5 อันดับสายพันธุ์กระต่าย ที่คนนิยมนำมาเลี้ยงมากที่สุด??

WM

“กระต่าย” เป็น 1 ในสัตว์เลี้ยงยอดฮิต มีขนฟู สุดน่ารัก

อีกหนึ่งสัตว์เลี้ยงยอดนิยมที่จะไม่พูดถึงไม่ได้เลยก็คือ น้องกระต่ายขนปุุย นั่นเองค่ะ ด้วยความที่กระต่ายมีหน้าตาน่ารักอันเป็นเอกลักษณ์ มีดวงตากลมโตดูใสซื่อและมีหลากหลายสายพันธุ์ให้เลือกเลี้ยง มีขนที่นุ่มฟูและมีขนาดตัวที่สามารถเลือกเลี้ยงได้ จึงไม่แปลกที่กระต่ายจะเป็นสัตว์เลี้ยงที่มาแรงไม่แพ้กับน้องหมาน้องแมวเลยค่ะ

ต้องบอกก่อนเลยว่า กระต่าย เป็นสัตว์เลี้ยงที่มีขนปุกปุยนุ่มนิ่ม มีตากลมแบ๊ว เลยทำให้เป็นสัตว์เลี้ยงที่มีเสน่ห์ และได้รับความนิยมไม่น้อยไปกว่าสุนัขหรือแมวเลยค่ะ เป็นสัตว์ที่เลี้ยงง่าย และเป็นเพื่อนยามเราเหงาได้อีกด้วย ก่อนที่เราจะนำมาเลี้ยง เพื่อนๆ ทราบไหมคะ ว่าเจ้า กระต่าย มีหลากหลายสายพันธุ์ด้วยกัน และถ้าใครยังไม่ทราบ ลองทำความรู้จักกับกระต่ายแต่ละสายพันธุ์กันก่อนดีกว่าค่ะ

WM
ขอบคุณภาพจาก: https://pixabay.com/th/users/gusbellsstudio-785472/

1. กระต่ายไทย (Thai Rabbit)
มาเริ่มกันที่สายพันธุ์แรกกันเลยค่ะ เป็นกระต่ายพื้นบ้านของประเทศไทย สามารถพบเห็นได้ทั่วไป ลักษณะตัวที่ใหญ่เหมือนน้องแมวเลยค่ะ มีความว่องไว ขนสั้น หูยาว หน้าจะค่อนข้างแหลมๆ มีกล้ามเนื้อขาที่แข็งแรง สามารถกระโดดได้สูง ทนต่อสภาพอากาศได้ดี และมีหลากหลายสีด้วยกัน ไม่ว่าจะเป็นสีเทา สีขาว และสีน้ำตาล ซึ่งส่วนมากก็จะมีขายตามร้านขายกระต่าย อย่างตลาดนัด งานกาชาด ต้องบอกก่อนเลยว่า ในปัจจุบันนี้มีการผสมข้ามสายพันธุ์กับกระต่ายพันธุ์อื่นมากขึ้น จึงทำให้กระต่ายไทยแท้ๆ หายากจริงๆ ค่ะ

2. มินิลอป (Mini Lop)
เป็นกระต่ายอีกหนึ่งสายพันธุ์ขนาดกลางที่นิยมเลี้ยงกันอย่างมากในปัจจุบันนี้ เพราะเป็นกระต่ายที่น่ารักและโดดเด่น คือ หูตกอยู่ที่ข้างแก้ม เป็นลักษณะที่แตกต่างจากกระต่ายปกติที่เราคุ้นเคย แถมยังมีนิสัยขี้เล่น ฉลาด และเป็นกันเองอีกด้วย เมื่อโตเต็มวัยจะมีน้ำหนักประมาณ 2.7 กิโลกรัม แต่ถ้าจะเลี้ยงคงต้องเตรียมอุปกรณ์แปรงขนไว้ด้วยนะคะ เพราะสายพันธุ์นี้ผลัดขนค่อนข้างเยอะเลยค่ะ

WM
ขอบคุณภาพจาก: https://pixabay.com/th/users/wildlifeartbykaz-2208510/

3. ไลออนเฮด (Lionhead Rabbit)
สำหรับสายพันธุ์นี้ชื่อก็บอกชัดเจนอยู่แล้วว่าไลออน เป็นเพราะว่าบริเวณแผงคอจะมีขนปุยยาวลักษณะจึงดูคล้ายกับสิงโต ตัวอ้วน สั้น และกลม หูสั้นตั้ง มีขนปกคลุม มีหลากหลายสีด้วยกัน ทั้งสีขาว น้ำตาล ส้ม และสีผสม เมื่อโตเต็มที่จะมีน้ำหนักประมาณ 2 กิโลกรัม พันธุ์แท้ในประเทศไทยค่อนข้างจะหายาก เพราะส่วนใหญ่จะเป็นสายพันธุ์ผสม ทำให้บางตัวเมื่อโตขึ้น แผงคอจะไม่ออก หรือบางตัวแผงคอไม่ได้รูปสั้นบ้างยาวบ้าง

4. โปลิช (Polish Rabbit)
อีกหนึ่งสายพันธุ์ที่ไม่ชอบอากาศร้อน เพราะจะปรับตัวไม่ทัน และทำให้เกิดอาการน็อกได้ เป็นกระต่ายที่มีขนาดตัวเล็กที่สุด ตาโต หูสั้น มีน้ำหนักประมาณ 8 ขีดเท่านั้น ตัวมีขนสวยเงาสีดำเทา แทนสีขาว เป็นสีเดียวกันทั้งลำตัว หรือมีจุดสีแซมเล็กน้อย นับได้ว่าเป็นกระต่ายพันธุ์ที่เล็กที่สุด ขนสีดำ เทา แทน ขาว เป็นสีเดียวกันทั้งลำตัว มีจุดสีแซมเล็กน้อย ดวงตาเล็กเหมือนเมล็ดอัลมอนด์ กระต่ายพันธุ์นี้ขนไม่ยาว ตัวกลมป้อมน่ารักเลี้ยง เหมาะกับคนที่ไม่ชอบหวีขนกระต่ายค่ะ

WM
ขอบคุณภาพจาก: https://sites.google.com/site/bankrataynxysaensn/kratay-phanthu-cex-ri-wu-d-di

5. เจอร์รี่วูดดี้ (Jerry Woody)
อีกหนึ่งสายพันธุ์ที่เป็นที่นิยมเลี้ยงกันอย่างมากในปัจจุบัน มีขนฟูยาวน่ารัก แต่เฉพาะที่หน้าขนจะสั้นกว่าเล็กน้อย ดูผิวเผินคล้ายสุนัขพันธุ์ขนยาว เมื่อโตเต็มที่จะมีน้ำหนักประมาณ 2-3 กิโลกรัม นอกจากนั้นยังมีนิสัยเรียบร้อย จึงเหมาะที่จะเป็นกระต่ายที่เลี้ยงไว้ในบ้าน แต่ต้องแปรงขนอยู่บ่อยๆ นะคะ เพราะกระต่ายสายพันธุ์นี้จะผลัดขนบ่อยมาก จัดเป็นกลุ่มพันธุ์ขนาดกลาง ใครที่ชอบความน่ารัก ขนปุกปุย รับรองไม่ผิดหวัง

น่ารักน่าเลี้ยงมากๆ เลยค่ะกับกระต่ายทั้ง 5 สายพันธุ์ที่ DooDiDo นำมาฝากสำหรับคนรักสัตว์ในวันนี้ จะเห็นได้ว่าลักษณะนิสัยและพฤติกรรมของกระต่ายแต่ละสายพันธุ์นั้นมีความแตกต่างกันออกไป ดังนั้นใครที่ชื่นชอบแบบไหนก็สามารถเลือกได้ตามสายพันธุ์ที่เราสนใจได้เลยนะคะ เมื่อตัดสินใจเลือกน้องมาเลี้ยงแล้วก็ต้องให้ความสำคัญในการดูแลกันด้วยค่ะ

ขอบคุณแหล่งที่มา : www.petcitiz.info