“บลูเบอร์รี่สมูทตี้” เครื่องดื่มสีม่วง เหมาะสำหรับคนรักสุขภาพ

บลูเบอร์รี่เป็นผลไม้ที่มีสารต่อต้านอนุมูลอิสระสูงมาก มากที่สุดในผลไม้ตระกูลเบอร์รี่

ในช่วงที่อากาศร้อน ๆ แบบนี้ได้สมูทตี้เย็น ๆ สักแก้ว รับรองว่าสดชื่นหายร้อนกันอย่างแน่นอน เมนูเครื่องดื่มสมูทตี้ป็นที่นิยมอย่างมาก เราสามารถนำผลไม้ที่เราชอบมาผสมกับโยเกิร์ตแล้วนำมาปั่นจะได้รสชาติที่ลงตัว ละมุนแบบสุด ๆ ซึ่งนอกจากจะได้ประโยชน์จากผลไม้ที่เราชื่นชอบแล้วยังได้ประโยชน์จากโยเกิร์ตที่ดีต่อลำไส้อีกด้วยค่ะ วันนี้จะขอแนะนำสูตรการทำบลูเบอร์รี่สมูทตี้ ที่ขั้นตอนสุดแสนจะง่าย อร่อย เหมาะสำหรับคนรักสุขภาพมาฝากค่ะ

บลูเบอร์รี่ (Blueberry) ผลไม้ลูกจิ๋วสีน้ำเงินอมม่วง ที่คุณประโยชน์ไม่จิ๋วเลยแม้แต่น้อย เป็นผลไม้หนึ่งในตระกูลเบอร์รี่ ที่ไม่ว่าจะทานสดๆ หรือเอาไปเป็นส่วนผสมในเมนูอะไรก็อร่อยทั้งนั้น ด้วยรสเปรี้ยวอมหวานและความจุ๊ยซี่ที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว ยิ่งช่วงนี้กระแสฟิตแอนด์เฟิร์มมาแรง สาวๆ ครึ่งค่อนเมืองจึงหันมานิยมทานผลไม้เพื่อดูแลสุขภาพ และเชื่อว่าเจ้าบลูเบอร์รี่ก็ต้องเป็นผลไม้ติดท็อปลิสในใจของใครหลายๆ คน นอกจากอร่อยแล้ว คุณประโยชน์ยังมากเกินตัวกันอีกด้วย

ส่วนผสม
– บลูเบอร์รี่สด หรือ แช่แข็ง 1 ถ้วย
– โยเกิร์ตรสจืด 1 ถ้วย
– เมล็ดเจีย 2 ช้อนโต๊ะ
– นมสด ¾ ถ้วย
– น้ำตาล หรือ น้ำผึ้ง 2 ช้อนโต๊ะ
– กลิ่นวานิลลา 1 ช้อนชา
– มะพร้าวฝอยอบกรอบ สำหรับแต่งหน้า

วิธีทำ
1.นำผลไม้ และเมล็ดเจีย มาใส่เครื่องปั่น พร้อมทั้งใส่นมและโยเกิร์ต ลงไปปั่นให้เข้ากันดี
2.เติมกลิ่นวานิลลาลงไป ปั่นผสมให้เข้ากัน
3.เติมน้ำผึ้งหรือน้ำตาล หรือไม่เติมก็ได้ เพื่อปรับรสชาติตามชอบ
4.สามารถตกแต่งหน้าด้วยมะพร้าวฝอย และเพิ่มด้วยผลไม้สดตามชอบ

คุณประโยชน์ของบลูเบอร์รี่

1. อุดมด้วยสารต้านอนุมูลอิสระ
บลูเบอร์รี่เป็นผลไม้ที่มีสารต่อต้านอนุมูลอิสระสูงมาก มากที่สุดในผลไม้ตระกูลเบอร์รี่เลยด้วยซ้ำ การบริโภคผลไม้ชนิดนี้เป็นประจำจึงช่วยต่อต้านสารอนุมูลอิสระต่างๆ ที่จะมาทำลายผิวให้เกิดริ้วรอย แถมยังช่วยขจัดเซลล์ผิวเก่าที่เสื่อมสภาพแล้วให้หลุดออกไป พร้อมเผยผิวใหม่ที่สดใสกว่าเดิม

2. ช่วยชะลอเซลล์มะเร็ง
การบริโภคบลูเบอร์รี่เป็นประจำ สามารถยับยั้งการเจริญเติบโตของเซลล์มะเร็งได้เป็นอย่างดี โดยเฉพาะมะเร็งเต้านม มะเร็งลำไส้ และมะเร็งต่อมลูกหมาก จากการทดลองให้ผงบลูเบอร์รี่กับหนูที่เป็นมะเร็งเต้านม ผลการทดลองออกมาว่า ปริมาณเนื้องอกลดลงถึง 40%

3. ช่วยลดน้ำหนักได้เป็นอย่างดี
เนื่องจากผลไม้ชนิดนี้ มีกากใยสูงถึง 3.6 กรัม และมีแคลอรี่ต่ำ การที่รับประทานผลไม้ที่มีไฟเบอร์สูงๆ แบบนี้จะทำให้เรารู้สึกอิ่มนานขึ้น แถมยังช่วยให้ระบบขับถ่ายทำงานได้ดีขึ้น จึงถือเป็นอีกหนึ่งตัวเลือกที่ดีมาก สำหรับคนที่ต้องการลดความอ้วน

4. ช่วยบำรุงสมอง
อีกหนึ่งคุณประโยชน์ที่สำคัญมากๆ คือบลูเบอร์รี่สามารถช่วยบำรุงระบบประสาท ทำให้สมองทำงานได้เต็มที่ ทำให้ความจำดีขึ้น อีกทั้งถ้ารับประทานอย่างต่อเนื่องยังสามารถป้องกันโรคความจำเสื่อมในวัยสูงอายุได้

5. ช่วยย่อยอาหารและระบบขับถ่ายดี
บลูเบอร์รี่มีไฟเบอร์สูงมาก เพราะฉะนั้นจึงมีส่วนช่วยให้ระบบขับถ่ายทำงานได้มีประสิทธิภาพมากขึ้น หรือถ้าในบางวันที่เราทานเนื้อสัตว์เยอะๆ อาจทำให้เรามีภาวะจุกเสียดแน่นท้องเพราะอาหารไม่ย่อย แนะนำให้ทำบลูเบอร์รี่สมูทตี้ดื่มตามมื้ออาหาร สาร Actinide ที่อยู่ในบลูเบอร์รี่จะเป็นตัวช่วยย่อยโปรตีนได้ดี

6. ช่วยบำรุงหัวใจ
การรับประทานอย่างต่อเนื่อง จะทำให้สามารถลดการแข็งตัวของเลือดและลดไตรกีเซอไรด์ลงได้ หลายคนที่มีภาวะโรคหัวใจ ในผู้ป่วยบางรายแพทย์อาจจ่ายยาที่มีแอสไพรินเพื่อลดการแข็งตัวของเลือด ซึ่งการรับประทานบ่อยเกิดไปอาจมีผลข้างเคียงกับร่างกายหลายอย่าง เพราะฉะนั้นหากรับประทานบลูเบอร์รี่อย่างต่อเนื่องก็สามารถต่อต้านการเกิดภาวะดังกล่าวได้ดีต่อสุขภาพเช่นกัน

7. ช่วยบำรุงเลือด บำรุงผิวพรรณ
บลูเบอร์รี่มีสารแอนโทไซยานิน (Anthocyanin) ประกอบอยู่ เป็นสารจำพวกฟลาโวนอยด์ที่มีสีแดงอมม่วง สารนี้มีประโยชน์ช่วยทำให้หลอดเลือดแข็งแรง ช่วยทำให้การไหลเวียนของเลือดในระดับที่เล็กมากขึ้น และช่วยในการทำงานของกระบวนการเมตาบอลิซึ่มของเซลล์เรตินา อีกทั้งยังอุดมไปด้วยวิตามินซี จึงช่วยในการบำรุงผิวพรรณให้สดใส เปล่งปลั่ง และแก้มแดงมีเลือดฝาด ดูผิวสวยแบบสุขภาพดีอีกด้วย

สมูตตี้คือสูตรของแต่ละคน ไม่มีสูตรที่ตายตัว เพราะคนเรานั้นชอบไม่เหมือนกัน เพื่อน ๆ สามารถเติมผลไม้อื่น ๆ ที่ชอบลงไปผวมด้วยก็ได้นะคะ จะได้เพิ่มรสชาติความอร่อย และเพิ่มประโยชน์ให้กัับสุขภาพ DooDiDo  แต่ก่อนทำต้องล้างผลไม้ให้สะอาดก่อนนะคะ ไม่งั้นอาจได้รับสารพิษตกค้างจนทำให้เกิดอาการท้องเสีย จู๊ด จู๊ด ทางเราไม่รับประกันนะคะ

ขอบคุณแหล่งที่มา : www.madeinrecipes.com, https://serenehospitalthailand.com