คอกาแฟห้ามพลาด 5 วิธีการชงกาแฟแบบฉบับมืออาชีพ

WM

แต่ละวิธีในการชงจะให้รสชาติความอร่อยของกาแฟ ที่ต่างกันออกไป

กาแฟ เป็นเครื่องดื่มยอดฮิตที่ใครต่อใครต่างก็หลงรักและเทใจให้มาตลอด มีความหอมกรุ่นแบบเฉพาะตัว มาพร้อมกับรสชาติขมที่กลมกล่อม หากดื่มเป็นประจำในปริมาณที่พอดีก็จะทำให้เกิดประโยชน์ต่อสุขภาพ เพราะคาเฟอีนในกาแฟจะช่วยกระตุ้นให้ร่างกายตื่นตัว การดื่มกาแฟรสชาติที่ชอบ 1 แก้วในตอนเช้า จะช่วยให้เราต้อนรับวันใหม่ได้อย่างสดชื่น วิธีการชงกาแฟนั้นมีหลายวิธีให้เลือก แต่ละวิธีก็จะทำให้กาแฟได้รสชาติที่แตกต่างกันออกไป วิธีการชงแบบมืออาชีพแบบใดที่จะทำให้รสชาติกาแฟของคุณอร่อยโดนใจ มาดูกันค่ะ

นอกจากนี้ กาแฟ ยังอาจเป็นเครื่องดื่มประจำตัวของหลายคนไปแล้ว ที่ทุกเช้าต้องดื่ม ก่อนไปทำงานต้องแวะซื้อ จนกลายเป็นเครื่องดื่มที่ยอดนิยม และส่งผลทำให้เกิดร้านกาแฟเพิ่มมากขึ้นตามไปด้วย สำหรับการชงกาแฟนั้น เจ้าของร้านกาแฟบางคนอาจยังไม่รู้ว่า จริง ๆ แล้วการชงกาแฟมีหลายวิธี ไม่ใช่เพียงแค่การนำเข้าเครื่องชงกาแฟ โดยแต่ละวิธีจะให้รสชาติความอร่อยของกาแฟ ที่ต่างกันออกไป

WM
ขอบคุณภาพจาก: https://www.freepik.com/author/jcomp

1.กาแฟโมกาพ็อต (Moka Pot)
Moka pot คือเครื่องชงกาแฟที่คิดค้นขึ้นโดย ลุยจี เดอ ปอนติ ชาวอิตาเลียน การชงประเภทนี้จะได้รับความนิยมอย่างมาก ในหมู่คอกาแฟที่ชอบกาแฟเข้ม ๆ โดยเครื่องโมกาพ็อตนี้เป็นกาทรงสูงทำจากสแตนเลส เป็นที่นิยมในแถบยุโรป และลาตินอเมริกา ทั้งนี้ยังถูกจัดแสดงในพิพิธภัณฑ์การออกแบบหลายแห่ง ด้วยความที่มีรูปทรงที่สวยงามเป็นเอกลักษณ์

วิธีการชง
ก็ทำได้โดยการใส่น้ำลงไปในหม้อ ให้ถึงขีดที่แนะนำเอาไว้ ใส่กรวยกาแฟลงไปตามด้วยกาแฟ จากนั้นให้ปิดฝา แล้วนำไปต้มจดได้น้ำที่ร้อน และมีไอน้ำดันให้น้ำพุ่งขึ้นผ่านกาแฟ แล้วทำการปิดไฟ น้ำกาแฟที่เหลือก็จะดันตัวขึ้นมาอยู่ในกาด้านบน ก็จะได้น้ำกาแฟพร้อมดื่มแล้ว
**ควรบดกาแฟให้หยาบกลาง ๆ ระหว่างการชงแบบเอสเพรสโซ และดริป เพราะอาจทำให้ได้กาแฟที่มีความขมมากไป

2.กาแฟไนโตร (Nitro Cold Brew)
การชงจะเหมือนกับกาแฟสกัดเย็น แต่จะทำในปริมาณที่มากกว่าหลายเท่า จากนั้นจึงอัดไนโตรเจนเข้าไปคล้ายระบบเบียร์ ทำให้ได้ฟองนุ่มเหมือนฟองเบียร์ กาแฟไนโตรจะดึงรสชาติ และกลิ่นหอมของกาแฟปนมากับฟองนุ่ม ๆ

3.กาแฟสกัดเย็น (Cold Brew)
มีจุดเริ่มต้นเมื่อประมาณปี 1600 ซึ่งเป็นยุคที่กาแฟดัตซ์นิยมกันทั่วโลก โดยที่เหล่าพ่อค้าจึงค้นหาวิธีนำกาแฟแบบพร้อมดื่มขึ้นไปบนเรือโดยที่ไม่เสียของ ทางด้านเอเชีย กาแฟสกัดเย็นได้เข้าสู่ประเทศญี่ปุ่นประเทศแรก รู้จักกันในชื่อว่า Kyoto Coffee

วิธีการชง
การชงกาแฟสกัดเย็นนี้เป็นการชงที่ง่าย ไม่ซับซ้อน แต่ต้องใช่เวลานานกว่าจะได้ลิ้มรสกาแฟ ซึ่งชงหรือสกัดด้วยน้ำที่มีอุณหภูมิต่ำ เพียงแค่นำเมล็ดกาแฟบดลงไปในโหล แล้วรินน้ำเย็นตาม จากนั้นก็ปิดฝาโหลทิ้งไว้ข้ามคืน อาจจะนำไปแช่ตู้เย็นก็ได้เช่นกัน ในวันรุ่งขึ้นต้องนำน้ำกาแฟที่ได้ มากรองผ่านกระดาษกรองเพื่อแยกกากกาแฟออก โดยในปัจจุบันนี้สามารถหาดื่มได้ เนื่องจากมีการบรรจุขวดขายตามร้านกาแฟ
**เคล็ดลับ กาแฟสกัดเย็นนี้ เหมาะกับเมล็ดคั่วอ่อน และบดหยาบ เพื่อให้ได้รสชาติที่ไม่ขมเข้มจนเกินไป

WM
ขอบคุณภาพจาก: https://www.freepik.com/author/valeria-aksakova

4.เอสเพรสโซ (Espresso)
วิธีการชงกาแฟที่เกิดจากสิ่งประดิษฐ์ของ อันเจโล โมริออนโด เมื่อปี 1884 จากเครื่องชงกาแฟด้วยไอน้ำ หรือ Espresso Machine หลังจากนั้น ลุยจีเบซเซรา นักประดิษฐ์ชาวอิตาเลียนอีกคน ได้มาสานต่อ และพัฒนาจนกลายเป็นที่นิยมในเวลาต่อมา ถือเป็นการชงกาแฟที่เราสามารถพบเห็นได้ทุกวัน ตามร้านกาแฟต่าง ๆ สำหรับการชงประเภทนี้ เป็นการใช้เครื่องชง Espresso Machine ในการใช้แรงอัดไอน้ำ หรือน้ำร้อนผ่านเมล็ดกาแฟคั่วที่บดละเอียด คือการใช้น้ำน้อยที่สุด จึงทำให้ได้รสชาติกาแฟที่เข้มข้น มีกลิ่นหอมกาแฟแบบชัดเจน จึงถือว่าเป็นการชงที่ได้รับความนิยมอย่างมาก

5.กาแฟแอโรเพรส (Aeropress)
กาชงแบบแอโรเพรสนี้ เริ่มขึ้นเมื่อปี 2005 โดยนักฟิสิกส์ อลัน แอดเลอร์ ผู้ที่คิดค้นเครื่องแอโรเพรส ที่มีลักษณะเป็นท่อ 2 ชิ้น ประกอบเข้าด้วยกันเหมือนไซริงก์ จะได้รสชาติกาแฟที่เข้มข้นใกล้เคียงกับการชงแบบเอสเพรสโซ เป็นการชงกาแฟด้วยวิธีที่ง่ายมาก เพียงเติมน้ำร้อนที่ได้อุณหภูมิตามที่ต้องการให้เหมาะสม กับกาแฟแต่ละชนิด โดยการทำกาแฟแบบ Aeropress นี้ จะเป็นการใช้แรงดันอากาศ ดันน้ำร้อนให้ผ่านผงกาแฟ และกรองด้วย Filter ที่มีรูพรุนขนาดเล็กมาก

กาแฟจะมีรสชาติที่ดีได้หากใช้เมล็ดกาแฟคุณภาพนั่นเอง คุณต้องเลือกเมล็ดกาแฟที่ดี ในแบบที่คุณชอบ เพื่อที่จะได้รังสรรเมนูกาแฟให้ออกมามีความกลมกล่อม อร่อย และเป็นที่ถูกใจค่ะ สำหรับวิธีการชงที่ DooDiDo นำมาบอกกันในวันนี้ เจ้าของร้านกาแฟสามารถนำไปปรับใช้ในร้านของคุณได้เลยนะคะ รับรองว่าจะต้องมีลุกค้าเข้ามาอุดหนุนกันอย่างแน่นร้านเลยค่ะ

ขอบคุณแหล่งที่มา : https://bluemochathailand.com