อาการฮีท หรือแมวติดสัตว์ เกิดขึ้นตอนอายุเท่าไร

อาการฮีท

อาการฮีท หรือแมวติดสัตว์ จะพบได้เมื่อแมวจะร้องโหยหวนและเรียกร้องความสนใจอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะตอนที่ไม่สามารถหาคู่ได้ทำให้เป็นช่วงเวลาที่น่าหงุดหงิดและน่าอึดอัดสำหรับเจ้าของและแมว หากยังไม่สามารถหาคู่ให้แมวได้ในขณะที่มีอาการฮีท เจ้าของต้องเตรียมพร้อมเพื่อรับมือกับอาการติดสัตว์ วิธีที่ดีที่สุดคือการพาแมวไปทำหมัน หรือถ้ายังไม่พร้อมสามารถใช้วิธีการป้องกันอาการฮีทในแมวได้ตามบทความนี้

อาการฮีท
รูปประกอบจาก pexels.com

อาการฮีท หรือแมวติดสัตว์เกิดจากอะไร

อาการฮีท หรือการติดสัตว์ในแมวเป็นปัญหาที่พบมากซึ่งสามารถมีหลายสาเหตุที่ทำให้แมวมีอาการติดสัตว์ ต่อไปนี้คือบางสาเหตุที่อาจทำให้แมวมีอาการติดสัตว์

  • การติดสัตว์จากสภาพแวดล้อม: แมวที่มีการอยู่ร่วมกับสัตว์อื่นๆ ที่มีไวรัส, แบคทีเรีย หรือจุลินทรีย์ต่างๆ อาจถูกติดเชื้อจากสัตว์นั้นๆ ได้ทำให้เกิดอาการฮีท
  • การติดสัตว์จากการร่วมอยู่กับแมวอื่น: อาการฮีทสามารถเกิดจากการสัมผัสกับแมวที่มีเชื้อโรค
  • โรคระบบทางเดินหายใจ: แมวที่มีโรคระบบทางเดินหายใจ เช่น ไวรัสกระดูกหัวและหาง (Feline Calicivirus) อาจมีอาการฮีทเนื่องจากมีการกลายพันธุ์ของเชื้อโรค
  • การติดสัตว์จากการร่วมอยู่ในสถานที่ที่แมวมีความปนเปื้อนสูง: การมีแมวมากมายอยู่ในสถานที่จำกัดทำให้มีความเสี่ยงที่สูงของอาการฮีท
  • การสานต่อจากร่างกายของแมวแม่: มีกรณีที่แมวลูกอาจได้รับเชื้อจากร่างกายของแมวแม่ผ่านทางน้ำลาย, น้ำมูก, น้ำตาที่มีเชื้อโรค

การป้องกันอาการฮีทในแมว

อาการฮีทในแมวนั้นไม่มีทางป้องกันที่สมบูรณ์แบบ แต่การดูแลและการควบคุมสภาพแวดล้อมสามารถช่วยลดความเสี่ยงได้มาก มีวิธีป้องกันอาการติดสัตว์ดังนี้

  • การบำรุงร่างกายแมวอย่างเหมาะสม: การบำรุงร่างกายด้วยอาหารที่ครบถ้วนและเหมาะสมสามารถเสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกันของแมวและไม่มีอาการฮีท
  • การฉีดวัคซีน: การฉีดวัคซีนตามกรอบที่กำหนดสามารถช่วยป้องกันการติดสัตว์จากหลายๆ โรคได้ เช่น ไวรัสโครน่า, ไวรัสกระดูกหัวและหาง และอาการฮีท
  • การควบคุมสิ่งแวดล้อม: การรักษาสุขภาพสิ่งแวดล้อมที่แมวอาศัยอยู่ เช่น การทำความสะอาดบ้าน, การควบคุมปริมาณแมวที่อยู่ร่วมกัน สามารถช่วยลดความเสี่ยงเกิดอาการฮีท
  • การควบคุมสุขภาพระบบทางเดินหายใจ: การตรวจร่างกายและการรักษาโรคระบบทางเดินหายใจที่รวดเร็ว

แมวมีอาการฮีทตอนอายุเท่าไร

แมวสามารถมีอาการฮีทตั้งแต่อายุน้อยมาก อาจเริ่มต้นตั้งแต่ระยะทารก อาการฮีทในแมวนั้นมีหลายปัจจัยที่มีผลต่อความเสี่ยงที่แมวจะติดสัตว์ ซึ่งปัจจัยเหล่านี้รวมถึงสภาพแวดล้อม การพิจารณาสุขภาพของแมวแม่และการติดสัตว์ที่อาจมีในสิ่งแวดล้อม

  • สภาพแวดล้อม: แมวที่อยู่ในสภาพแวดล้อมที่มีสัตว์อื่นๆ รวมทั้งแมวอื่นๆ มีโอกาสมีอาการฮีทสูงขึ้น เช่น การอยู่ในสถานที่ที่มีหลายแมว, การอยู่นอกบ้าน, การมีการสัมผัสกับสัตว์ที่ไม่รู้จัก
  • ระยะเวลา: แมวที่มีอายุน้อยมีโอกาสติดสัตว์สูงขึ้นและมีอาการฮีท เนื่องจากระบบภูมิคุ้มกันของลูกแมวยังไม่ได้พัฒนาได้เต็มที่
  • สุขภาพของแม่: สุขภาพของแมวแม่มีผลมากต่อสุขภาพของลูก แมวที่มีสุขภาพดีมีโอกาสในการนำสุนัขหรือแมวต่อไปแมลงต่ำกว่าแมวที่มีสุขภาพไม่ดี
  • การทำหลังคาหรือที่นอน: แมวที่ทำที่นอนนอนนอนที่มีสัตว์เลี้ยงสัตว์เลี้ยงอื่นๆ อาจมีโอกาสติดสัตว์และมีอาการฮีทสูงขึ้น

วิธีการแก้อาการฮีทของแมว

หากคุณสงสัยว่าแมวของคุณมีอาการฮีท ควรพบสัตวแพทย์เพื่อการวินิจฉัยและการรักษาที่เหมาะสม สามารถใช้วิธีการต่อไปนี้เพื่อจัดการอาการแมวที่สงสัยติดสัตว์

  • พบสัตวแพทย์: หากพบว่าแมวของคุณมีอาการฮีทหรือติดสัตว์หรือมีอาการไม่ปกติ ควรพบสัตวแพทย์ทันที เพื่อให้ได้การวินิจฉัยที่แม่นยำและรับการรักษาที่เหมาะสม
  • การตรวจร่างกาย: สัตวแพทย์อาจทำการตรวจร่างกายและสอบถามประวัติเพื่อประเมินสภาพทั่วไปของแมว นอกจากนี้การตรวจทางห้องปฏิบัติการเพื่อตรวจสอบเชื้อสาเหตุของอาการฮีทที่เป็นไปได้
  • การทำการตรวจอัลตราซาวน์: การทำการตรวจอัลตราซาวน์ (ultrasound) หรือรังสีเอ็กซ์เรย์ (X-ray) อาจต้องใช้เพื่อตรวจสอบภาพของอวัยวะภายในแมว เพื่อพิจารณาถึงความเสี่ยงที่มีสัญญาณของสัตว์ที่มีอาการฮีท
  • การตรวจสอบภาพทางจิตเวช: การตรวจสอบภาพทางจิตเวช (cytology) หรือการทำการตรวจอายุรแพทย์ที่ต่ำเพื่อส่วนที่ทำให้สัตว์ติดสัตว์เพื่อหาสาเหตุอาการฮีท
  • การรักษาที่เหมาะสม: การรักษาอาการฮีทที่เหมาะสมจะขึ้นอยู่กับการวินิจฉัยที่ได้รับ สัตวแพทย์อาจสั่งการให้ยารักษาโรคสำหรับติดสัตว์ หรือทำการผ่าตัดเพื่อนำออก ในบางกรณี

อาการแมวติดสัตว์ เกิดกับตัวผู้หรือตัวเมีย

อาการแมวติดสัตว์หรืออาการฮีท สามารถเกิดกับทั้งตัวผู้และตัวเมียได้ทั้งนั้น โดยอาการ FIP นั้น มีทั้งรูปแบบที่ชัดเจนและรูปแบบที่ไม่ชัดเจน

  • Effusive (Wet) Form: อาการฮีทรูปแบบนี้มักจะเป็นรูปแบบที่มีอาการรุนแรงมากขึ้น แมวอาจแสดงอาการบวมที่ชัดเจนที่ท้องหรือเอวเนื่องจากการสะสมของน้ำเหลือง (ascitic fluid) หรือเหล็กไว้ในช่องท้อง
  • Noneffusive (Dry) Form: อาการฮีทรูปแบบนี้มักจะไม่มีอาการบวมที่ชัดเจน แต่อาจมีอาการอื่นๆ เช่น ขาดสุขภาพ, การลดน้ำหนัก, ปัญหาทางเอนไซม์ หรืออาการอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องกับการทำลายเนื้อเยื่อภายในร่างกาย

บทสรุป

การป้องกันอาการฮีทหรือแมวติดสัตว์ในแมวที่มีประสิทธิภาพควรมีการฉีดวัคซีน, การควบคุมสภาพแวดล้อม, การรักษาสุขภาพแมว, การควบคุมการสัมผัสกับสัตว์ที่ไม่รู้จัก เพื่อลดความเสี่ยงของอาการฮีทตั้งแต่อายุเจริญ หากคุณมีแมวเล็กหรือแมวที่อยู่ในสภาพแวดล้อมที่มีความเสี่ยงสูงควรปรึกษาสัตวแพทย์เพื่อรับคำแนะนำที่เหมาะสมเพื่อป้องกันและรักษาอาการติดสัตว์ในแมว

 

ขอบคุณแหล่งอ้างอิง : vetlexicon.comvin.com/hecatgroup.org.uk

ติดตามเรื่องราวอื่นๆ และเกมส์ที่น่าสนใจได้ที่ : doodido.com