คดีเด็กหาย Frog Boys ข่าวครึกโครมในปี 1991 ประเทศเกาหลีใต้

Frog Boys กับการเดินทางที่ไม่มีวันกลับ จากคดีเด็กหาย กลับกลายมาเป็นคดีฆาตกรรมอำพราง ในปี 1991

ในปี 1991 มีคดีเด็กหายในเกาหลีใต้ที่สร้างความเศร้าให้กับผู้คนในข่าว และต่อมามีความร่วมมือจากหลายกรมช่วยประชาสัมพันธ์และตามหาเด็กกลุ่มนี้ ในอีก 11 ปีข้างหน้ากะโหลกเสื้อผ้าและสิ่งของที่ยืนยันว่าเป็นของกลุ่มเด็กผู้ชายถูกค้นพบ ภายหลังการชันสูตรศพพบว่าทั้งหมดเสียชีวิตจากการฆาตกรรม แต่ไม่มีใครสามารถคลี่คลายคดีและหาตัวผู้กระทำผิดมารับผิดได้ ย้อนกลับไปเมื่อวันที่ 26 มีนาคม 2534 เป็นวันหยุด

เนื่องจากมีการเลือกตั้ง แต่เด็กผู้ชายกลุ่มหนึ่งยังคงตื่น แต่เช้าและหาอะไรเล่น ๆ ในละแวกนั้นโดย 6 คนอายุระหว่าง 9-13 ปี ด.ช.ยู ชอลวอน ด.ช.โจ โฮยอน ด.ช.คิม ยองกยู ด.ช.ปาร์ค ชานอึน ด.ช.คิม จองซิก และ ด.ช.แต ยองคิม ซึ่งทั้งหมดเรียนอยู่ที่โรงเรียนประถมศึกษาซ่ง ในขณะที่เล่นมาสเตอร์แทยังคิมก็กลับบ้านไปทานอาหารเช้า ต่อมาเพื่อนบ้านบ่นว่าเด็ก ๆ กลุ่มนี้เล่นกันเสียงดังทำให้ทุกคนชักชวนกันไปหาไข่กบที่ภูเขาวารีองซึ่งพวกเขาไปเล่นเป็นประจำพร้อมกับเตรียมกระป๋องและไม้เท้าด.ช.แต ยองคิมที่กลับไปกินข้าวเช้าที่บ้านตามมา แต่แม่ของเขาเตือนเขาว่าอย่าไปไกลเกินไปทำให้อาจารย์แทยังคิมตัดสินใจไม่ไปกับเพื่อนของเขา

และยืนมองทั้งหมดหลังจากผ่านไปหลายชั่วโมงพ่อแม่ของเด็กทั้ง 5 คนต่างกังวลเมื่อยังไม่เห็นลูกชายกลับบ้านจึงออกตามหาหลังจากใช้เวลาหลายชั่วโมงก็ยังไม่พบจึงตัดสินใจโทรแจ้งตำรวจเพื่อช่วยตามหาการค้นหาดำเนินต่อไปจนถึงเช้าวันรุ่งขึ้นก็ยังไม่พบร่องรอยของเด็ก ๆ เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจสันนิษฐานว่ากลุ่มดังกล่าวอาจหลงทาง แต่จะกลับมาในไม่ช้า ตอนค่ำทุกคนมีความหวังเพราะแสงไฟในตอนกลางคืนจะช่วยให้ผู้ที่หลงทางหาทางกลับบ้านได้ง่ายขึ้นเมื่อข่าวนี้แพร่ออกไปก็โด่งดังไปทั่วประเทศ

ประธานาธิบดีโรแทวูได้ระดมเจ้าหน้าที่ตำรวจและทหารหลายแสนนายเข้าปิดพื้นที่ภูเขาวรงค์อย่างเร่งด่วนแต่เด็กเหล่านี้หายไปไหนทำไมพวกเขาไม่พบรอยเท้าของพวกเขา ส่วนครอบครัวและประชาชนแจกใบปลิวมากกว่า 8 ล้านใบเพื่อหวังช่วยให้พบเด็ก ๆ และยังมีเงินรางวัล 42 ล้านวอนหรือ 11 ล้านบาทสำหรับผู้ที่สามารถแจ้งเบาะแสจนกว่าจะพบตัวนอกจากนี้ยังประกาศตามหาคนหายบนกล่องนมนามบัตรกระดาษห่อขนมและบนหนังพิมพ์ ใบหน้า พร้อมรูปภาพเด็กและข้อความ Frog Boys ในสื่อต่างๆ และเนื่องจากเด็ก ๆ กลุ่มนี้ได้หายตัวไปเพื่อค้นหาไข่กบบนภูเขาวารีอง ทำให้ทุกคนรู้จักในนาม Frog Boys

จากวันเป็นเดือนและปียังไม่มีความคืบหน้า เกี่ยวกับเด็กที่หายไปไม่มีแม้แต่เบาะแสแม้ว่าครอบครัวจะยังคงตามหามีเพียงครั้งเดียวที่ชายคนหนึ่งอ้างว่าลักพาตัวเด็กและทุกคนยังมีชีวิตอยู่ แต่ในไม่ช้าก็พบว่ามันเป็นเรื่องโกหกแท้จริงแล้วชายคนนี้ต้องการหลอกลวงเพื่อเอาเงินจากครอบครัวของเด็ก ๆ สุดท้ายตำรวจก็ตัดใจเรื่องนี้ ต่อมาในวันที่ 26 กันยายน 2545 ขณะที่ชายคนหนึ่งกำลังปีนเขาว่านยองเขาสังเกตเห็นบางอย่างจากระยะไกล เมื่อเข้าไปดูใกล้ ๆ ก็พบว่ามันเป็นชิ้นส่วนกระดูกคล้ายมนุษย์ที่กระจัดกระจายไปตามหลุมตื้น ๆ นอกจากนี้ยังมีเสื้อผ้าหลายชิ้นอยู่ในหลุม มีลักษณะคล้ายกันหมดคือถอดเสื้อผ้า (ซึ่งเป็นจุดที่สงสัย)

หลังจากได้รับโทรศัพท์จากชายนิรนามว่าพบเสื้อผ้ารวมทั้งกระดูกมนุษย์ที่ภูเขาวรงค์เจ้าหน้าที่จึงรีบไปยังสถานที่ที่ได้รับแจ้งเหตุ หลังจากตรวจสอบหลักฐานปรากฎว่ากระดูกที่พบเป็นของเด็กชายกบที่ค้นหามานาน อย่างไรก็ตามชายที่พบหลักฐานสำคัญนี้ไม่ได้เปิดเผยตัวเอง ทำให้ไม่มีใครรู้ว่าเขาคือใคร ที่ผ่านมาชาวบ้านและเจ้าหน้าที่ได้ระดมค้นหาหลายร้อยคนที่ภูเขาวอรีอง แต่ไม่เคยพบหลักฐานหรือร่องรอย การชันสูตรหาสาเหตุการตาย เจ้าหน้าที่สันนิษฐานเบื้องต้นว่าทั้งหมดเสียชีวิตจากภาวะอุณหภูมิต่ำ (หรือหนาวนั่นเอง) เพราะตอนนั้นเริ่มเข้าสู่ฤดูหนาวและฝนตกทำให้อากาศหนาว

แต่ก็ยังมีหลายคนที่ไม่เชื่อว่าเด็ก ๆ เสียชีวิตด้วยอุบัติเหตุเนื่องจากสภาพศพอยู่ในหลุมขุดตื้น ๆ ทำให้เกิดความสงสัยว่าใครเป็นคนขุดหลุมฝังศพของเด็กชายเหล่านี้ ต่อมาเมื่อมีการชันสูตรพลิกศพปรากฎว่ากะโหลกของเด็กทั้งสามคนแตกเนื่องจากได้รับผลกระทบอย่างหนัก พบกะโหลกศีรษะของเด็กอีก 2 คนถูกยิงด้วยปืนลูกซอง นั่นหมายความว่าเด็กทั้งห้าคนถูกฆาตกรรมอันเป็นผลมาจากคดีเด็กหายกลายเป็นคดีฆาตกรรมที่น่าสะพรึงกลัวที่ยังหาไม่พบ เนื่องจากไม่มีข้อมูลที่จะไปหาผู้ที่สามารถเริ่มก่ออาชญากรรมได้จนกว่าคดีจะสิ้นสุดในที่สุด

แต่เจ้าหน้าที่ยังคงรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อหาข้อมูลเพิ่มเติมที่สามารถนำไปสู่การตัดสินลงโทษคนร้ายได้ ด้านพ่อแม่ของเด็กนำกะโหลกศีรษะของเด็กมอบให้กับศูนย์วิจัยทางการแพทย์เพื่อศึกษาต่อ มีคำถาม ข้อสงสัย และทฤษฎีต่างๆ มากมาย อาทิ หลักฐานบางส่วนในที่เกิดเหตุอาจถูกทำลายไปแล้ว เนื่องจากไม่มีการรักษาที่เหมาะสมสำหรับบริเวณที่พบศพ แต่เลือกที่จะใช้การไถดินแทน โดยไม่ต้องใช้เครื่องมือทางนิติวิทยาศาสตร์ มีการกล่าวหาว่าชิ้นส่วนของเด็กมันไม่ได้ถูกหิ้วด้วยกระเป๋าร่างกาย แต่ใส่ไว้ในกระสอบแทน เกิดคำถามขึ้นว่าหลุมที่พบเป็นสถานที่ที่เด็กเสียชีวิตหรือไม่? มันเป็นอุบัติเหตุหรือสิ่งที่น่าเศร้ากว่านั้น

ฆาตกรทำคนเดียวหรือหลายคน? ในกรณีนี้หลายคนเชื่อว่าผู้ร้ายต้องมีมากกว่า 1 คนเพราะต้องมีใครสักคนเพื่อให้เด็กทั้ง 5 คนอยู่ในความสงบ แต่นักอาชญาวิทยาชาวเกาหลีและสหรัฐฯ ให้ความเห็นว่าเป็นไปได้ที่คนร้ายจะลงมือเพียงคนเดียว เพราะเคยเจอกรณีคล้าย ๆ กันที่คนร้ายลงมือกับเด็กหลายคนด้วยความโหดร้ายเพียงลำพัง ชาวบ้านบางคนคาดเดาว่ากลุ่มคนที่เป็นโรคเรื้อนได้ฆ่าเด็ก ๆ เพราะเชื่อว่าตับของเด็กสามารถรักษาโรคได้ เด็กอาจเสียชีวิตจากกระสุนปืนของทหาร เนื่องจากพื้นที่ในอดีตเคยถูกใช้เป็นที่ซ้อมยิงของทหาร แต่มีบันทึกยืนยันว่าในวันเกิดเหตุซึ่งเป็นวันเลือกตั้งไม่มีการซ้อมยิงปืน

และยังมีอีกทฤษฎีหนึ่งที่ DooDiDo นักจิตวิทยาอาชญากรชาวเกาหลีคาดเดาว่าพ่อของเด็กคนหนึ่งที่ถูกฆ่าน่าจะเป็นคนที่ฆ่าเด็กทั้งหมดเพราะลูก เพื่อดูความลับของเขา เขาจึงฆ่าปิดปากและสิ่งนี้ได้รับการยอมรับจากทางการและสาธารณชนอย่างกว้างขวาง สร้างความไม่พอใจให้กับชุมชนและถูกไล่ออกจากงาน แต่ไม่พบหลักฐานที่เชื่อมโยงเขากับการเสียชีวิตของเด็ก ๆ สุดท้าย แม้จะพบศพเด็กทั้งหมด แต่ก็ทำลายความหวังและทำร้ายครอบครัวที่รอการกลับมาของพวกเขา และคดีนี้ยังคงเป็นปริศนาฆาตกรรมที่ยังหาตัวผู้กระทำผิดมาลงโทษไม่ได้จนถึงทุกวันนี้

แหล่งที่มา : blockdit (เรื่องสยองขวัญกับคดีฆาตกรรม)