การดื่มนมเปรี้ยวช่วยดูแลระบบย่อยอาหารได้เป็นอย่างดี!!

WM

นมเปรี้ยวมีจุลินทรีย์โปรไบโอติกอุดมไปด้วยสารอาหารสำคัญที่มีประโยชน์ต่อสุขภาพมากมาย

อีกหนึ่งเครื่องดื่มที่ทุกบ้านต้องมี ไม่ว่าจะเป็นวัยไหนต่างก็เลือกดื่ม ซึ่งเจ้าเครื่องดื่มที่ว่านี้ก็คือ นมเปรี้ยว นั่นเองค่ะ เป็นเครื่องดื่มที่มีหลากหลายยี่ห้อ มีรสชาติต่าง ๆ ให้เลือกดื่ม ด้วยความอร่อยที่ลงตัว จึงทำให้นมเปรี้ยวเป็นเครื่องดื่มที่ได้รับความนิยมมาอย่างต่อเนื่อง คุณรู้ไหมคะส่านมเปรี้ยวนั้นไม่ได้มีดีแค่รสชาติที่อร่อยเท่านั้นนะคะ นมเปรี้ยวยังอุดมไปด้วยคุณประโยชน์ดี ๆ มากมาย มีส่วนช่วยในการปรับสมดุลของจุลินทรีย์ในร่างกาย แถมยังช่วยดูแลระบบย่อยอาหารของเราได้เป็นอย่างดี

นมเปรี้ยว ( Fermented Milk ) คือ น้ำนมที่ได้จากสัตว์เพศเมียนำมาผ่านกระบวนการทำลายจุลินทรีย์ แล้วทำการหมักจนเกิดกรดแลคติก ( Lactic acid ) หรือรสเปรี้ยวที่เราคุ้นเคยในรสชาติของนมเปรี้ยวนั้นเอง ซึ่งเป็นการถนอมอาหารอย่างหนึ่งสามารถยืดอายุการเก็บรักษานมไว้ให้นานขึ้น ผลการวิจัยพบว่านมเปรี้ยวมีจุลินทรีย์โปรไบโอติกอุดมไปด้วยสารอาหารสำคัญที่มีประโยชน์ต่อสุขภาพมากมาย และยังป้องกันและลดความเสี่ยงของการเกิดโรคมะเร็งได้อีกด้วย นมเปรี้ยวนั้น อุดมไปด้วยคุณประโยชน์มากมาย ช่วยปรับสมดุลของจุลินทรีย์ในร่างกาย และยังช่วยดูแลระบบย่อยอาหารของเราได้เป็นอย่างดี และประโยชน์ในด้านอื่น ๆ อีกมากมาย ดังนี้

WM
ขอบคุณภาพจาก: https://www.freepik.com/author/freepik

1. แหล่งวิตามินบี และวิตามินเค
จุลินทรีย์ในนมเปรี้ยว สามารถสังเคราะห์วิตามินบี 1 และวิตามินเคในลำไส้ ซึ่งเป็นวิตามิน ที่มีความสำคัญต่อการทำงานของร่างกาย ป้องกันโรคเหน็บชา และช่วยในการแข็งตัวของเลือดได้

2. รักษาอาการท้องเสีย
การดื่มนมเปรี้ยว ที่เกิดจากวิธีการหมัก จะมีทั้งกรดแลคติก และเชื้อจุลินทรีย์ที่มีชีวิตอยู่ในน้ำนม ทุกครั้งที่ดื่มนมเปรี้ยว ไม่เพียงแต่ได้รับสารอาหาร ที่เป็นประโยชน์เท่านั้น แต่ยังได้รับจุลินทรีย์ที่ยังมีชีวิตจำนวนหนึ่งเข้าสู่ร่างกาย จุลินทรีย์เหล่านี้ จะช่วยปรับสภาพของลำไส้ ให้กลับมาอยู่ในภาวะสมดุลอีกครั้ง และทำให้อาการท้องเสียหายไปได้ รวมถึงสามารถรักษาโรคท้องเดิน และแผลในกระเพาะอาหารได้อีกด้วย ซึ่งจุลินทรีย์ที่มีชีวิตนี้ คือ ตัวการสำคัญที่ทำให้นมเปรี้ยวมีคุณค่าต่อร่างกายนั่นเอง

3. ยกระดับภูมิคุ้มกันโรคให้สูงขึ้น
จุลินทรีย์ในนมเปรี้ยว นอกจากป้องกัน และรักษาโรคได้ แต่ยังมีคุณสมบัติ กระตุ้นภูมิคุ้มกันในร่างกายให้สูงขึ้นด้วย และยังช่วยป้องกันโรคหลอดเลือดหัวใจ โดยเชื้อแลคโตบาชิลัส จะช่วยควบคุมปริมาณคลอเลสเตอรอล และไตรกลีเซอไรด์ในเลือด นอกจากนี้ เชื้อแลคโตบาซิลัส ยังมีส่วนช่วยป้องกันโรคมะเร็ง สามารถจับกับสารก่อมะเร็ง จับกับโลหะหนัก และกรดน้ำดี ซึ่งมีพิษยับยั้งกลุ่มแบคทีเรียในลำไส้ ที่สร้างสารไนเตรท ซึ่งเป็นสารก่อมะเร็งตัวหนึ่งนั่นเอง

WM
ขอบคุณภาพจาก: https://www.freepik.com/author/azerbaijan-stockers

4. ควบคุมจุลินทรีย์ที่ไม่ต้องการในลำไส้
ในนมเปรี้ยว มีการสะสมของสารเมตาบอไลท์ ที่จุลินทรีย์ที่ผลิตกรดแลคติกขับออกมา มีคุณสมบัติ ยับยั้งการเจริญเติบโตของจุลินทรีย์ที่ไม่ต้องการ ในลำไส้ได้หลายชนิด เช่น Salmonella และ E.coll ทำให้พวกจุลินทรีย์เหล่านี้ ไม่สามารถทำอันตรายต่อร่างกาย ดังนั้น ควรดื่มนมเปรี้ยวอย่างสมํ่าเสมอ เพื่อให้มีกลุ่มจุลินทรีย์ที่ดี อาศัยอยู่ภายในลำไส้ของเรา

5. ช่วยให้ระบบการย่อยอาหารของลำไส้ดีขึ้น
จุลินทรีย์ในนมเปรี้ยว จะสร้างเอ็นไซน์ ที่สามารถย่อยอาหารได้มากกว่าปกติ เช่น เอ็นไซน์ย่อยโปรตีน จะช่วยให้การย่อยเคซีน ซึ่งเป็นโปรตีนชนิดหนึ่ง ที่มีอยู่มากในนม ช่วยให้มีการหลั่งนํ้าลาย และเอ็นไซน์ในกระเพาะอาหาร และตับอ่อนมากขึ้น ช่วยให้การเคลื่อนไหวของลำไส้ดีขึ้น จุลินทรีย์เหล่านี้ ยังสร้างเอ็นไซน์ย่อยน้ำตาลแลคโตส (B-galactosidase) ซึ่งสามารถเปลี่ยนน้ำตาลแลคโตส ซึ่งคนทั่ว ๆ ไป จะขาดเอ็นไซน์นี้หลังจากหย่านม ทำให้บางคน เมื่อทานนมแล้ว จะมีอาการท้องเสีย เนื่องจาก น้ำตาลแลคโตส ไม่ถูกย่อย แต่จุลินทรีย์ที่เติมลงในนมเปรี้ยวนี้ จะไปช่วยย่อยน้ำตาลแลคโตส ทำให้ผู้บริโภคไม่เกิดอาการท้องเสีย นอกจากนี้ จุลินทรีย์ที่สร้างกรดแลคติก ยังช่วยทำให้ร่างกายดูดซึมแคลเซียม และธาตุเหล็กได้ดีขึ้น

จุลินทรีย์ที่เติมในนมเปรี้ยวยังมีส่วนช่วยในการขับถ่าย DooDiDo ทำให้หลายคนเข้าใจผิดว่านมเปรี้ยวนั้นเป็นตัวช่วยในการลดน้ำหนัก ก่อนเลือกซื้อให้พิจารณาก่อนว่า การเลือกซื้อที่ปรุงแต่งเติมน้ำตาลและผลไม้ลงไป เท่ากับเป็นการเพิ่มพลังงานให้มากขึ้นด้วย แทนที่จะเป็นการลดน้ำหนั ก็อาจจะเป็นการเพิ่มน้ำหนักโดยไม่ตั้งใจนะคะ การดื่มนมเปรี้ยว ทำให้ร่างกายได้รับสารอาหารที่มีประโยชน์ แต่นมเปรี้ยวก็ให้โทษได้เหมือนกันนะคะ ถ้ากระบวนการผลิตไม่ได้มาตรฐาน เกิดการปนเปื้อนจากเชื้อโรคและสารต่าง ๆ ควรดูวันผลิตก่อนซื้อ และควรดูวันหมดอายุก่อนรับประทานเสมอค่ะ

ขอบคุณแหล่งที่มา : https://amprohealth.com, www.sgethai.com