ควรรู้ 7 ข้อการดูแลตนเองให้สุขภาพดีทั้งร่างกายและจิตใจ

WM

วิธีปฏิบัติง่ายๆ ที่จะนำมาซึ่งสุขภาพดีทั้งร่างกายและจิตใจ

แน่นอนค่ะว่าการที่เราจะมีสุขภาพที่ดีได้นั้น หนึ่งในปัจจัยหลักๆ อยู่ที่การทานค่ะ เพราะถ้าเรากินแต่สิ่งที่ดีมีประโยชน์ร่างกายเราก็จะได้รับแต่สารอาหารที่ดี บางคนชอบกินแต่อาหารที่ไม่มีประโยชน์ ร่างกายก็จะทำงานหนักในการขับสิ่งไม่ดีออกไป หลักการกินอย่างที่เราเคยเรียนมาง่ายๆ เลยครับ แค่กินอาหารให้ครบ 5 หมู่ โภชนาการครบถ้วนและหลากลาย เน้นโปรตีนและคาร์โบไฮเดรตที่มีประโยชน์ ขนมหรือของหวานชนิดไหนที่ให้พลังงานที่สูงมากก็ควรหลีกเลี่ยงหรือกินให้น้อยลง เครื่องดื่มก็สั่งเป็นแบบหวานน้อยเพื่อลดน้ำตาลลง อาจจะไม่อร่อยเหมือนเดิม แต่สุขภาพที่ได้กลับมานั้นจะดีขึ้นอย่างแน่นอน

สุขภาพกาย หมายถึง สภาพของร่างกายของคนเราที่มีความแข็งแรง สมบูรณ์ ระบบต่าง ๆ ของร่างกายสามารถทำงานได้อย่างปกติและมีประสิทธิภาพ ต้านทานโรคได้ดี ปราศจากโรคภัยไข้เจ็บหรือความทุพพลภาพ ดังนั้น ลักษณะของผู้ที่มีสุขภาพกายที่ดี มีดังนี้มีการเจริญเติบโตทางด้านร่างกายที่สมวัย มีน้ำหนัก และส่วนสูงเป็นไปตามเกณฑ์อายุ

สุขภาพจิต หมายถึง สภาวะทางจิตใจมีความสดชื่น แจ่มใส สามารถปรับตัวให้เข้ากับการเปลี่ยนแปลงของสังคมและสิ่งแวดล้อมต่าง ๆ ได้ดี ตลอดจนสามารถควบคุมอารมณ์ให้มั่นคงเป็นปกติ ปราศจากความขัดแย้งหรือความสับสนภายในจิตใจ  ดำรงตัวเองอยู่ในสังคมได้ดี การมีสุขภาพร่างกายและสุขภาพจิตใจที่ดีมีความสัมพันธ์กันอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้อันจะนำมาซึ่งความสุขในชีวิตที่ทุกคนปรารถนา เพราะการมีร่างกายที่สมบูรณ์แข็งแรงย่อมส่งผลให้จิตใจสดชื่น เบิกบาน ในทางตรงข้าม หากร่างกายที่ไม่แข็งแรงก็ย่อมส่งผลให้จิตใจห่อเหี่ยว มีแต่ความกังวล และนี่คือวิธีปฏิบัติง่าย ๆ ที่จะนำมาซึ่งสุขภาพดีทั้งร่างกายและจิตใจ

WM
ขอบคุณภาพจาก: https://unsplash.com/@nikolay_smeh

1.เลือกรับประทานอาหารอย่างถูกต้องตามหลักโภชนาการ

อาหารที่มีประโยชน์เป็นปัจจัยพื้นฐานที่จะนำไปสู่การมีสุขภาพร่างกายที่ดี การรับประทานอาหารที่ปรุงสุกใหม่ สด สะอาดให้ครบ 5 หมู่ในปริมาณที่เหมาะสมและเพียงพอต่อความต้องการของร่างกายจะช่วยให้มีสุขภาพร่างกายที่แข็งแรงและห่างไกลจากโรคภัยไข้เจ็บต่าง ๆ

2.ดื่มน้ำสะอาดอย่างน้อย 8–10 แก้ว

อย่างที่ทราบกันดีว่าร่างกายมนุษย์มีน้ำเป็นส่วนประกอบถึงร้อยละ 70 การดื่มน้ำสะอาดอย่างเพียงพอนั้นมีประโยชน์ต่อร่างกายอย่างมาก เนื่องจากน้ำเป็นตัวกลางในการเกิดปฏิกิริยาเคมีทุกชนิดตั้งแต่กระบวนการการย่อยอาหาร กระบวนการดูดซึมอาหาร และกระบวนการขับถ่ายของเสียออกจากร่างกาย หากขาดน้ำ ร่างกายอาจทำงานผิดปกติได้

3.หมั่นออกกำลังกายเป็นประจำอย่างสม่ำเสมอ

การออกกำลังกายมีส่วนช่วยให้ร่างกายแข็งแรงขึ้น เพราะทำให้หัวใจ กล้ามเนื้อ ปอดทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ ช่วยให้การไหลเวียนของโลหิตและระบบเผาผลาญทำงานได้ดีขึ้น อีกทั้งยังช่วยผ่อนคลายความเครียดจากการหลั่งสารเอนดอร์ฟิน (Endorphins) หรือสารแห่งความสุข

WM
ขอบคุณภาพจาก: https://pixabay.com/th/users/olichel-529835/

4.นอนหลับพักผ่อนอย่างเพียงพอ

ร่างกายต้องการการพักผ่อนอย่างน้อย  6-8 ชั่วโมงขึ้นกับช่วงอายุ ในขณะนอนหลับเป็นช่วงที่ร่างกายจะได้พักผ่อน ฟื้นฟู และซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอได้อย่างเต็มที่ ตลอดจนเป็นช่วงที่ร่างกายจะผลิตฮอร์โมนต่อต้านการแก่ชรา การขาดการนอนหลับทำให้ร่างกายเหนื่อยล้าและเพิ่มความเสี่ยงในการเกิดโรคร้ายต่าง ๆ และอาจทำให้ดูแก่ก่อนวัยได้

5.บริหารและบำรุงสมองอย่างต่อเนื่อง

สมองเป็นอวัยวะหนึ่งที่มีความสำคัญอย่างยิ่งเนื่องจากรับหน้าที่ในการควบคุมการทำงานของระบบและอวัยวะต่าง ๆ ตลอดจนความรู้สึกนึกคิด การบริหารสมองไม่ว่าจะเป็นการเล่นหมากรุก เกมอักษรไขว้ เกมจับผิดภาพ เกมจำตำแหน่งภาพจะช่วยเสริมสร้างสุขภาพสมองที่ดี นอกจากนี้อาจรับประทานสารอาหารที่ช่วยบำรุงสมองอย่างน้ำมันปลาและวิตามินบีร่วมด้วยเพื่อช่วยในการหมุนเวียนเลือดและลดอาการหลงลืม

6.ฝึกการปล่อยวาง

จิตใจที่เป็นทุกข์ย่อมนำมาซึ่งความเครียดและความวิตกกังวล ซึ่งส่งผลเสียต่อสุขภาพอย่างมาก การมองโลกในแง่ดี ปล่อยวางจะช่วยให้จิตใจสงบและไม่จมอยู่กับความทุกข์ อาจเริ่มจากการนั่งสมาธิอย่างน้อยวันละ 5-10 นาทีเพื่อพิจารณาสิ่งที่ผ่านเข้ามาชีวิต เมื่อฝึกได้ระยะหนึ่ง เราก็จะสามารถควบคุมสติ อารมณ์ มีมุมมองต่อโลกในแง่ดีขึ้น ส่งผลโดยตรงต่อสุขภาพจิต และห่างไกลจากโรคเครียดหรือโรคซึมเศร้า

WM
ขอบคุณภาพจาก: https://unsplash.com/@hush52

7.เข้ารับการตรวจสุขภาพเป็นประจำทุกปี

การตรวจสุขภาพถือเป็นการลงทุนเบื้องต้นสำหรับการมีชีวิตที่ยืนยาว โดยจะช่วยตรวจหาโรคที่แอบแฝงและป้องกันความรุนแรงและภาวะแทรกซ้อนของโรคที่อาจเกิดขึ้น ยิ่งหากพบความผิดปกติเร็วขึ้นเท่าไร ก็จะช่วยให้รักษาได้เร็วขึ้นเท่านั้น แม้เพียงแค่ตรวจพบความเสี่ยง เราก็สามารถปรับเปลี่ยนพฤติกรรมในการดำรงชีวิตให้ถูกต้องได้ ทุกคนจึงควรเข้ารับบริการตรวจสุขภาพเป็นประจำทุกปีโดยมีแนวทางการตรวจสุขภาพตามช่วงอายุ ดังนี้

แม้การตรวจสุขภาพประจำปีจะช่วยให้มั่นใจได้ถึงการมีสุขภาพร่างกายที่สมบูรณ์แข็งแรงแล้ว แต่หากต้องไม่ลืมที่จะดูแลสุขภาพจิตใจให้แข็งแรงอยู่สม่ำเสมอเช่นกัน ซึ่งการมีสุขภาพร่างกายและจิตใจที่ดี DooDiDo เชื่อว่าย่อมนำมาซึ่งความสุขในชีวิตได้ไม่ยากนะคะ

ขอบคุณแหล่งที่มา: www.medicallinelab.co.th