คนเลี้ยงต้องดู 5 อาการที่เกิดขึ้นกับสุนัขเมื่อน้องเมารถ!!
แนะนำ! 6 วิธีในการแก้ปัญหาสุนัขเมารถที่เกิดจากการเมารถและกลัวรถ
อาการเมารถไม่ได้เกิดขึ้นเฉพาะกับคนเท่านั้น แต่สามารถเกิดขึ้นได้กับสัตว์เลี้ยงของคุณอีกด้วย โดยเฉพาะน้องหมานั่นเองค่ะ คุณรู้หรือไม่คะว่าน้องหมาก็สามารถเมารถได้เหมือนกัน วันนี้เรามีอาการที่บ่งบอกว่าน้องกำลังเมารถมาให้คุณได้สังเกต เพื่อที่จะได้เตรียมตัวในการรับมือกับอาการเมารถของน้อง เมื่อต้องพาน้องนั่งรถออกไปนอกบ้านด้วยกันค่ะ
อาการเมารถของสุนัขนั้นเกิดจากการเดินทางด้วยรถยนต์ที่มีการใช้ความเร็วไม่คง อาจจะช้าง เร็วบ้าง ทำให้ช่องหูส่วนในทำงานไม่สมดุลกับสมองส่วนรับสัญญาณที่เกี่ยวกับความเคลื่อนไหว ซึ่งตรงนี้สุนัขจะมีการแสดงออกที่แตกต่างกันออกไป ทั้งแบบที่แสดงออกมาอย่างชัดเจน เห็นชัด และแบบที่ถ้าไม่สังเกตให้ดีก็จะไม่รู้ว่าสุนัขมีอาการเมารถ หรือมันแค่ง่วงกันแน่ เจ้าของจึงต้องมีการสังเกตพฤติกรรมของสุนัขตนเองอยู่เสมอ ว่าปกติมีนิสัยเช่นไร เพื่อให้ง่ายต่อการประเมินอาการต่างๆ ของสุนัข
1.สุนัขจะแสดงความวิตกกังวลออกมา แต่เจ้าของไม่ทันสังเกต เช่น อาการลุกลี้ลุกลนที่ไม่ใช่การอยากรู้อยากเห็น แต่เป็นความกังวล เท้าเย็นกว่าปกติ สงบนิ่งผิดปกติหรือนอนซึมคล้ายจะหลับ แต่ไม่ได้หลับ
2.สุนัขเลียปากบ่อย มีน้ำลายสอ หน้าตาไม่ผ่อนคลาย ตึงเครียด
3.ชีพจรเต้นเร็ว หายใจถี่ๆ เหมือนจะหอบ เวลาเดินจะเซ
4.น้ำลายไหลมากขึ้นจนเยิ้มเปื้อนไปหมด
5.สุนัขจะขย้อนคอ อึกๆๆ แล้วอาเจียนออกมา ซึ่งเป็นขั้นที่รุนแรง และต้องรีบได้รับการดูแลอย่างเร่งด่วน บางรายอาเจียนจนหมดแรงถึงขั้นต้องรีบนำส่งสัตวแพทย์
วิธีการแก้ปัญหาสุนัขเมารถที่เกิดจากการเมารถและกลัวรถ
1.อาการกลัวรถของสุนัขนั้นฝึกกันได้
แต่ต้องใช้ระยะเวลาและความใส่ใจ เมื่อฝึกเสร็จแล้วสุนัขก็จะไม่กลัวรถอีก เหมือนเป็นการปรับพฤติกรรมอย่างถาวรโดยไม่ต้องพึ่งยา สามารถฝึกเองได้ที่บ้าน
2.เหตุผลที่สุนัขกลัวรถนั้นเกิดจากความไม่คุ้นชิน
เพราะสุนัขไม่เคยขึ้นรถมาก่อน เจ้าของสุนัขจึงจะต้องฝึกให้สุนัขมีความคุ้นเคยกับรถให้ได้ โดยใช้วิธีการอย่างค่อยเป็นค่อยไป ร่วมกับการใช้รางวัลเป็นตัวล่อ เป็นการซื้อใจสุนัข ง่ายที่สุดก็คือ การให้รางวัลเป็นของกินกับสุนัข เป็นวิธีที่สุนัขทุกตัวชอบมาก
3.เริ่มแรก เจ้าของสุนัขพาสุนัขไปที่รถ
เปิดประตูให้สุนัขขึ้นมาบนรถ ถ้าสุนัขไม่ขึ้นก็อย่าใช้กำลังบังคับ เพราะจะยิ่งทำให้สุนัขหวาดวิตก และเกิดการต่อต้านการฝึกได้ วิธีง่ายๆ ก็คือ นำอาหารมาล่อสุนัข ให้เขาเดินตามขึ้นมาเอง โดยให้สุนัขกินอาหารบนรถ
4.ปล่อยให้สุนัขนั่งอยู่บนรถโดยยังไม่ต้องสตาร์ทรถ
ปล่อยให้สุนัขได้อยู่แบบนั้นไปก่อน สุนัขจะหันมองสำรวจสิ่งแวดล้อมที่อยู่รอบตัว ถ้าหากสุนัขอยู่ได้นานโดยไม่มีทีท่าจะกระโจนหนี เจ้าของสุนัขก็ให้รางวัลที่เป็นอาหารกับสุนัข
5.เริ่มสตาร์ทรถ แล้วสังเกตอาการของสุนัขว่ามีท่าทีตกใจ
หวาดกลัว หรืออยากกระโจนลงรถหรือไม่ โดยยังไม่ต้องขับรถออกไป ถ้าหากสุนัขนั่งได้นานจนพอใจแล้ว ก็ค่อยๆ ขับรถออกไป แต่ไม่ต้องขับรถออกไปไกลนัก โดยจอดเป็นระยะใกล้ๆ ที่ตั้งไว้ เมื่อขับมาถึงเป้าหมาย ก็ให้รางวัลสุนัขอีกอีกครั้ง
6.วันต่อมาให้ขับไปไกลขึ้นกว่าเดิม
และระยะห่างจากจุดแรก ไปจุดถัดไปก็ให้ไปไกลกว่าเดิมขึ้นเรื่อยๆ สุนัขจะได้รับการปรับตัวขึ้นทีละนิด จนในที่สุดก็จะเกิดความเคยชิน ไม่รู้สึกเมารถอีกต่อไป ไม่ว่าจะนั่งตรงไหน ยกเว้นช่วงที่กำลังป่วย สิ่งสำคัญก็คือ เจ้าของสุนัขจะต้องมีวินัยในการฝึก และจัดหาเวลาว่างเพื่อมาฝึก การเตรียมตัวล่วงหน้าจึงเป็นวิธีการป้องกันการเมารถในสุนัขได้ดีที่สุด
ด้วยสภาพแวดล้อมในรถยนต์มีความคับแคบ หรือบางครั้งในรถยนต์อาจจะมีกลิ่นที่น้องหมาไม่คุ้นเคย อาจทำให้น้องเกิดความเครียด จิตใจไม่มั่นคง นำไปสู่อาการเมารถได้ DooDiDo เจ้าของต้องคอยสังเกตอาการของน้องให้ดี และจะต้องงดให้อาหารสุนัขก่อนการเดินทางเป็นเวลา 2 ชั่วโมง เพื่อรอให้อาหารย่อยจนสุนัขท้องว่าง เพื่อเป็นการป้องกันไม่ให้น้องหมาอาเจียนออกมา ขณะกำลังเดินทางอยู่บนรถค่ะ
ขอบคุณแหล่งที่มา : www.petcitiz.info