“ผักโขม” กับ 10 ประโยชน์ที่ดีต่อสุขภาพ
แมกนีเซียมในผักโขม มีคุณสมบัติช่วยควบคุมความดันโลหิตในร่างกายให้อยู่ในระดับปกติ
ผักโขม เป็นผักเลื่องชื่อที่อุดมไปด้วยวิตามิน แร่ธาตุหลายชนิด ต้องขอบอกเลยค่ะว่า สรรพคุณของผักโขม และ ประโยชน์ของผักโขมนั้นมีมากมายจริง ๆ ไม่แพ้พืชผักสมุนไพรไหน ๆ เลย และวันนี้เราก็นำความรู้ของ สรรพคุณของผักโขม และ ประโยชน์ของผักโขม มาบอกกล่าวให้คุณสุขภาพ ได้รู้จักกันด้วยค่ะ เพื่อต่อไปจะได้หันมาทาน ผักโขม กันเยอะ ๆ เรามาดูสรรพคุณของผักโขมและประโยชน์ของผักโขมกันเลยดีกว่าค่ะ ว่าทานแล้วให้ประโยชน์กับร่างกายของเราอย่างไร
ผักโขม (spinach) แค่ฟังชื่อหลายคนก็คงจะร้องยี้กันแล้ว เพราะส่วนใหญ่มีความเชื่อกันว่าผักโขมรสชาติไม่อร่อย เพราะคงจะต้องมีรสขมตามชื่อแน่นอน แต่แท้จริงแล้ว ผักโขมเป็นผักที่มีรสหวาน กินง่าย แถมมาพร้อมคุณประโยชน์มากมาย ซึ่งกินแล้วรับประกันได้ว่าสุขภาพดีขึ้นอย่างแน่นอน เนื่องจากเป็นแหล่งของวิตามินแร่ธาตุต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นวิตามินเอ, วิตามินบี, แคลเซียม, ธาตุเหล็ก ฯลฯ จึงทำให้ผักโขมถูกนำมาใช้เป็นยารักษาโรคหรือบำรุงร่างกายได้
1.บำรุงผิวพรรณ
วิตามินเคและโฟเลตในผักโขมจะช่วยให้ผิวห่างไกลจากปัญหาสิวและความหมองคล้ำได้ โดยจะทำให้ผิวมีความชุ่มชื้น, ห่างไกลริ้วรอยก่อนวัย และปกป้องผิวหนังจากมลภาวะต่าง ๆ ที่มักเข้ามาทำลายผิวให้เสื่อมสภาพลงโดยเร็วได้อีกด้วย
2.รักษาโรคความดันโลหิตสูง
แมกนีเซียมในผักโขม มีคุณสมบัติช่วยควบคุมความดันโลหิตในร่างกายให้อยู่ในระดับปกติ จึงเหมาะสำหรับการนำมาทำเป็นส่วนผสมในยารักษาโรคความดันโลหิตสูง
3.ป้องกันโรคเกี่ยวกับลำไส้
ยิ่งรับประทานผักโขมมากเท่าไหร่ ก็ยิ่งมีประโยชน์ต่อระบบลำไส้มากเท่านั้น โดยผักโขมจะสามารถช่วยยับยั้งการติดเชื้อบริเวณลำไส้ได้ และยังช่วยให้กระบวนการทำงานของลำไส้เป็นไปได้อย่างสมบูรณ์มากยิ่งขึ้น
4.ให้นอนหลับง่าย
หลายคนที่ประสบปัญหานอนไม่หลับ ลองรับประทานผักโขมดู เพราะแร่ธาตุสำคัญอย่างซิงก์และแมกนีเซียมในผักโขม จะส่งผลให้ร่างกายเกิดความผ่อนคลายไปทุกส่วน ทำให้สามารถนอนหลับสนิทได้ง่ายมากขึ้น
5.เสริมสร้างการเจริญเติบโตของทารกในครรภ์
โฟเลตในผักโขม ยังส่งผลดีต่อการเจริญเติบโตของทารกในครรภ์ โดยจะช่วยเสริมสร้างระบบประสาทที่สมบูรณ์ให้กับทารก นอกจากนี้วิตามินเอในผักโขม ยังถือเป็นแร่ธาตุสำคัญของการพัฒนาอวัยวะต่างๆ ในร่างกายของทารกอีกด้วย
6.สร้างภูมิคุ้มกันให้กับร่างกาย
วิตามินเอและวิตามินซีในผักโขม เป็นตัวช่วยสำคัญในการสร้างภูมิคุ้มกันให้กับร่างกายเพื่อต่อสู้กับแบคทีเรียและสารพิษที่ถูกส่งเข้ามาในระบบต่างๆ ของร่างกาย
7.เสริมสร้างการมองเห็น
วิตามินเอในผักโขมมีส่วนสำคัญที่จะช่วยให้ดวงตาทำงานได้อย่างเป็นปกติ ผู้ที่มีปัญหาเกี่ยวกับการมองเห็น ตาฝ้าฟาง สามารถรับประทานผักโขมเป็นประจำเพื่อช่วยซ่อมแซมในส่วนนี้ได้
8.เสริมสร้างความแข็งแรงของกระดูก
ด้วยปริมาณที่สูงมากของวิตามินเคในผักโขม จะช่วยเสริมสร้างความแข็งแรงของกระดูกในส่วนต่างๆ ของร่างกาย และลดความเสี่ยงของการเกิดโรคกระดูกพรุนได้
9.ล้างสารพิษในร่างกาย
การรับประทานผักโขมเป็นประจำ ร่างกายจะนำเอาแร่ธาตุสำคัญที่ได้รับ อย่างเช่นไฟเบอร์มาเป็นตัวช่วยในการดักจับและกรองสารพิษออกจากร่างกายด้วยการขับถ่าย จึงเหมาะสำหรับการรับประทานเพื่อดีท็อกซ์สารพิษได้เป็นอย่างดี
10.ลดปัญหาผมขาดหลุดร่วง
ธาตุเหล็กในผักโขม มีคุณสมบัติช่วยลดปัญหาผมขาดหลุดร่วงได้ และยังช่วยเสริมสร้างการงอกขึ้นใหม่ของเส้นผม ทำให้เส้นผมเจริญเติบโตแข็งแรง ไม่หลุดร่วงง่าย แถมยังช่วยบำรุงเส้นผมให้สวยสุขภาพดีตั้งแต่รากโคนจรดปลายอีกด้วย
การกินผักโขมให้ได้ประโยชน์สูงสุดนั้น DooDiDo แนะนำว่าควรกินสุก ดีกว่าดิบค่ะ ที่เป็นเช่นนั้นเพราะมีกรดชนิดหนึ่ง ชื่อ ออกเซลิค แอซิด ในปริมาณสูง กรดดังกล่าวส่งผลให้ร่างกายของเราไม่สามารถดูดซับธาตุเหล็กที่ในผักโขมได้ การนำผักโขมไปทำให้สุกถือเป็นวิธีสยบกรดกั้นธาตุเหล็กนี้ไปได้ค่ะ
ขอบคุณแหล่งที่มา : www.organicbook.com
