พาส่อง!! 6 สาเหตุที่ทำให้เรานอนกรน ภัยเงียบที่ต้องระวัง

WM

การนอนกรนอาจจะทำให้เกิดภาวะหยุดหายใจขณะหลับได้

รู้ไหมคะว่าการนอนกรนสามารถเกิดขึ้นได้กับทุกเพศและทุกวัย การนอนกรนก็คือ การที่มีเสียงดังขณะหลับ ซึ่งเกิดจากการหย่อนตัวของกล้ามเนื้อเพดานอ่อน คอหอย และลิ้น ที่ในขณะหลับจะคลายตัวและหย่อนลง ทำให้ระบบทางเดินหายใจส่วนบนมีการตีบแคบลงจึงเกิดเป็นเสียงกรนขึ้น ต้องบอกเลยว่าการนอนกรนนั้นเป็นเรื่องอันตราย เป็นภัยเงียบที่ควรเฝ้าระวังอีกด้วยค่ะ

การนอนกรนเกิดจากระบบทางเดินหายใจส่วนบนตีบแคบ กล้ามเนื้อต่าง ๆ ในช่องปากจะผ่อนคลายและหย่อนลงมาปิดกั้นทางเดินหายใจ ทำให้ลมหายใจไม่สามารถผ่านไปยังหลอดลมและปอดได้อย่างสะดวก ส่งผลให้ร่างกายได้รับออกซิเจนไม่เพียงพอ และเนื่องจากช่องลมถูกปิดกั้นจนเล็กลงจึงทำให้เกิดเป็นเสียงกรนขึ้น ซึ่งการนอนกรนอาจจะทำให้เกิดภาวะหยุดหายใจขณะหลับ (sleep apnea) จนอาจจะอันตรายร้ายแรงถึงขั้นเสียชีวิตได้

WM
ขอบคุณภาพจาก: ://www.freepik.com/author/yanalya

1.พันธุกรรม
พันธุกรรมจะกำหนดลักษณะใบหน้าและขากรรไกรที่อาจเกิดความผิดปกติ โดยเฉพาะคนที่มีคางเล็กหรือกระดูกแก้มแบนอาจจะทำให้ช่องทางเดินหายใจบริเวณลำคอแคบ และเป็นสาเหตุของอาการนอนกรนได้ นอกจากนี้ ยังพบว่าผู้ที่มีประวัติโรคนอนกรนในครอบครัวจะมีโอกาสเป็นโรคนอนกรนได้มากขึ้น

2.โรคอ้วน
โรคอ้วนสามารถทำให้เรานอนกรนได้ เนื่องจากไขมันที่สะสมตามส่วนต่าง ๆ ของร่างกาย โดยเฉพาะบริเวณเนื้อเยื่อรอบคอหอย ที่จะส่งผลให้ทางเดินหายใจส่วนต้นบริเวณโคนลิ้นและเพดานปากหย่อนลง มีการตีบแคบและตกลงไปปิดกั้นทางเดินหายใจ ส่งผลให้ขณะหลับร่างกายจะเกิดภาวะขาดออกซิเจนเป็นช่วง ๆ ทำให้หายใจลำบากมากขึ้น จนเกิด ”เสียงกรน” จากการพยายามให้แรงดันอากาศผ่านช่องทางเดินหายใจที่แคบ

3.เพศ
เพศชายมีแนวโน้มที่จะกรนมากกว่าเพศหญิง เนื่องจากฮอโมนเพศหญิงมีส่วนทำให้กล้ามเนื้อที่ทำหน้าที่ขยายช่องทางเดินหายใจมีความตึงตัวที่ดีกว่า

4.ยา/แอลกอฮอล์
การนอนกรนเล็กน้อยหรือเป็นระยะ ๆ อาจเป็นผลมาจากยาหรือแอลกอฮอล์ที่ทำให้กล้ามเนื้อทางเดินหายใจส่วนบนคลายอ่อนแรง ทำให้เกิดภาวะทางเดินหายใจอุดกั้นได้ง่ายขึ้น และมีผลกับการทำงานของสมอง ทำให้สมองตื่นขึ้นมาเพื่อตอบสนองต่อภาวะการขาดออกซิเจนได้ช้า

WM
ขอบคุณภาพจาก: https://pixabay.com/th/users/cherylholt-209609/

5.สูบบุหรี่
การสูบุหรี่จะทำให้ประสิทธิภาพการทำงานของระบบทางเดินหายใจแย่ลง โดยการวิจัยหนึ่งได้สำรวจชายและหญิงกว่า 15,000 คน อายุ 24-54 ปี ของประเทศต่าง ๆ ในยุโรป ผลปรากฏว่าร้อยละ 24 ของคนที่นอนกรนมีพฤติกรรมสูบบุหรี่ อีกร้อยละ 20 ของคนที่นอนกรนเคยสูบบุหรี่มาก่อน ส่วนร้อยละ 14 ไม่เคยสูบบุหรี่ โดยยิ่งสูบบุหรี่มากเท่าไหร่ก็ยิ่งกรนบ่อยขึ้นเท่านั้น และแม้แต่ผู้สูบบุหรี่มือสองที่ได้รับควันจากคนใกล้ชิดมาก ๆ ก็มีแนวโน้มที่จะมีอาการนอนกรนเช่นเดียวกับผู้สูบ

6.อายุมาก
เมื่ออายุมากขึ้นทำให้กล้ามเนื้อของทางเดินหายใจบริเวณลำคอหย่อนยานและขาดความตึงตัว ทำให้ตกไปขวางทางเดินหายใจได้ง่าย โดยพบว่าอายุ 30-35 ปี ผู้ชายนอนกรน 20% ผู้หญิงนอนกรน 5% และอายุ 45-60 ปี ผู้ชายนอนกรน 60% ผู้หญิงนอนกรน 40% เลยทีเดียว

การนอนกรนถือเป็นสัญญาณเตือนเรื่องของสุขภาพค่ะ หากคนข้าง ๆ บ่นว่าคุณนอนกรนต้องคอยสังเกตอาการกรนด้วยนะคะ ใครที่นอนกรนดังมากเป็นประจำ และมีอาการหยุดหายใจเป็นช่วง ๆ ระหว่างหลับ DooDiDo เป็นเรื่องอันตรายที่ควรเฝ้าระวัง อาการนอนกรนยังมีความสัมพันธ์โดยตรงกับการเกิดภาวะหยุดหายใจขณะหลับเป็นอันตรายถึงชีวิตได้ค่ะ

ขอบคุณแหล่งที่มา : www.apexprofoundbeauty.com