ห้ามพลาด!! 5 เทรนด์การดูแลสุขภาพมาแรงในปี 2022
เราต้องดูแลสุขภาพให้แข็งแรง การออกกำลังกายเป็นอีกหนึ่งสิ่งที่ช่วยสร้างภูมิคุ้มกันให้ร่างกาย
สำหรับเทรนด์การรักสุขภาพมาแรงจริงๆ ตั้งต้นปีจนตอนนี้กำลังเข้าสู่ปีใหม่ 2022 การรักตัวเองหันมาดูแลสุขภาพก็ไม่แผ่วลงแม้แต่น้อย ถึงสถานการณ์การแพร่ระบาคของไวรัสโควิดจะไม่มีแววลดจำนวนผู้ติดเชื้อลงแถมตอนนี้ยังพบกับเชื้อไวรัสสายพันธุ์ใหม่ที่มีการค้นพบช่วงสิ้นปีที่อันตรายไม่แพ้ไวรัสตัวเก่า เรายิ่งต้องใช้ชีวิตกันอย่างระมัดระวังมากขึ้นไปอีก ถึงจะออกบ้านไม่ด้านนอกไม่นานก็ควรสวมใสหน้ากากอมายมัย เพื่อลดการติดเชื้อล้างมือให้สะอาดไม่ต้องรีบร้อน และพบเจลล้างหรือสเปรย์ที่มีส่วนผสมของแออลกอฮอร์เกิน 70%ขึ้นไปในการช่วยฆ่าเชื้อโรค และการเว้นระยะห่างประมาณ 2เมตร ลดการเอาตัวเองไปอยู่ในพื้นที่เสี่ยงหรือกลุ่มคนจำมากในสถานที่แออัดไม่มีอากาศถ่ายเท เราต้องดูแลสุขภาพให้แข็งแรง การออกกำลังกายเป็นอีกหนึ่งสิ่งที่ช่วยสร้างภูมิคุ้มกันให้ร่างกาย
เข้าสู่เดือนสุดท้ายของปี 2021 อย่างเป็นทางการ หลายคนใช้ชีวิตตลอดปีที่ผ่านมาอย่างเหน็ดเหนื่อย ยากลำบาก และต้องต่อสู้กับความท้าทายมากมาย เทรนด์เรื่องสุขภาพตลอดปีที่แล้วจึงเห็นภาพรวมได้ชัดเจนว่าคนส่วนใหญ่ในโลกหันมารักสุขภาพกันมากขึ้น รวมถึงการเลือกสรรสิ่งที่ใช้อุปโภคบริโภคในวิถีที่เป็นธรรมชาติและส่งเสริมความยั่งยืนด้านสิ่งแวดล้อมควบคู่กัน สำหรับเทรนด์ Wellness ที่จะรับช่วงต่อจากปีนี้จึงน่าสนใจมาก เพราะโลกเปลี่ยนเร็วและมีสิ่งกระตุ้นจิตใจมากมาย การรักษาสุขภาพที่จะกลายเป็นเทรนด์ใหม่ในปีหน้าจึงเป็นเทรนด์ที่คัดสรรจากสิ่งต่างๆ ที่เกิดขึ้นในปีนี้ THE STANDARD POP จึงสำรวจการคาดการณ์เทรนด์ Wellness 2022 ที่น่าสนใจมาฝากผู้อ่าน เพื่อให้เตรียมตัว เตรียมกาย เตรียมใจ ดูแลสุขภาพจากเทรนด์เหล่านี้
1.Mental Fitness ปี 2022 เราจะได้ยินคำนี้บ่อยขึ้น ผู้คนจะไม่เพียงออกกำลังกายเท่านั้น แต่เทรนด์ออกกำลังจิตใจจะเป็นที่นิยมในวงกว้าง เรื่องสุขภาพจิตจะใกล้ตัวทุกคนมากขึ้น มีการเปิดใจและเป็นที่ยอมรับมากขึ้น ทำให้มีการบำบัด การสนับสนุนด้านสุขภาพ และเกิดแพลตฟอร์มที่สนับสนุนด้านสุขภาพใจมากขึ้น
2.Mindfulness and the Accessibility of Meditation ความสำคัญของการมีสติและการเข้าถึงการทำสมาธิจะได้รับความนิยมมากขึ้นต่อเนื่องจากปีที่ผ่านมา ซึ่งจะมีแพลตฟอร์มโซเชียลใหม่ๆ ที่มารองรับเพื่อให้ทุกคนสามารถเข้าถึงการทำสมาธิได้ง่ายขึ้น ซึ่งเริ่มเห็นตัวอย่างจากใน Snapchat ของ Headspace Mini ซึ่งเรียกง่ายๆ ว่าเป็นแอปฝึกสติ เหมาะกับกลุ่มเพื่อนและคนในครอบครัวได้เข้ามาจอยและฝึกสติในการแก้ปัญหาต่างๆ ไปด้วยกัน นอกจากนี้ เทรนด์การฝึกหายใจเพื่อผ่อนคลายความเครียดจะเริ่มมีมากขึ้น และมันช่วยให้ผู้คนใช้เป็นวิธีจัดการความเครียดได้ในชีวิตประจำวันด้วย
3.Immunity-Boosting การให้ความสำคัญกับการเสริมภูมิคุ้มกันจะยังไม่หายไป มันได้แปรเปลี่ยนจากเทรนด์มาอยู่อย่างกลมกลืนในชีวิตประจำวันของผู้คนไปแล้ว ซึ่งจากแนวโน้มของการระบาดใหญ่โควิด ส่งผลให้คนทั่วโลกหันมาใส่ใจสุขภาพ ทั้งเรื่องอาหาร ผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร การพักผ่อนนอนหลับ การออกกำลังกาย และใส่ใจสุขภาพของลำไส้กันมากขึ้น
4.Emotional Wellness นอกจากมีเทรนด์เสริมสุขภาพกายสุขภาพใจแล้ว ในปี 2022 เราจะได้สัมผัสกับเทรนด์ใหม่ที่ให้ความสำคัญกับสุขภาพทางอารมณ์ มันจะเป็นการปรับตัวให้เข้ากับการเปลี่ยนแปลงและช่วงเวลาที่ยากลำบากให้ผ่านไปได้อย่างราบรื่น มันคือการเยียวยาที่เป็นธรรมชาติ โดยจะเน้นไปที่การเพิ่มความสามารถในการจัดการกับความเครียดในชีวิต เพื่อลดภาวะซึมเศร้าและลดความเครียดที่เกิดขึ้นบ่อยๆ ในชีวิตประจำวัน
5.Tracking Stress มีสถิติว่าความเครียดเกิดขึ้นสูงสุดเป็นประวัติการณ์ในช่วงล็อกดาวน์ของการระบาดหนักตลอดปีที่ผ่านมา อุปกรณ์และแก็ดเจ็ตต่างๆ จึงได้รับความนิยมมากขึ้นในการติดตามสุขภาพ อารมณ์ และความเครียดของตนเอง ซึ่งปีหน้าผู้คนจะใส่ใจกับการ Tracking Stress กันมากกว่าเดิม จนแทบกลายเป็นเรื่องปกติ เพื่อเช็กว่าตนเองได้รับความเครียดในแต่ละวันมากน้อยเพียงใด และกระทบต่อสุขภาพอย่างไร ซึ่งผลลัพธ์จากการ Tracking Stress เหล่านี้จะชี้ให้เห็นจุดอ่อน และสามารถกระตุ้นเตือนให้พวกเขาสามารถเปลี่ยนพฤติกรรมและกิจวัตรประจำวันให้ส่งผลดีต่อสุขภาพมากขึ้นได้
เป็นสิ่งที่หลายคนให้ควรความสำคัญและยังคงเป็นเทรนด์สำหรับปี 2022 กับการ5 แทนรด์ที่ DooDiDo ได้กล่าวมาข้างต้น การทานอาหารเสริมมากขึ้นเพื่อเสริมสร้างสุขภาพภูมิคุ้มกันหรือลองหันมาทานอาหารวีเก้นที่ประโยชน์ต่อร่างกายเพิ่มภูมิแก่ร่างกายแข็งแรง และในปี2022 สถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19น่าจะดีขึ้น สามารถออกไปด้านนอกได้มากขึ้น สุขภาพเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ควรหาเวลาไปพักผ่อนเยียวยาจิตใจและร่างกายได้พักฟื้นจากการทำงานอันแสนเครียดและหนักอึ้ง
ขอบคุณแหล่งที่มา: https://thestandard.co