https://www.freepik.com/author/freepik

1.หึงหวงเว่อร์มาก
อาการหวงนิด ๆ หึงหน่อย ๆ เป็นสิ่งที่ผู้ชายหลายคนมีอยู่ในสัญชาตญาณ ถ้าเขาแสดงออกในระดับที่พอให้เราชุ่มชื่นหัวใจและไม่เข้ามาละเมิดความเป็นส่วนตัวในชีวิตเราก็เป็นสิ่งที่สาว ๆ อย่างเราพอจะทำความเข้าใจได้ แต่อาการหึงหวงแบบเว่อร์มาก ๆ ชนิดที่ห้ามเราไปไหนมาไหนกับเพื่อนต่างเพศ เช็กโทรศัพท์ถี่ยิบ ขอพาสเวิร์ดโซเชียลมีเดียทุกประเภท เลวร้ายถึงขั้นไปไหนต้องขออนุญาตจนถึงขั้นที่เราเกรงใจเขาและห่างออกจากเพื่อนฝูงในที่สุด แม้เขาจะอ้างว่าเป็นความรัก แต่ซิสคิดดี ๆ นะคะว่านี่คือด้านสว่างหรือด้านมืดของความรักกันแน่ ? ถ้าการอยู่ในความสัมพันธ์กับเขาแล้วเราต้องทิ้งทุกอย่างในชีวิต มันคุ้มค่าหรือไม่ ? อย่าปล่อยให้ความรักทำร้ายเราอีกเลยค่ะ

2.ไม่ซื่อสัตย์ต่อกัน
การเป็นผู้ชายไม่ใช่ข้ออ้างของความเจ้าชู้ ถ้าเมื่อไหร่ที่เรารู้ว่าเขาไม่ได้มีเราแค่หนึ่งคน นั่นคือสัญญาณของความไม่เคารพและให้เกียรติกันขั้นสูง อย่าคิดว่าถ้าให้อภัยแล้วเขาจะปรับปรุงตัว อย่ายอมให้ตัวเองใจอ่อนกับการทำร้ายทำลายความรู้สึกกัน นี่คือด้านมืดที่ไม่สมควรมีใครต้องทนอยู่ต่อ ถ้าเขาไม่ให้เกียรติเรา เราต้องให้เกียรติตัวเองมาก ๆ เข้าไว้ อย่าทนค่ะซิส!

3.โทษเราได้ทุกเรื่อง แม้แต่เรื่องที่เขาผิดก็ตาม
“เพราะตัวเองไม่มีเวลาให้เค้า เค้าเลยต้องไปคุยกับผู้หญิงคนอื่นไง” , “เพราะตัวเองชอบแต่งตัวสวย ๆ เค้าเลยต้องคอยหึงตัวเองไง” หรือ “เพราะตัวเองยั่วโมโหเค้า เค้าเลยต้องด่าตัวเองแรง ๆ ไง” เคยได้ยินประโยคทำนองนี้มาบ้างไหมคะ ? ฟังผิวเผินเราก็จุกและเกือบจะคิดว่านี่เป็นความผิดของเราจริง ๆ ซะแล้ว แต่ถ้าพิจารณาดี ๆ ผู้ชายต่างหากที่ไปคุยกับผู้หญิงคนอื่น หึงหวงเราเกินเหตุ หรือด่าเราแรง ๆ การกระทำเลวร้ายที่เป็นด้านมืดของความรักแบบนี้ยังไงก็ผิด เขาไม่ควรทำต่อเรา ไม่ว่าเขาจะอ้างว่าเราทำอะไรแค่ไหน มันก็ไม่ใช่ความชอบธรรมที่เขาจะมาโทษเราได้! ถ้าเจอแบบนี้ไม่ควรทนนะคะสาว ๆ เพราะมันแสดงให้เห็นถึงนิสัยไม่ยอมรับความจริง ชอบโทษคนอื่น แต่ตัวเองทำเรื่องเลวร้ายได้หน้าตาเฉย

WM
ขอบคุณภาพจาก: https://www.freepik.com/author/drazenzigic

4.ด่าทอหยาบคายเสียหาย
เวลาโกรธใครก็อารมณ์แปรปรวนกันทั้งนั้น แต่ในความแปรปรวนมันย่อมแสดงตัวตนด้านมืดบางอย่างออกมา ถ้าอยู่ในระดับที่บึ้งตึงต่อกัน ขึ้นเสียงบ้างเราถือว่าเป็นแค่ระดับเรื่องร้าย ๆ ที่เดี๋ยวก็ผ่านพ้นไป แต่ถ้าเมื่อไหร่ที่เขาโกรธแล้วขึ้นกูขึ้นมึง พ่นคำด่าเลวร้ายชนิดที่พ่อแม่ก็ไม่เคยใช้กับเรา อย่าทนต่อไปเด็ดขาด เพราะเท่ากับว่าเขาไม่เคารพและให้เกียรติเราเอามาก ๆ ถ้าคบกันยังด่าเรารุนแรงถึงเพียงนี้ ยิ่งคบแบบจริงจังมากขึ้นความอดทนต่อกันมีน้อยลงอาจพัฒนาเป็นความรุนแรงรูปแบบอื่นได้

5.ทำร้ายร่างกาย
การใช้ความรุนแรงในความสัมพันธ์ถือเป็นสัญญาณเตือนภัยระดับที่สิบ ไม่ว่าเขาจะมีข้ออ้างแบบไหน ผมโกรธมากไปหน่อย ผมสติหลุดไปนิด ฯลฯ เหตุผลจะดูฟังขึ้นแค่ไหนเราก็ไม่ควรทนกับด้านมืดสุดเลวร้ายอย่างการทำร้ายร่างกาย ถ้าเรายอมทนอยู่ต่อแม้อีกครั้งเดียว จากการเริ่มต้นที่กระชาก บีบแขนแรง ๆ ผลัก อาจร้ายแรงถึงขั้นตบตี ซึ่งถือเป็นความผิดตามกฎหมายอาญา นี่ไม่ใช่เรื่องเลวร้ายที่จะผ่านพ้นไป แต่เป็นด้านมืดที่เราต้องรีบพาตัวเองออกมาจากความสัมพันธ์ให้เร็วที่สุด

ทั้ง 5สิ่งนี้เป็นสัญญาณที่บ่งบอกว่าเขาไม่ได้รักคุณจริง ๆ เขารักแต่ตัวเอง DooDiDo เพราะถ้าหากคนที่รักกันจริงต้องมอบแต่สิ่งที่ดี ๆ มอบความสบายใจและสร้างความสุขให้กันได้ในทุก ๆ แต่หสกความสัมพันธ์เริ่มแย่ลงจนเกิดความรุนแรงเกิดขึ้น หรือทำร้ายร่างกายกันเกิดขึ้น ให้คุณทำใจ อย่าฝืนดันทุรังคบกันต่อไปนะคะ เพราะนอกจากจะต้องเจ็บตัวผรี ๆ แล้ว คุณจะต้องเจ็บที่หัวใจในภายหลังอีกแน่นอนค่ะ

ขอบคุณแหล่งที่มา : www.beautyhunter.co.th/